ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา กระแสอินเทรนด์อันหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือ การสร้างภาพเชิงสัญลักษณ์ "ประชดประชัน" นโยบายการไม่ใช้ถุงพลาสติกของบรรดาห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะห้างยักษ์ ห้างสะดวกซื้อทั้งหลาย เพื่อร่วมรณรงค์ในการลดขยะพลาสติก และเป็นนัยว่าเป็นการช่วยลดโลกร้อนไปได้อีกทางหนึ่งด้วย
    ประชดประชันแล้วสนุกสนาน ขำๆ ก็ว่ากันไป เพราะทำเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายๆ เข้าไว้ ชีวิตก็จะสดใส แต่ถ้าทำแล้วเพื่อประกาศบอกว่า "ไม่เห็นด้วย" ล่ะก็ คงจะต้องเครียดหนักแน่นอน เพราะว่ากันตามจริงแล้ว การไม่ให้ถุงใส่สินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น เมืองนอกเมืองนาโดยเฉพาะยุโรปนั้น เขาทำกันมานานโขแล้วล่ะ
    แม้กระทั่งพี่ยักษ์อย่างสหรัฐอเมริกาและจีน เขาก็ทำเยี่ยงนี้เช่นกัน
    พี่ไทยเสียอีกที่เพิ่งมาเห่อเลียนแบบเขา 
    ฉะนั้นใครที่รู้สึกว่าถูกห้างร้านเอาเปรียบ เพราะพวกเขาไม่ต้องเสียต้นทุนเรื่องถุงใส่ของอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป แทนที่จะโวยวายเรียกหาความถูกต้องเป็นธรรม ทำไม?? ไม่ตั้งคำถามว่า ต้นทุนค่าถุงที่หายไปนั้น ท่านทั้งหลายควรจะคืนให้กับสังคมด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่งดีไหม?? 
    อาจจะให้องค์กรการกุศล บริจาคให้เด็ก หรือตั้งกองทุนลดขยะพลาสติกขึ้นมา ทำให้เห็นเป็นกิจจะลักษณะกันไปเลย ด้วยเงินต้นทุนจากที่เคยสั่งปั๊มถุงพลาสติกทั้งหลายตามโลโก้ของตัวเอง
    ไม่เห็นด้วยแล้วเสนอทางออกที่น่าสนใจ รับรองว่าแนวร่วมจะเพิ่มขึ้นนะจ๊ะ เหมือนข้อความผ่านทางไลน์ตอนนี้ มนุษย์ป้าเห็นแล้วรู้สึกว่า..ไอเดียเริ่ดสุดๆ 
    เขาเริ่มต้นด้วยการบอกว่า ...อีกไม่นานจะเข้าสู่ฤดูกาลของผลไม้ของเรา เช่น มะม่วง ทุเรียน เงาะ มังคุด ขนุน ฯลฯ กำลังจะมาเยือนเราอีกเช่นทุกๆ ปี
    เมื่อฤดูกาลแห่งผลไม้มาถึง เมื่อพวกเรากินเนื้อของมันหมดแล้วกรุณาอย่าโยนเมล็ดผลไม้เหล่านั้นลงในถังขยะของคุณ แต่แทนที่การเทลงถังขยะ กรุณานำเมล็ดเหล่านั้นมาล้าง นำไปผึ่งแดดให้แห้ง และห่อเก็บไว้ในหนังสือพิมพ์ เก็บไว้ในรถของคุณ และเมื่อใดที่คุณออกไปข้างนอกและพบกับพื้นที่เปิดโล่ง ที่ดินรกร้างหรือป่าในระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นข้างถนนในหมู่บ้าน ป่าข้างทาง บนที่ดินว่างเปล่าให้โยนเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ลงไป เพื่อให้พวกมันงอกและเจริญเติบโตขึ้นมาใหม่ในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
    ด้วยการทำสิ่งที่เรียบง่ายนี้ เราสามารถเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการเพิ่มสีเขียวให้กับโลก แม้เพียงต้นไม้ต้นเดียวในแต่ละฤดูกาล........แก่โลกของเรา
    ภารกิจของเราในการเปลี่ยนโลกใบนี้ให้เป็นสีเขียวก็จะประสบความสำเร็จ  
    รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนประชาชนทุกคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายคนผลักดันแคมเปญนี้อย่างจริงจังซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จำนวนไม้ผลในป่าทวีคูณโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือของประเทศไทย 
    ด้วยความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมนี้ ถ้าพวกเราช่วยกันเพื่อกระจายความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติด้วยวิธีที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพนี้ 
    ดีงามจริงๆ นะคะ วิธีเปลี่ยนโลกแบบนี้.
                                        "ป้าเอง"