6 ม.ค.63-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ ’อ้น’ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.) เผยแพร่ข้อความทางเฟซบุ๊คของพรรคเมื่อวันที่ 3 มค. 63 อ้างว่านายนิติพลเป็นคนทำและนำเสนอนโยบายสิ่งแวดล้อมยั่งยืนโดยการเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทุกชนิด (single-use plastic) ภายใน 4 ปี ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองใดพูดถึงเรื่องนี้เลยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาในวันที่พรรคอนาคตใหม่แถลงเปิด 12 นโยบายหลัก 16 ธ.ค. 61แล้วรัฐบาลนำนโยบายไปใช้ว่า นายนิติพลกำลังสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดกับประชาชน คิดว่านโยบายเลิกใช้ถุงพลาสติกที่รัฐบาลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากการนำเสนอนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ทั้งที่มาตรการดังกล่าว รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ริเริ่มดำเนินการมาก่อนพรรคอนาคตใหม่นำเสนอนโยบายมากว่า 8 เดือน รัฐบาลจึงไม่ได้นำนโยบายของพรรคอนาคตใหม่มาใช้อย่างที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การกล่าวอ้างนั้นจึงเหนือความเป็นจริง เพราะตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2561 นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกแบบบูรณาการ ให้จัดการพลาสติกตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การจำหน่าย การบริโภค และการจัดการปลายทาง ต่อมาวันที่ 21 พ.ค. 62 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและคณะทำงานด้านพัฒนากลไกการจัดการพลาสติก
ต่อมาจึงได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศ พ.ศ. 2561-2573 และแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2565 และได้กำหนดการลดและเลิกใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic) 7 ชนิด ภายในปี 2568 โดยวางเป้าหมายเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ปี 2562 เลิกใช้ 3 ชนิด คือพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (แคปซีล) ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารประเภทอ็อกโซ่ (oxo) และไมโครบีดจากพลาสติก (Microbead), ระยะที่ 2 ปี 2565 เลิกใช้2 ชนิด คือ ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน และ กล่องโฟมบรรจุอาหาร, ระยะที่ 3 ปี 2568 เลิกใช้ 2 ชนิด คือ แก้วน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และ หลอดพลาสติก ดังนั้นมาตรการลดการใช้ถุงพลาสติกที่รัฐดำเนินการอยู่จึงเป็นการทำงานต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นกรอบนโยบายกว้างๆ ที่ใช้ในการหาเสียงแต่อย่างใด
รองโฆษก พปชร.กล่าวว่า นอกจากนี้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและคณะทำงานด้านพัฒนากลไกการจัดการพลาสติกได้วางแนวทางครบถ้วนทั้งระบบแล้วตามกรอบแนวคิดการจัดการพลาสติกตลอดวงจรชีวิต, หลักการ 3R, หลักการมีส่วนร่วมจากภาครัฐและเอกชน, แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และหลักการ ผู้ผลิตมีส่วนร่วมในการจัดการขยะพลาสติก ดังนั้นจึงไม่มีทางเกิดปัญหาขยะล้นเมือง ตามที่นายนิติพลวิจารณ์ ซึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่ได้ศึกษาแผนงานจัดการของรัฐให้เข้าใจ ดังนั้นจึงควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อนที่จะวิจารณ์มาตรการดังกล่าว
"ในขณะที่นโยบายลดการใช้ถุงพลาสติกเป็นไปตามหลัก Reduce การนำเข้าเศษพลาสติกเพื่อการรีไซเคิลของภาคเอกชนก็เป็นไปตามหลักการ Recycle ของหลัก 3R มีการนำเศษพลาสติกมารีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ราคาถูกเพื่อรองรับการผลิตภายในประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำให้อุตสาหกรรมชนิดนี้เติบโต ยังทำให้มีการขยายตัวของโรงงานคัดแยกและรีไซเคิลเกี่ยวกับพลาสติกมากกว่า 6,000 แห่ง เกิดการจ้างงานและเพิ่มมูลค่าอีกด้วย นอกจากนี้รัฐยังเร่งมาตรการคัดแยกขยะเพื่อลดการนำเข้า และส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อให้การจัดการขยะพลาสติกมีความยั่งยืน มีการนำพลาสติกกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าของทรัพยากรครบวงจรทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ"
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานมักอวดอุตริอ้างว่าตัวเองดีกว่าใครโดยเหยียบผลงานของผู้อื่น ซึ่งเมื่อมาดูประเด็นนโยบายในช่วงการหาเสียงเพื่อสิ่งแวดล้อมของนายนิติพลนั้นก็คล้ายคลึงกับมาตรการต่างๆ ที่รัฐกำลังดำเนินการอยู่ และที่นายนิติพลอวดอ้างว่าไม่มีพรรคการเมืองพูดถึงเรื่องนี้เลยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกพรรคให้ความสำคัญ บางพรรค เช่น พรรคกรีนมีนโยบายหลักของพรรคด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ และในเวทีเสวนาวันที่ 5 มี.ค. 62 ที่นายนิติพลก็เข้าร่วมและได้ยินกับหู ทางพรรคเพื่อไทยโดยนายปลอดประสพ สุรัสวดีก็พูดชัดเจนด้วยซ้ำว่า “ถ้าผมเป็นรัฐบาลเมื่อไร ถุงก๊อบแก็บจะหายไปแน่นอน” ดังนั้นจึงไม่ได้มีพรรคอนาคตใหม่เพียงพรรคเดียวที่มีนโยบายเกี่ยวกับขยะพลาสติกตามที่อวดอ้าง
"มารยาททางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ หลายครั้งที่พรรคอนาคตใหม่โดนวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมทั่วไปว่านำข้อมูลผลงานของผู้อื่นไปกล่าวอ้างว่าเป็นผลงานความสำเร็จของตน เช่น การช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งประเด็นเรื่องที่ดินทำกินและสัญชาติที่รัฐได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะมีการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ หรือจำนวนคะแนนผู้โหวตเลือกพรรคอนาคตใหม่ที่อาจจะมาจากปัจจัยที่ไม่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักษาชาติในเขตนั้น ดังนั้นเพื่อลดข้อครหาจากประชาชนทั่วไป พรรคอนาคตใหม่จึงควรระมัดระวังในประเด็นนี้ ควรตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริงก่อนเผยแพร่ มิฉะนั้นอาจจะถูกสังคมเข้าใจว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่ไม่มีมารยาททางการเมือง ทั้งที่จริงอาจเป็นเพราะพรรคอนาคตใหม่ไม่มีข้อมูลและไม่ศึกษา"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |