"บิ๊กป้อม" ยกคำเตือนนายกฯ เบรกม็อบไล่-เชียร์ทั้งสองฝ่าย ย้ำอย่าทำผิดกฎหมาย แกนนำ “วิ่งไล่ลุง” เทียบเชิญนายกฯ-ครม.ร่วมกิจกรรม อ้างไปรับฟังเสียง ปชช.ที่เดือดร้อนจากการบริหารของรัฐบาล "เหลิม" เสี้ยมคนคับแค้นทางจิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ "ปิยบุตร" ซัด "ณัฐพร" เรียน ป.วิอาญามาจากไหน เติมประเด็นตอนปิดคดี ปูดปฏิทินลงล็อก 5 ตุลาการยุบ อนค.ทิ้งทวน
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการฟิตร่างกายเตรียมพร้อมไปวิ่งแล้วหรือยังว่า ก็บอกไปแล้วว่าวิ่งไม่ไหว เมื่อถามแล้วจะไปเดินเชียร์ลุงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "เดินไม่ไหว จะเอาอะไรอีกล่ะ วันนี้ไม่วิ่ง ไม่เดิน จะนอน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่เชียร์ใครเลยหรือ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เชียร์ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายกรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่าให้หยุดทั้งสองฝ่าย สื่อเองก็ควรปฏิบัติตามที่นายกฯ ระบุไว้ในฐานะเป็นประชาชน อีกทั้งเป็นนักข่าวก็ต้องช่วยเหลือนายกฯ ด้วย เมื่อถามว่ามองกิจกรรมการวิ่งของทั้งสองฝ่ายอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ก็ไม่มีอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อนุญาตให้ทำกิจกรรมได้บอกแล้วว่าไม่ให้มีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้วิ่งเฉยๆ แต่ถ้าวิ่งไม่เฉยก็ถือว่าผิดข้อตกลง เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาระบุแล้วว่าอนุญาตให้วิ่งได้ แต่อย่าสร้างความปั่นป่วน อย่าทำให้ผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นชนวนสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็นชนวน ไม่มีแน่นอน เรื่องของชนวนความแตกแยกต่างๆ ยุติหมดแล้ว เราต้องร่วมมือกันเพื่อพาประเทศเดินไปข้างหน้า ดังนั้นจะต้องไม่มีเรื่องของความแตกแยกเกิดขึ้นอีก ส่วนที่บางจังหวัดมีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลในแต่ละพื้นที่นั้นๆ
ถามว่า ได้มีการประเมินจากหน่วยงานด้านความมั่นคงหรือยังว่าในวันที่ 21 ม.ค. ที่จะมีการตัดสินคดีของพรรคอนาคตใหม่(อนค.) จะเกิดความวุ่นวายอะไรขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะมีความวุ่นวายได้อย่างไร ตนยังไม่เห็นมีสัญญาณอะไรบ่งชี้ และเรื่องนี้เป็นเรื่องของศาล จะมาถามตนได้อย่างไร ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายตัดสินว่าผิดก็ถือว่าผิด ถ้ากฎหมายว่าถูกก็ถือว่าถูก
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ จ.พะเยาห้ามจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ควบคู่ไปกับพื้นที่ส่วนกลาง ว่า ยังไม่ทราบ เพราะไม่ได้กลับพื้นที่ จ.พะเยามาหลายเดือนแล้ว แต่หากเป็นกิจกรรมที่ จ.พะเยาเป็นคนทำ ไม่น่ามีปัญหา นอกจากเป็นกิจกรรมที่มีนักศึกษาซึ่งเป็นคนต่างถิ่นมาจัด อาจทำให้คนพะเยาเกิดความไม่พอใจ จึงเกิดกระแสในลักษณะนั้น ทั้งนี้ ไม่มีการสั่งการอะไรไปจากส่วนกลาง
วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. แกนนำจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” นำโดยนายธนวัฒน์ วงค์ไชย และ น.ส.สิรินทร์ มุ่งเจริญ เดินทางมายื่นหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ร่วมวิ่งในกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่สวนรถไฟในวันที่ 12 ม.ค.นี้ โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
เชิญนายกฯ รับฟัง ปชช.
นายธนวัฒน์กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00-09.00 น. ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนประมาณ 10,000 คน และคาดว่าในวันจริงจะมีผู้มาร่วมงานประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ที่มีนักการเมืองระบุว่าจะมาร่วมกิจกรรม ทราบว่าเป็นการประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนักการเมืองคนนั้น ขณะที่การดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้มาร่วมงานทางฝ่ายผู้จัดกิจกรรมได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เพื่อดูแลความปลอดภัยแล้ว สำหรับข้อกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุวุ่นวายหรือเหตุปะทะเนื่องจากมีการจัดกิจกรรมของกลุ่มเดินเชียร์ลุงที่สวนลุมพินีนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเราได้ยอมหลีกเลี่ยงให้ โดยจัดกิจกรรมคนละเวลากัน และสถานที่ห่างกันถึง 14 กิโลเมตร เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรง หรือเกิดการขยายผลไปสู่ความขัดแย้งขึ้น
"ที่เรามายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะได้ประชาสัมพันธ์มาก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่ได้มีเจตนาจะมาซ้ำเติมในช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สูญเสียบิดา และขอแสดงความเสียใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ และการมายื่นหนังสือก็เชิญทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ ครม.ไม่ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว เชิญไปเพื่อให้รับฟังเสียงของประชาชนที่เดือดร้อนจากการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันและรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นคนหน้าเดิมทั้งนั้น" นายธนวัฒน์กล่าว
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์ของการจัดวิ่งไล่ลุงและเดินเชียร์ลุงในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ว่าขณะนี้ กมธ.ยังไม่ได้รับข้อร้องเรียนใดๆ เพิ่มเติมจากทีมผู้จัดวิ่งไล่ลุง ขณะที่การจัดเดินเชียร์ลุง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเดียวกัน แต่เป็นที่สวนลุมพินีนั้น กมธ.ยังไม่เคยได้รับข้อเรียนถึงการถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ จึงเข้าใจว่ากิจกรรมเดินเชียร์ลุงไม่ได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่ทีมจัดวิ่งไล่ลุงเจอก่อนหน้านี้ แต่หากทีมเดินเชียร์ลุงประสบปัญหาถูกขัดขวาง ก็สามารถยื่นร้องมายัง กมธ.ได้ โดย กมธ.จะติดตามสถานการณ์ของทั้ง 2 กลุ่มอย่างต่อเนื่อง และยินดีรับร้องเรียนจากทุกฝ่าย ส่วนที่มีข่าวว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงตามหัวเมืองต่างๆ ถูกเจ้าหน้าที่กดดันไม่ให้จัดนั้น ตนยังเชื่อว่าหากวิ่งไล่ลุงใน กทม.สามารถจัดได้ พี่น้องประชาชนตามหัวเมืองต่างๆ ก็จะสามารถจัดได้ตามกรอบที่ถูกกำหนดขึ้นเหมือนๆ กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถปฏิบัติในแนวทางที่ต่างกันได้ เพราะนั่นจะถือเป็นความผิด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า คนที่ทำก็ต้องศึกษามาแล้ว วันนี้คนคับแค้นทางจิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ ก็ต้องแสดงออก ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่คนฆ่าตัวตายมากเท่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ขอให้กำลังใจคนที่คิดจัดกิจกรรมดังกล่าว เพราะเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยสงบและเปิดเผย
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาทวงถามความคืบหน้า เรื่องขอคัดสำเนาการสืบสวน ไต่สวน และคำวินิจฉัยของ กกต. จากกรณีมีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และมีประชาชนแต่งกายชุดดำมาให้กำลังใจด้วย
หลังจากนั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นางสาวจารุวรรณพร้อมตัวแทน 3 คนขึ้นไปพบกับเจ้าหน้าที่ ใช้เวลานาน 2 ชม. จากนั้น น.ส.จารุวรรณได้กลับลงมาเพื่อแจ้งให้กับประชาชนที่รออยู่ด้านล่างให้ได้รับทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่าได้รับหนังสือคำขอของตนวันที่ 18 ธ.ค. ส่งเข้าระบบวันที่ 20 ธ.ค.62 และจะนำส่งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารต่อไป วันนี้พี่น้องเรามากันเยอะ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ยอมกลับจนกว่าจะได้รับคำตอบว่าจะให้หรือไม่ให้ ขอให้แจ้งมาให้ชัดเจน เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งไปที่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ให้ส่งคำคัดค้านคดีภายใน 15 วัน
ปฏิทินลงล็อกยุบ อนค.
จากนั้น ในช่วงบ่าย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้เชิญ น.ส.จารุวรรณขึ้นไปพบเป็นการส่วนตัว ซึ่ง น.ส.จารุวรรณ กล่าวถึงการพูดคุยดังกล่าวว่า ทางเลขาธิการ กกต.ได้แจ้งด้วยวาจาถึงปัญหาที่ยังติดขัดโดยระบุว่าทาง กกต.ก็โดนฟ้อง และเรื่องดังกล่าวเป็นสำนวนคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แต่ทั้งนี้ก็จะพยายามเร่งให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของสำนักงานฯพิจารณาว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลใดให้ได้บ้าง โดยจะแจ้งกลับมายังตนเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้ ซึ่งก็มั่นใจว่าเลขาธิการ กกต.จะรักษาคำพูด ตนได้ชี้แจงว่าหากไม่ได้รับเอกสารจาก กกต.ก็จะไม่ได้สามารถสั่งคำคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของพรรคก็มีกระบวนการในการที่จะต่อสู้อยู่แต่ถ้าตนได้รับเอกสารจาก กกต. ก็จะได้มีการนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการชี้แจงร่วมด้วย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีคดีที่ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญว่า คดีอิลลูมินาติ แต่เนื้อหาที่แท้จริง คือมองว่าตนและนายธนาธรใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และจะขอให้ยุบพรรค ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรค แต่พอเขาร้องไปศาลรัฐธรรมนูญก็รับ แล้วเปิดโอกาสให้ต่อสู้กัน ทางเราเองได้เอกสารของฝ่ายผู้ร้องมา ทีนี้มันมีเอกสารสุดท้ายคือการแถลงปิดคดี ทางเราก็ส่งไปทางผู้ร้องส่งมา แล้วพอตนอ่านแล้วก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะปกติแล้วการแถลงปิดคดีเขาจะเพิ่มประเด็นไม่ได้ เพิ่มพยานหลักฐานใหม่ไม่ได้ แต่การแถลงปิดคดีของผู้ร้องท่านนี้ไม่รู้เรียนกฎหมายวิธีพิจารณาความมาบ้างหรือเปล่า เติมประเด็นอื่นเข้ามาเต็มไปหมดที่ไม่ได้อยู่ในการร้อง เช่นเดียวกับพยานหลักฐานอื่นๆ แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญเองมีดุลยพินิจยึดตามกฎหมายวิธีพิจารณาความ ซึ่งเราก็มั่นใจ
นายปิยบุตรกล่าวว่า เวลาคนคาดการณ์กันว่าพรรคอนาคตใหม่โดนยุบแน่ มีความคิดที่ตั้งฐานว่าการยุบพรรคการเมืองในประเทศไทยไม่ได้พิจารณาจากบริบททางกฎหมายอย่างเดียว แต่พิจารณาจากบริบททางการเมืองประกอบ และถ้าเป็นแบบนี้จริง แสดงว่าการยุบพรรคการเมืองไม่ใช่เป็นเพราะพรรคการเมืองนั้นล้มล้างการปกครอง หรือมีพฤติกรรมที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ไปคิดในมติเชิงการเมืองมากกว่า แต่ท้ายที่สุดพลังของเหตุผลจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร สังคมจะเชื่อมั่นหรือไม่ อยู่ที่เหตุผลของคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม แม้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตนและนายธนาธรก็ยังมีบทบาทในทางการเมืองต่อไป
“ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ ถูกตั้งคำถามตลอดเวลา 5 จาก 9 ท่าน หมดวาระตั้งแต่ พ.ค.60 แต่ คสช.ออกคำสั่งมาให้สรรหา แต่กลับเปลี่ยนใจ โดยให้ทั้ง 5 คนเป็นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมี พ.ร.ป.เกิดขึ้น กระทั่งมี พ.ร.ป.และ ส.ว.เกิดขึ้นแล้ว คณะกรรมการสรรหาฯ เองก็จี้ไปทางสมาชิกวุฒิสภา จนสมาชิกวุฒิสภาเองตั้งคณะกรรมการสามัญตรวจสอบประวัติ ที่ตอนนี้มีการขยายเวลาถึง 150 วัน สิ้นเดือน ม.ค.พอดี เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีของพรรคอนาคตใหม่จะถูกตัดสินในเดือนนี้ 1 เรื่อง ขณะที่คดีเงินกู้หากเร่งก็สามารถตัดสินได้ในเดือนนี้เลย เลยน่าสนใจที่ว่า ปฏิทินมันลงล็อกพอดี เป็นไปได้หรือไม่ว่าการตัดสินพรรคอนาคตใหม่เป็นการทิ้งทวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ท่าน” นายปิยบุตรกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |