6 ม.ค.63-ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อเวลา 08.45 น. ได้เข้าปฏิบัติภารกิจที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีภารกิจในเวลา 09.30 น. คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่เข้าอำลา และรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10  ณ เมืองซูบิค สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) จากนั้นเวลา 11.30 น. คณะกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบของขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า 

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 09.05 น. สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่านายกฯได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานแทนทั้ง2งาน แต่ต่อมาเวลา 09.20 น. ได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยแจ้งว่านายกฯจะลงมาพบคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และคณะฯตามกำหนดการเดิม ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า สาเหตุที่นายกฯจะไม่ลงมาร่วมงานในตอนแรกเนื่องจากมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

จากนั้นเวลา 09.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้โอวาทคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ฯตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมานักกีฬาทุกคนสร้างชื่อเสียงแลเกียรติประวัติมากมายให้ประเทศ และทำให้คนไทยมีความสุข ทุกคนทั้งนักกีฬา โค้ช รวมทั้งนายกฯ ก็คาดหวังและให้ความสำคัญการแข่งขันกีฬาซึ่งเป็นส่วนในการสร้างเสริมคนไทยให้รู้แพ้รู้ชนะและรู้อภัย สิ่งที่นักกีฬาทำ แสดงให้เห็นความมุ่งมั่น แม้ร่างกายไม่พร้อมเหมือนคนปกติและยากกว่า แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกำลังใจถ้าช่วยกันคิดช่วยกันทำเชื่อว่าประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้แน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ในนามนายกฯ รัฐบาลและคนไทยทั้งประเทศ ขอชื่นชมทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนในครั้งนี้ ทราบดีว่ามาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้ความอดทน เสียสละ ความมุ่งมั่น ซึ่งทุกคนล้วนมีปัญหาส่วนตัวในชีวิต แต่เราต้องมองปัญหา อุปสรรคเหล่านี้ว่าต้องเอาชนะให้ได้ในทุกเรื่อง จึงต้องมีความหวัง มีความเชื่อ มีความมุ่งมั่นและมีความศรัทธาในการทำความดี รัฐบาลก็เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันทุกคนต้องมีความยึดมั่นว่าเรามาถึงจุดนี้ไม่ได้มาง่ายๆ จึงต้องรักษาให้นานที่สุดที่สำคัญต้องมีระเบียบวินัย และใช้ความสามารถของตัวเองให้มากที่สุด ในส่วนอุปสรรคต่างๆ เราต้องเอาชนะให้ได้ โดยในช่วงที่จะมีการแข่งขันทุกคนต้องลืมปัญหาของเราไปชั่วขณะ เพื่อทุ่มเทจิตใจจะเอาชนะ โดยคนไทยจะส่งแรงใจให้ ตนขอเชิญชวนประชาชนส่งแรงใจให้นักกีฬา ที่เท่ากับนำคนไทยกว่า 76 ล้านคนและชื่อเสียงของคนไทยไปด้วย แม้ไม่ได้ชัยชนะแต่ได้เพื่อน และเป็นเสมือนทูตวัฒนธรรม อยากให้นำหนังสือที่มีรูปภาพที่เกี่ยวกับประเทศไทยไปเผยแพร่ด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ช่วยสร้างความเข้าใจกับประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราไม่มีการกีดกันไม่มีการแบ่งแยกคนทุกเชื้อชาติแข่งขันกีฬาในนามประเทศไทย ดังนั้นต้องส่งเสริมความรักความสามัคคีและแสดงความสามารถของเราให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาชาติ ทั้งนี้ในนายกฯ ครม. และคนไทย ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสร้างแรงบันดาลใจคนไทยว่าแม้เรามีร่างกายไม่เหมือนคนอื่น แต่มีจิตใจที่แข้มแข็ง ขอให้ทุกคนภูมิใจกับตัวเองให้มาก เมื่อแข่งกีฬาจบตัดสินแล้วก็คือจบ เพราะสิ่งเหล่านี้คือกีฬา เป็นยาวิเศษ เราต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ หยุดยั้งไม่ได้เหมือนนายกฯ และรัฐบาล ที่ปัญหามีมากแต่ตนก็อดทน มุ่งมั่นทำสิ่งที่ดีงามให้ประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าเรามีคนจำนวนมากความเห็นไม่ตรงกันเป็นธรรมดา แต่ทำอย่างไรให้ทุกคนมีส่วนร่วมเดินไปข้างหน้า อะไรเป็นปัญหาช่วยแก้ ซึ่งไม่ง่ายเหมือนการแข่งขันกีฬา แต่ต้องตั้งใจว่าเราจะทำให้ดีกว่าที่ผ่านมา รัฐบาลจะทำวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ ตนก็ทำแบบนี้ทุกวันไม่เคยทอดทิ้งเรื่องเหล่านี้ เหมือนกีฬาถ้าแพ้แล้วแพ้อีกที่เดิมในกีฬาบางประเภทก็เท่ากับเราไม่พัฒนา ดังนั้นกีฬาต้องพัฒนาตัวเองเสมอ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนยิ้มไว้และขอให้มีผลการแข่งขันที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่เป็นความกดดันแต่เป็นการสร้างความหวัง นอกจากนี้ในส่วนการดูแลผู้พิการนั้นรัฐบาลพยายามคำนึงถึงมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างต้องทยอยดำเนินการ ที่ผ่านมาอาจดำเนินการน้อยหรือช้าเป็นเรื่องของอดีต แต่เราจะพยายามทำให้ดีขึ้น สุดท้ายตนขอฝากหัวใจไว้กับท่าน ฝากแรงรักแรงศรัทธาและประเทศไทยไว้กับท่านทุกคน

ทั้งนี้ภายหลังให้โอวาท นายกฯ ได้เดินมาทักทายนักกีฬา พร้อมกล่าวว่า "พวกเราไปแข่งขันกีฬาที่โน่น ส่วนผมอยู่ที่นี่ก็แข่งกีฬาเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ผมหรือเปล่า ผมทำความดี" อย่างไรก็ตาม ได้มีนักกีฬาคนหนึ่งกล่าวติดตลกว่า "ขอให้กำลังใจลุง ขอให้วิ่งให้ทันเขานะลุง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้โอวาท พล.อ.ประยุทธ์ มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีเสียงที่ค่อนข้างแหบแห้งจากอาการป่วยเป็นไข้หวัด