อธิบดีราชทัณฑ์แจงนักโทษเรือนจำพิษณุโลกเสียชีวิต 4 ศพ เกิดจากการระบาดของโรคไทรอยด์เป็นพิษ พบอีก 25 คนเริ่มแสดงอาการ ถูกนำส่ง รพ. สาเหตุสันนิษฐานเนื้อหมู เนื้อไก่ที่ใช้เป็นอาหารมีการปนเปื้อน
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงเมื่อวันที่ 5 มกราคมนี้ กรณีผู้ต้องขังป่วยเสียชีวิตในห้วงปีใหม่ไล่เลี่ยกันถึง 4 ราย ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ว่า หลังเกิดเหตุกรมราชทัณฑ์ได้ประสานกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสาเหตุที่โรงพยาบาลวังทอง ได้ข้อสรุปเบื้องต้นน่าจะเกิดจากการระบาดของโรคไทรอยด์เป็นพิษ จากข้อมูลผู้ต้องขังที่เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เป็นผู้ต้องขังชายทั้งหมด มี 2 รายที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ และเส้นเลือดหัวใจตีบ ขณะที่อีก 2 รายอยู่ระหว่างรอผลการชันสูตร ส่วนสาเหตุของการระบาดอาจเกิดจากอาหารที่ปนเปื้อนฮอร์โมนไทรอยด์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ อยู่ระหว่างการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    อธิบดีราชทัณฑ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้ต้องขังชายอีก 25 คน เข้ารับรักษาในโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และโรงพยาบาลวังทอง ในจำนวนนี้ 5 คนมีอาการแขนหรือขาอ่อนแรง ร่วมกับมีอาการชา ปวดกล้ามเนื้อและเหนื่อยง่าย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้น พบว่าผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ และระดับฮอร์โมนไทรอยด์อิสระสูงกว่าปกติ ส่วนผู้ต้องขังที่ป่วยอีก 20 คน มีอาการกล้ามเนื้อแขน-ขาอ่อนแรง และชีพจรเต้นเร็ว ขณะนี้มีการเฝ้าระวังอาการของผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด พร้อมวางมาตรการควบคุมป้องกันโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ในการจัดหน่วยแพทย์เข้าคัดกรอง เฝ้าระวังผู้ที่มีอาการสงสัยไทรอยด์เป็นพิษอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนวางมาตรการป้องกันด้วยการจัดการปัจจัยเสี่ยง
    "เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ตรวจสอบสภาพแวดล้อมและสุขาภิบาลอาหารของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก พบว่าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์สะอาด มีการแบ่งโซนการเตรียมอาหารสดและผัก รวมทั้งการจัดเก็บอาหารแห้งและอาหารแช่แข็งเป็นสัดส่วน ตรวจสอบเนื้อหมูและเนื้อไก่ พบบางส่วนเป็นเนื้อหมูแช่แข็งก้อนใหญ่ และเนื้อไก่แช่แข็งบรรจุในถุง ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นส่วนใด เบื้องต้นให้ทางเรือนจำประสานผู้ประกอบการในการจัดหาวัตถุดิบที่มั่นใจได้ว่าไม่มีการปนเปื้อนต่อมไทรอยด์ และเป็นก้อนเนื้อที่ระบุชิ้นส่วนได้ และให้มีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดต่อไป" พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว
    ที่จังหวัดพิษณุโลก เช้าวันเดียวกัน ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข มีนายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รอง ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธาน เพื่อสรุปสถานการณ์กรณีผู้ป่วยแขน-ขาอ่อนแรงเป็นกลุ่มก้อน (จำนวนมาก) ของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก
    นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ สสจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 4 คน ได้ส่งทีมแพทย์เข้าไปในเรือนจำพร้อมกับทีมสอบสวนโรค โดยตรวจคัดกรองผู้ต้องขังป่วยจำนวนทั้งหมดกว่า 3,000 คน แล้วเสร็จครบ 100% เมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค. จากการสุ่มตรวจพบผลเลือดออกหมดแล้ว มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง และมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ สาเหตุสงสัยเรื่องอาหาร แต่ที่ยังไม่ฟันธง 100% เพราะผลตรวจอาหารยังไม่มา ต้องรอผลแล็บ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้
พบว่ามีผู้หัวใจเต้นเร็ว เหมือนกับมีปัญหาเรื่องไทรอยด์ฮอร์โมนที่เกิน 690 คน ได้คัดแยกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 อาการไม่มาก ให้ยารักษาในเรือนจำ ณ เดี๋ยวนั้นเลย แล้วจะมีการติดตามเอายาไปให้ทุกวัน ส่วนกลุ่มที่ 2 หัวใจเต้นเร็วมาก ต้องส่งตัวออกมารักษาข้างนอกที่โรงพยาบาล 
    “ไม่อยากให้ตระหนกตกใจ ว่าโรคนี้หรือเหตุการณ์นี้จะแพร่ขยายหรือกระจายออกไปสู่ภายนอก และไม่ได้มีใครนิ่งนอนใจเลย ทางเรือนจำ หน่วยงานสาธารณสุข ทุกหน่วยงานทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่เกิดเหตุ พยายามที่จะหยุดยั้งปัญหานี้ให้ได้” นพ.ปิยะกล่าว.