ถกงบ8-9มค.วิปฯโวโหวตฉลุย


เพิ่มเพื่อน    

  "ชวน" เปิดสภาถกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณวาระ 2-3 วันที่ 8-9 ม.ค.นี้ ถ้าไม่พอก็ต้องต่อ ยันไม่ป่วน วุ่นวายแค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ด้าน "วิรัช" เผยคุยกับฝ่ายค้านแล้ว มีผู้อภิปรายรวม 146 คน กำชับ ส.ส.อยู่สภาตั้งแต่เริ่มจนเลิก ประสาน "บิ๊กตู่" เข้าร่วมประชุม ดีใจงูเห่าส้มหวานร่วมทัพ "บิ๊กป้อม" นั่งคุมเอง
     เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระ 2-3 ว่า เป็นเรื่องปกติของการแถลงงบประมาณ ปีนี้เป็นปีแรกของรัฐบาลชุดนี้ ฉะนั้นจึงกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 8-9 ม.ค. ถ้าไม่เพียงพอก็ต้องต่อ แต่จะต่อไปกี่วันคงต้องดูที่เหตุการณ์ความเห็นของผู้อภิปราย
     ผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายงบจะมีความวุ่นวายหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่า "ไม่หรอก วุ่นวายแค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่จริงๆ เป็นเรื่องปกติของการอภิปรายงบ ผู้แปรญัตติและสงวนญัตติมีสิทธิ์อภิปราย และหากจะยืดยาว 3-4 วันนั้นก็เป็นเรื่องปกติของทุกปี ไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหารุนแรง ซึ่ง กมธ.ก็มีหน้าที่ชี้แจงประเด็นต่างๆ แต่แน่นอนว่าเป็นการให้เหตุผลการตัดงบแต่ละเรื่อง" 
    อย่างไรก็ตามสามารถอภิปรายได้ทุกกระทรวง เป็นสิทธิ์ของสมาชิก ผู้แปรญัตติ และถึงแม้จะไม่แปรญัตติแต่ก็ต้องมีการแก้ไข และสมาชิกก็มีสิทธิ์อภิปรายเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องปกติที่เป็นมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกพิสดารอะไร รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ยังคงใช้วิธีการนั้นอยู่
    ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการวางกรอบการอภิปรายว่า ได้หารือกับนายสุทิน  คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านว่าจะให้เวลาอภิปรายเต็มที่ โดยทราบว่ามีผู้ที่จะอภิปรายรวม 146 คน แบ่งเป็นส่วน กมธ.ของฝ่ายค้านจำนวน 26 คน ทั้งนี้ตนได้กำชับ  ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่เวลาเริ่มประชุมไปจนถึงเวลาเลิกประชุมของแต่ละวัน เนื่องจากการอภิปรายวาระสองต้องใช้การลงมติแบบรายมาตรา ก่อนที่จะลงมติในวาระสามอีกครั้ง
    เขากล่าวว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 2563 วันที่ 8 ม.ค.ได้นัด ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลให้มาพร้อมกันที่รัฐสภา ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ไปจนถึงเวลาเลิก ซึ่งวันแรกอาจพิจารณาเกินเวลาเที่ยงคืน จากนั้นจะพักการประชุม และในวันที่ 9 มกราคมจะเริ่มประชุมได้ทันทีโดยไม่ต้องนับองค์ประชุม และเมื่อพิจารณาวาระสองแล้วเสร็จก็สามารถลงมติในวาระสามได้ทันที โดยเชื่อว่าระยะเวลา 2 วันจะแล้วเสร็จได้ แต่หากไม่แล้วเสร็จสามารถต่อไปจนถึงวันที่ 10 ม.ค.ได้ ไม่ขัดข้อง 
    นายวิรัชกล่าวด้วยว่าได้ประสานไปยังนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ เพื่อนำเรียนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทราบถึงการเข้าร่วมประชุมสภาวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทั้งนี้ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาร่วมการประชุมช่วงเวลาใด
    ถามว่าการันตีหรือไม่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบ 63 แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ประธานวิปรัฐบาลตอบว่า ทุกพรรคในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะอยู่ร่วมโหวตตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าฝ่ายค้านอาจใช้สิทธิ์ขอให้ลงคะแนนใหม่ เชื่อว่าจะสงวนลิขสิทธิ์เฉพาะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น
    เขากล่าวว่าเสียงของ ส.ส.ในสภามีจำนวน 498 คน ไม่รวมนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร สำหรับ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจำนวน 117 คน ซึ่งล่าสุดจะได้เสียงเพิ่มจาก พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) ตนและนายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรค จะไปต้อนรับเข้าพรรคอย่างเป็นทางการ รวมทั้งนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น ที่ชนะเลือกตั้งซ่อม  
    นอกจากนี้ในวันดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จะเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ ส.ส.สวัสดีและอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2563 ด้วย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังทราบว่าพรรคพลังท้องถิ่นไทจะได้เพิ่มอีก 1 คนจากนายจารึก ศรีอ่อน ทำให้พรรคพลังท้องถิ่นไทมี ส.ส.เพิ่มเป็น 5 คน ทำให้เสียงโหวต พ.ร.บ.ของฝั่งรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
    ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน โดยนายสุทินชี้แจงต่อที่ประชุมว่า วิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้หารือกรอบการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยเบื้องต้นว่า การอภิปรายจะมีขึ้นวันที่ 8 และ 9 ม.ค.นี้ โดยจะประชุมถึงเวลาเที่ยงคืน แต่หากการอภิปรายไม่จบก็จะพักการประชุมและขยายเวลาการประชุมไปถึงวันที่ 10 ม.ค.
    นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะ กมธ.เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการขอสงวนคำแปรญัตติไว้เป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นคือการตัดลดงบประมาณสำรองฉุกเฉินที่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งงบประมาณไว้ที่  96,000 ล้านบาท โดยในการใช้งบประมาณส่วนนี้ พล.อ.ประยุทธ์สามารถออกคำสั่งนำมาใช้ได้ ด้วยระยะเวลาและจำนวนเงินที่มากเกินความจำเป็น คณะกรรมาธิการจึงเสนอตัดลดงบประมาณในส่วนนี้ลงไปจำนวน 40,000 ล้านบาท เพราะเวลาในการใช้งบประมาณเพียง 7 เดือน แต่รัฐบาลกลับตั้งงบประมาณไว้มหาศาล 
    นายเรืองไกรกล่าวว่า ขณะเดียวกันได้ขอสงวนคำแปรญัตติงบประมาณของกระทรวงกลาโหมไว้ทั้งหมด หรือมากกว่า 100,000 ล้านบาท ที่จำเป็นต้องตัดงบประมาณส่วนนี้ทั้งหมด เพราะที่มาของพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่อว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจำต้องตัดทั้งหมด จะปล่อยให้หน่วยงานที่มีที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมายมาขอใช้งบประมาณไม่ได้ 
    ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ม.ค. วิปวุฒิสภาจะนัดพิจารณาเพื่อเตรียมความพร้อมการพิจารณาร่างงบประมาณ ทั้งนี้ในการพิจารณาของ ส.ว.มีสิทธิเฉพาะการอภิปรายและลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ภายในระยะเวลา 20 วัน เบื้องต้นคาดว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 จะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้ 
    นอกจากนี้ ในการประชุมวันดังกล่าวจะพิจารณาเกี่ยวกับการปรับแก้ไขแผนปฏิรูป 11 ด้าน ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงและรับฟังความเห็นจากประชาชนช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 เบื้องต้นเคยเสนอในการประชุมวุฒิสภา ช่วงกระทู้ถามสดให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับฟังความเห็นของวุฒิสภาเพิ่มเติมจากการเปิดเวที 4 ภาค แต่ยังไม่มีความชัดเจนและคืบหน้าต่อประเด็นดังกล่าวจาก ครม.
     ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ร่วมกันแถลงยุบฝ่ายค้านอิสระ 2 พรรค เข้าเสริมทัพรัฐบาลลุงตู่ 2 โดยมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรค พปชร., นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะแกนนำกลุ่มกิจสังคมใหม่ และนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย
    โดยนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์และพรรคประชาธรรมไทยได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระแบบสร้างสรรค์มาตลอดระยะเวลา 4 เดือนเศษ ทราบถึงปัญหาเสียงปริ่มน้ำ ทำให้มีความรู้สึกไม่สบายใจถ้าปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศแบบไร้เสถียรภาพแบบนี้ต่อไป ปัญหาก็จะเกิดกับประชาชนโดยตรง ทั้งสองพรรคได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้จัดตั้งรัฐบาลมา จึงทราบถึงแนวคิดและวิธีการจัดการประเทศอุดมการณ์และความตั้งใจ รวมถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ที่ต้องทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขร่มเย็นให้ได้นั้น จะต้องมีเสียงสนับสนุนในสภาให้เกินกึ่งหนึ่งของสภาประมาณ 20-30 เสียง  จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็วและผิดพลาดน้อยที่สุด 
    "จึงมีมติในแนวทางเดียวกันให้ยุบฝ่ายค้านอิสระตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.63 เพื่อเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล มาอยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นกำลังเสริมในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป" นายมงคลกิตติ์กล่าว 
    ขณะที่นายพิเชษฐกล่าวว่า สองเสียงในสภามีความสำคัญ และบทบาทของกลุ่มกิจสังคมใหม่เกิดขึ้นเพราะเห็นว่าความมีเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญ และจะเห็นได้ว่าจากเหตุการณ์สภาล่มถึง 2  ครั้งที่ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล และครั้งนี้จะเป็นการเล่นการเมืองครั้งสุดท้ายของตน จึงต้องการจะสนับสนุนการสร้างความมั่นคงให้รัฐบาลไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน พร้อมกับไม่ต้องการให้รัฐบาลต้องกังวลกับเสียงปริ่มน้ำ
    ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายมงคลกิตติ์และพิเชษฐได้ร่วมกันเปิดสวิตช์ไฟสีธงชาติเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังได้มอบหนังสือแถลงการณ์ที่แสดงเจตจำนงลงนามร่วมกันเข้าร่วมรัฐบาลแก่นายอุตตมและนายสนธิรัตน์อย่างเป็นทางการด้วย
    ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคโดยมีแกนนำเข้าร่วมประชุม และมีรายงานว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูว่า คุณหญิงสุดารัตน์เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากห้องทำงานที่พรรคหมดแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ยังไม่มีการอนุมัติหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ
     อย่างไรก็ดีเมื่อสอบถามไปยัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยและคนสนิทคุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับการเปิดเผยว่า เพิ่งทราบหลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกมา สงสัยคุณหญิงสุดารัตน์จะลาออกได้อย่างไร วันนี้คุณหญิงสุดารัตน์ยังนัดทานข้าวกับ ส.ส.กทม.และ ส.ก.พรรคเพื่อไทย วันที่ 7  ม.ค.ยังนัด ส.ส.ต่างจังหวัดพรรคเพื่อไทยมาทานข้าวเย็นที่บ้าน แบบนี้จะลาออกได้อย่างไร จึงไม่รู้ว่ากระแสข่าวดังกล่าวออกมาจากไหน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"