ดาราสาว "พิงกี้" เข้าให้ปากคำดีเอสไอหลังเจ้าหน้าที่พบเส้นทางการเงินโยงคดีแชร์ฟอเร็กซ์ เจอสอบเครียดกว่า 4 ชั่วโมง ขณะที่ลูกทุ่ง "จ๊ะ อาร์สยาม" เข้าพบตามหมายเรียกในคดีแชร์แม่มณี ยันเป็นแค่พยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา
เมื่อวันที่ 7 มกราคมนี้ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ "พิงกี้" พร้อมมารดาและพี่ชาย เดินทางมาให้ปากคำเกี่ยวกับคดีแชร์ฟอเร็กซ์ 3D ในฐานะพยานต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เนื่องจากการสืบสวนพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับแชร์ฟอเร็กซ์ จึงต้องเรียกมาชี้แจงเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหายและพยานในคดีดังกล่าวกว่า 6 พันราย ซึ่งยังมีผู้ตกค้างอีกจำนวนมาก จึงต้องขยายระยะเวลา หลังจากนั้นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และปิดล้อม ตรวจค้น ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่
ส่วนคดีแชร์แม่มณี ในวันที่ 8 ม.ค. จะส่งสำนวนให้อัยการ และทางอธิบดีดีเอสไอได้สั่งการให้ทำคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะคดีแชร์ลูกโซ่จะดำเนินการเป็นเครือข่าย โดยจะเอาผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจากการสอบปากคำผู้เสียหายและเส้นทางการเงิน พบว่าเกี่ยวข้องกับ น.ส.นงผณี มหาดไทย หรือจ๊ะ อาร์สยาม โดยเป็นหน้าที่ที่บุคคลดังกล่าวต้องเข้ามาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างหรือโอนเงินในรูปแบบใด ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 7 ม.ค.จนถึงเวลา 16.30 น. ถ้าไม่มาก็จะเรียกเป็นครั้งที่ 2
"ขอประชาสัมพันธ์ไปยังบุคคลสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน ดารา นักแสดง การที่เราไปรับงานในบริษัทไหน ให้ช่วยทำการตรวจสอบในเบื้องต้นว่าเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้หรือไม่ เพราะประชาชนหรือสังคมมีความเชื่อมั่นในตัวศิลปิน ดารา ถ้าไม่มั่นใจสามารถสอบถามมายังดีเอสไอได้" นายปิยะศิริกล่าว และว่า ในส่วนของคดี เมื่อส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ถ้าจบในศาลชั้นต้นจะสามารถคืนทรัพย์ให้ผู้เสียหายได้ทันที แต่ถ้าถึงศาลฎีกาจะต้องใช้ระยะเวลานาน
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.สาวิกา หรือพิงกี้ เป็นเวลานานเกือบ 5 ชั่วโมง
ต่อมาในช่วงบ่าย มีรายงานว่า จ๊ะ อาร์สยาม พร้อมนายมนตรี บานเย็น ทนายความ เดินทางไปยังดีเอสไอ พบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจากคดีแชร์แม่มณี ที่มีการออกหมายเรียกดารานักแสดงหลายคนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน
น.ส.นงผณี หรือจ๊ะ อาร์สยาม กล่าวว่า มาให้ปากคำในฐานะพยาน ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหาในคดีแชร์แม่มณีแต่อย่างใด เพียงมีรูปภาพไปปรากฏว่าอยู่กับแม่มณี ส่วนเงินทั้งหมดที่ได้มาเป็นเงินค่าจ้าง ที่ได้จากการรับงานพิธีกรรายการของ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี จำนวน 12 เทป แต่อัดรายการไปได้เพียง 4-5 เทปเท่านั้น และได้รับค่าจ้างมาทั้งหมดไม่ถึง 10 ล้านบาท รวมทั้งงานไลฟ์สดให้กับแบรนด์มะนิลาของ น.ส.วันทนีย์ ระหว่างวันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งงานทั้งหมดมีคนกลางเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังคอยติดต่องานให้
น.ส.นงผณีกล่าวอีกว่า ยืนยันไม่เคยร่วมลงทุนกับแชร์แม่มณี ไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และไม่เคยชักชวนผู้เสียหายรายใดให้มาร่วมลงทุน เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยรู้จักฉายาแม่มณีมาก่อน และรู้จัก น.ส.วันทนีย์ ในฐานะผู้บริหารแบรนด์มะนิลาเท่านั้น ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ย้ำว่าตนเองเป็นเพียงพยานเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่มีชื่อของจ๊ะ อาร์สยาม ไปเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ฟอเร็กซ์ด้วย แต่จ๊ะปฏิเสธที่จะตอบ บอกเพียงว่าวันนี้มาให้ปากคำในคดีแม่มณีเท่านั้น
สำหรับคดีแชร์แม่มณี พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมสรุปสำนวนการสอบสวนชุดแรก เตรียมนำสำนวนฟ้องผู้ต้องหา 10 ราย ส่งให้อัยการสั่งฟ้องในวันที่ 8 ม.ค.นี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |