โดย จิตติมา กุลประเสริฐรัตน์ ([email protected])
เทศกาลแห่งความสุขก็ผ่านพ้นไป ส่วนใหญ่จะได้อยู่กับครอบครัว รับประทานอาหารร่วมกัน โดยทางบขส.แจ้งว่ามีคนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองกับครอบครัวถึงห้าแสนคน สำหรับคนกรุงได้มีความสุขกับการจราจรที่โล่งตลอดซึ่งมีให้เห็นได้ทุกเทศกาล หลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ ใช้ชีวิตแบบเดิม สภาพแวดล้อมเดิม หลายคนตั้งเป้าหมายในชีวิตใหม่ หลายคนจะปรับจะเปลี่ยนตัวเอง บางคนมีปีใหม่ที่สดใสรออยู๋ บางคนก็ดูมืดมนกว่าเดิม หลายชีวิตอาจมีอุปสรรคขวากหนามรออยู่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตสิ่งที่เราต้องตั้งมั่นคือ “สติ” ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้าย ต้องมีสติพอที่จะรับมือกับสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นและก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะตามหลักพุทธศาสนา ความทุกข์ หรือ ความสุขที่ผ่านเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสมมุติที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่ไปหลงใหล งมงาย หรือจมทุกข์กับมัน เอาความทุกข์ใจกังวลใจทิ้งไป มีปัญหาอะไรค่อยๆใช้สติแก้ไขไปทีละเรื่อง อย่าเก็บความทุกข์ใจกังวลใจไว้กับคัว เราก็จะอยู่ได้แบบมีความสุข
ในขณะที่เรามัวแต่หมกมุ่นกับเรื่องของตัวเอง ให้มองดูรอบๆตัวเราอาจจะเห็นคนที่แย่กว่าเราแล้วแอบมองเรา ฝันอยากจะมีชีวิตแบบเรา ในขณะที่เราไม่เคยตระหนักในความโชคดีของตัวเองแต่กลับเป็นทุกข์เพราะมัวแต่มองสิ่งรอบตัวแบบอยากได้อยากมี เป็นการหาทุกข์ให้กับตัวเอง เพราะการมองแต่ “สิ่งที่ขาด” แต่ไม่เคยพอใจกับ “สิ่งที่มี” ลองมองสิ่งรอบตัวและ “สำนึก” ในสิ่งดีๆที่เรามีอยู่ หลายคนโชคดีที่มีโอกาสที่จะเลือกอะไรได้หลายๆอย่างในชีวิต เลือกที่จะมีชีวิตอิสระ เลือกในสิ่งที่อยากจะทำ เลือกที่จะทำในงานที่เราชอบ เลือกที่จะอยู่ใกล้คนที่เรารักและรักเรา เลือกที่จะร่วมกันสร้างครอบครัวอย่างมีความสุข เลือกที่จะกินอาหารที่อร่อย เลือกที่จะท่องเที่ยว ดูหนัง ช้อปปิ้ง จะเห็นได้ว่ามีความสุขหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวเราที่เราสามารถเลือกได้ ชีวิตนี้เป็นของเราและเราเป็นคนเลือกว่าจะเลือก “สุข” หรือ เลือก “ทุกข์” อยู่ที่วิธีคิดของเรานั่นเอง
น่าแปลกที่บางอย่างคิดแล้วทุกข์ คนเราก็ยังติดบ่วงเลือกที่จะทุกข์มากกว่าแสวงหาความสุข บางครั้งชีวิตก็ต้องเจอกับสิ่งที่เรียกว่า “อุปสรรค” อันเป็นสิ่งที่ต้องเจออยู่บนเส้นทางที่จะไปถึงเป้าหมาย บางครั้งอุปสรรคก็เป็นบทเรียนอันมีค่าแก่ชีวิตเรา เป็นบททดสอบที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ถ้าหนักหนาสาหัสก็นั่งพักตั้งสติแล้วเริ่มต้นฝ่าฟันใหม่ อย่าท้อถอย ปล่อยวางในบางเรื่องถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆเสมอไป มีทั้งวันดีและวันร้ายปะปนกันไป อยู่ที่ความคิดของเรา คิดอย่างไรก็ได้อย่างนั้น คิดดี ชีวิตก็ได้ดี คิดแย่ ชีวิตก็ได้แย่ คิดลบ ชีวิตก็ลบ คิดบวก ชีวิตก็บวก วันไหนทุกข์ก็รีบปลดปล่อยทุกข์ให้มันลอยไป วันไหนสุขก็เก็บความทรงจำดีๆไว้เมื่อไหร่ที่ทุกข์ก็เอาความทรงจำดีๆนั้นมาเยียวยาได้
อยากให้บทความนี้เป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้อ่านเผชิญกับปีหนูทองอย่างมีความสุข จะสุขมาก สุขน้อย จะมีอุปสรรคหรือความทุกข์อันใดก็ขอให้ก้าวผ่านไปให้ได้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการเมืองแบบนี้ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้มีสติ ตั้งมั่น ต่อสู้และฟันฝ่าไปให้ได้ คาดว่าปีนี้คงเป็นปีที่ยากลำบากของใครหลายๆคน แค่ทำตัวให้เป็นคนธรรมดาอยู่แบบมีความสุขตามอัตภาพ อย่าประมาทกับชีวิต ใช้สติตั้งมั่นเมื่อเจอกับปัญหา ปลดปล่อยความทุกข์และความกังวลให้หมดไป มองหาความสุขรอบตัวเราให้เจอ แค่นี้เราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ตลอดไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |