7 ม.ค.63- นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงคดีที่ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ว่า คดีอิลลูมินาติ แต่เนื้อหาที่แท้จริง คือมองว่าตนและนายธนาธร ใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย และจะขอให้ยุบพรรค ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรค แต่พอเขาร้องไปศาลรัฐธรรมนูญก็รับแล้วเปิดโอกาสให้ต่อสู้กัน ทางเราเอง ได้เอกสารของฝ่ายผู้ร้องมา ทีนี้มันมีเอกสารสุดท้าย คือการแถลงปิดคดีทางเราก็ส่งไป ทางผู้ร้องส่งมา ตนอ่านแล้ว ก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะปกติแล้ว การแถลงปิดคดี เขาจะเพิ่มประเด็นไม่ได้ เพิ่มพยานหลักฐานใหม่ไม่ได้ แต่การแถลงปิดคดีของผู้ร้องท่านนี้ ไม่รู้เรียนกฎหมายวิธีพิจารณาความมาบ้างหรือเปล่า แต่การแถลงปิดคดีของเขาเติมประเด็นอื่นเข้ามาเต็มไปหมด ที่ไม่ได้อยู่ในการร้อง เช่นเดียวกับพยานหลักฐานอื่นๆ แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญเองมีดุลยพินิจยึดตามกฎหมายวิธีพิจารณาความ ซึ่งเราก็มั่นใจ

เขากล่าวต่อว่า คำถามอยู่ที่ว่า เวลาคนคาดการณ์กันว่า พรรคอนาคตใหม่โดนยุบแน่ ความเห็นเหล่านี้ มันแสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่า แต่ละท่านที่แสดงความเห็นว่าพรรคอนาคตใหม่โดนยุบแน่ มีความคิดที่ตั้งฐานว่า การยุบพรรคการเมืองในประเทศไทย ไม่ได้พิจารณาจาก บริบททางกฎหมายอย่างเดียว แต่พิจารณาจากบริบททางการเมืองประกอบ และถ้าเป็นแบบนี้จริง แสดงว่า การยุบพรรคการเมืองในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นเพราะพรรคการเมืองนั้นล้มล้างการปกครอง หรือมีพฤติกรรมที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ไปคิดในมติเชิงการเมืองมากกว่า

“ผมไม่ได้มีอำนาจวินิจฉัย ปากกาไม่ได้อยู่ที่ผม ต่อให้ผม วันนี้นั่งบนโต๊ะแล้วเขียนออกมาแล้วลงชื่อผม มันก็ไม่มีทางเป็นคำวินิจฉัย แต่ในขณะเดียวกัน คน 9 คนที่ใส่ชุดครุย แล้วไปนั่งตัดสินคดีบนบัลลังค์แล้วมีชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญ เขาตัดสินแล้ว เขามีอำนาจ เพราะรัฐธรรมนูญรับรองเอาไว้ แต่ท้ายที่สุด พลังของเหตุผลจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร สังคมจะเชื่อมั่นหรือไม่ อยู่ที่เหตุผลของคำวินิจฉัย”

 เมื่อถามว่า หากคำวินิจฉัยเป็นลบ ถึงขั้นยุบพรรค ทางพรรคมีมาตรการรองรับอย่างไร นายปิยบุตรตอบว่า หากผู้มีอำนาจเชื่อว่า การกำจัดพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนทางที่ถูกต้อง หรือการตัดสิทธิแล้วให้ตนและธนาธรไม่มีบทบาททางการเมือง ก็ไม่เป็นไร เพราะ ตนจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ความพยายามเหล่านี้ไม่มีทางสำเร็จ เราจะทำทุกวิถีทาง เช่น ส.ส.เราจะไปอยู่ที่ใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน ธนาธร และ ตนก็ยังมีบทบาทในทางการเมืองต่อไป เพียงแต่ไม่ได้พูดในสภาแต่ถ้าเขาไม่ยุบ เราก็จะดำเนินการของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป

“ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ ถูกตั้งคำถามตลอดเวลา 5 จาก 9 ท่าน หมดวาระตั้งแต่ พ.ค. 60 แต่ คสช.ออกคำสั่งมาให้สรรหา แต่กลับเปลี่ยนใจ โดยให้ทั้ง 5 คนเป็นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีพรป.เกิดขึ้น กระทั่ง มี พรป.และสว.เกิดขึ้นแล้ว คณะกรรมการสรรหาฯเองก็จี้ไปทาง สมาชิกวุฒิสภา จนสมาชิกวุฒิสภาเองตั้งคณะกรรมการสามัญตรวจสอบประวัติ ที่ตอนนี้มีการขยายเวลาถึง 150 วันสิ้นเดือน ม.ค.พอดี เป็นที่น่าสังเกต ว่า คดีของพรรคอนาคตใหม่จะถูกตัดสินในเดือนนี้ 1 เรื่อง ขณะที่คดีเงินกู้หากเร่งก็สามารถตัดสินได้ในเดือนนี้เลย เลยน่าสนใจที่ว่า ปฏิทินมันลงล็อกพอดี เป็นไปได้หรือไม่ว่า การตัดสินพรรคอนาคตหม่ เป็นการทิ้งทวน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ท่าน”.