ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ

พระเสาร์จร (7) จะเดินอยู่ในราศีมังกร เริ่ม 1 มีนาคม 2563-สิ้นปี (มีเดินผิดปกติข้ามราศี) และจะอยู่ที่มังกรถึง 1 มีนาคม 2566) เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม (๒) ที่สถิตราศีกรกฎ

พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีมิถุนตั้งแต่ต้นปี-10 กันยายน 2563

พระราหูจร (8) จะย้ายเข้าไปเดินในราศีพฤษภ ระหว่าง 10กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 โดยพระจันทร์ดวงเดิม (๒)โยคหน้าล่าพระราหู

                ในบรรดาเรื่อง ทั้งดี-ร้าย ที่คาดว่าจะปรากฏในชะตาจรเมืองรัตนโกสินทร์ตลอดปี 2563 นั้น มีหลายเรื่องที่ผู้เขียนต้องการขยายผลจากคำทำนายที่ออกไปก่อนหน้านี้ และเผยแพร่โดยทั่วไปทั้งหนังสือพิมพ์-วิทยุ-โทรทัศน์-สื่อออนไลน์ หนึ่งในจำนวนนั้นขอหยิบยกเรื่อง หนี้ของประชาชนในเมือง รวมทั้งการหลอกลวง ม าเตือนก่อนเป็นเรื่องแรก

                เพราะอย่างน้อยบอกกันไว้ตั้งแต่ต้นปีหลายคนอาจจะเตรียมตัวรับมือทัน ไม่เผลอตัวเดือดร้อนเกิดปัญหาไปกับเขาด้วย เพราะในดวงชะตาเมืองจะเริ่ม เห็นเด่นชัด แต่เหมือนมีอะไรบังตาในเบื้องต้น ตั้งแต่ราวกันยายน 2563 เป็นต้นไป ตามปรากฏการณ์ที่ดาวจรทำมุมกับดวงเมือง ดังนี้

                1.ปรากฏการณ์คะนองหนี้ของประชาชนจากรัฐบาล จะเริ่มอีกรอบตั้งแต่ประมาณ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป-สิ้นปี 2563และยาวไปถึงมีนาคม 2566

                ในทางโหรเกิดจากพระเสาร์จร 7 ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าไปเดินในราศีมังกรเล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม ๒ อันหมายถึงประชาชน-และยังเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์-รถเก๋ง การเรียน ฯลฯ เป็นคู่หนี้ คู่เครียด คู่วิตกจริต

                อย่างไรก็ตาม หนี้อันเกิดจากพระเสาร์นี้มักจะเป็นหนี้มีเหตุมีผลที่ภาครัฐร่วมช่วยส่งเสริม (ตามอาการของพระเสาร์-รับภาระหนัก-ได้อะไรยาก-บากบั่น-ยาวนาน) เช่น เรื่องการทำโครงการบ้านประชารัฐต่อจากปี 2562 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีบ้านหรือกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ที่ผูกพันยาวนานให้คนเป็นหนี้ต้องทุ่มเทแรงกาย-ใจผ่อนทั้งต้นและดอก แต่คุ้มค่าในระยะยาว

                2.ปรากฏการณ์พระจันทร์ (๒) ล่าพระราหูจร (8) คือประชาชนก่อหนี้เองด้วยความประมาท เพราะความอยากได้ หรือเก็งกำไรหรืออะไรก็แล้วแต่ จะเริ่มปรากฏโฉมให้เห็นชัดเจนขึ้นในดวงเมืองตั้งแต่ประมาณ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป และยาวไปถึง 29 มีนาคม 2565

                ปรากฏการณ์นี้อธิบายทางโหรว่า ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563เป็นต้นไป พระราหูจร (8) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความอยากได้ หรือความโลภ (ลาภะดวงเมือง)-หลอกลวง-หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย-ความประมาท-ความเสี่ยง คิดแต่ได้ระยะสั้นไม่คิดถึงผลเสียระยะยาว ฯลฯ จะเดินเข้าราศีพฤษภ โดยมีพระจันทร์ดวงเดิม(๒) ที่สถิตอยู่ราศีกรกฎโยคหน้า โหรอุตรภัทร์ผู้ล่วงลับบอกว่า นี่คือ ปรากฏการณ์พระจันทร์ล่าราหู

                พระราหูกับพระจันทร์นี้เป็นคู่คะนองหนี้ ตามนิทานบาปเวรของดาวคือ พระจันทร์ไปกู้เงินพระราหูแล้วไม่มีเงินชดใช้ หนีหนี้ไปอยู่ในถิ่นพระพุธซึ่งเป็นหมา พระเสาร์ไปค้าขายเจอพระจันทร์กลับมาบอกพระราหูคู่ซี้ พระราหูไปทวงหนี้พระจันทร์ พระพุธกระโดดกัดพระราหูที่ท้องเลือดสาด

                เมื่อแปลจากปรากฏการณ์จันทร์ล่าราหูที่จะเกิดในดวงเมือง บวกกับนิทานบาปเวรแล้ว จึงคาดว่าตั้งแต่ประมาณกันยายน 2563 เป็นต้นไป ผู้เขียนเกรงว่าพระจันทร์ (๒) คือประชาชนจะล่าก่อ-คะนองหนี้เพราะความอยากได้ เช่น ซื้ออสังหาฯ แล้วเป็นภาระหนักมาก หรือไม่ก็ถูกคนชั่วหลอกลวง เก็งกำไรกันเอิกเกริก อย่างเช่นเรื่องบรรดาแชร์ทั้งหลายจนสร้างปัญหาให้กับประชาชน นี่เป็นปรากฏการณ์แรก

                3.ซ้ำด้วยดวงเมืองแตกด้วยปรากฏการณ์ราหูค้นทรัพย์ที่เกิดพร้อมๆ กับจันทร์ล่าราหู อันเป็นผลจากการที่พระราหูจร(8) เดินเข้าไปอยู่ในราศีพฤษภดินแดนของการทำมาหาได้-การเงินของประเทศที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์อันไม่พึงประสงค์เรื่องการเงิน เศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งคนในเมืองด้วยที่จะโดนหางเลขเดือดร้อนพลอยฟ้าพลอยฝนถูกพระราหูค้นทรัพย์ในกระเป๋าไปด้วยระหว่าง 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565

                4.อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ครบรอบวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ถึงครบรอบวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2564เป็นระยะที่พระราหูกำลังเป็นศรี-สิริมงคลจรของเมือง อันจะทำให้ความโลภ-การเสี่ยง-คิดถึงแต่ทางได้ไม่คิดถึงทางเสีย-มุทะลุนั้นคล้ายๆ มีอะไรบังตา เช่น ไม่ควรไปก่อหนี้ก็ก่อ ไม่ควรเล่นแชร์ที่ไม่มีเหตุผลก็ไปเล่น หรือเก็งกำไรอุตลุดชนิดห้ามเท่าใดก็ไม่ฟัง ฯลฯ

                5.ครั้นหลังวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นไป-29มีนาคม 2565 เป็นระยะที่พระราหูยุติการเป็นศรีจร ผู้เขียนเชื่อว่าปัญหาหนี้-หลอกลวง-โกงกันในเมืองจะชัดเจนและแรงขึ้น

                6.วิธีรับมือตามหลักโหร ระหว่างที่พระราหูจรเดินอยู่ในราศีพฤษภที่กำลังถูกพระจันทร์ล่าและค้นทรัพย์ดวงเมืองระหว่าง 10กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 นั้น พระราหูจรก็ทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง (๓) ด้วย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ท่านบอกว่าปรากฏการณ์นี้เป็นระยะที่ควรจะกินบุญเก่าและผู้เขียนขอเพิ่มเติมว่าควรต่อยอดสมบัติเก่าตามโฉลก…ราหูสุรินทร์ยักษ์ จรทักพระอังคาร ทรัพย์สินบุราณนาน จะขจัดขจายศูนย์ หนึ่งผู้อิศราช กิจกาจจะเพิ่มพูน…

                สรุปคือ ในเมื่อหนี้เป็นทุกข์ อีกทั้งเกณฑ์เรื่องหนี้และการหลอกลวงส่อแววจะเกิดในเมืองก็ไม่ควรจะไล่ล่าหาหนี้ หรือลงทุนแบบสุ่มเสี่ยง

                และหากเป็นไปได้ ถ้ามีหนี้ที่ไม่มีเหตุผล-เป็นภาระ-ไม่เห็นอนาคต ต้องรีบหยุดและปลด ไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม เพื่อทำตัวให้เบากินบุญเก่าไปสักระยะจนกว่าพระราหูจะหยุดค้นทรัพย์ดวงเมือง.