1 ม.ค.63-  นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ภรรยานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รมว.ศึกษาธิการ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Taya Teepsuwan ระบุว่า “2562 ชีวิตที่สวนทาง”

ผ่านไปอีก 1 ปี มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย หลายคนชอบบอกว่า เราโชคดี มีพร้อมทุกอย่าง แต่อยากจะบอกว่า ชีวิตของเราก็เหมือนคนทั่วไป มีสุข ทุกข์ ผิดหวัง สมหวัง หัวเราะ ร้องไห้ ไม่ต่างกัน...อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์ที่เข้ามาอย่างไร เลยอยากเขียนบันทึกไว้เป็นความทรงจำว่า 1 ปี ได้เจออะไรมาบ้าง (ยาวหน่อย ใครขี้เกียจอ่าน ข้ามๆไปได้เลยค่ะ)

เรื่องราวที่ผิดแผน ไม่คาดคิด แต่ต้องตัดสินใจที่ฝืนความรู้สึกอย่างมาก

- สามีตัดสินใจกลับมาทำการเมือง ทั้งที่เราแพลนกันว่าจะเบรคยาวๆ ทำโรงเรียน ปลูกบ้านที่ชลบุรี แต่เมื่อคู่ชีวิตตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้แล้ว ในฐานะภรรยาถึงแม้ไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็ต้องเป็นกำลังใจ และสนับสนุนสิ่งที่เค้าตั้งใจทำ ส่วนเราก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างโรงเรียนในฝันต่อไป แอบคิดในใจ ไม่น่าจะนานเดี๋ยวเค้าก็กลับมา

- จู่ๆพรรคประกาศ ณัฏฐพล เป็น party list เบอร์ 1 อ้าว เมื่อไหร่จะกลับมาหล่ะเนี่ย?

- เมื่อสามีไปอยู่พรรคพปชร ส่วนตัวไม่เคยคิดจะลาออกจากพรรคปชป แต่เมื่อวันหนึ่งจุดยืนทางการเมืองในช่วงเลือกตั้งแตกต่างกัน ตามมารยาททางการเมือง จึงต้องลาออกจากพรรค เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะเราเคารพและศรัทธาพรรคปชปและผู้ใหญ่ในพรรคตลอดมา บอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่ง

- พปชร ชนะเลือกตั้ง สามีมีชื่อเป็นรมว.ศึกษา ทำยังไงดีหล่ะ เราเป็นเจ้าของโรงเรียน เป็น CEO เต็มตัว กลัวสังคมจะมองว่าเป็น ผลประโยชน์ทับซ้อน จริงๆกฎหมายไม่ได้ห้าม และโรงเรียนอินเตอร์ก็ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงซักบาทเดียว แต่เอาเถอะ เราอยู่ตรงนี้ สร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องไว้ก่อนดีกว่า เราจึงโอนหุ้นทั้งหมดเข้ากองทุน และลาออกจากทุกตำแหน่งในโรงเรียน เป็นอีกการตัดสินใจที่เศร้าทีเดียว เพราะเราปลุกปล้ำสร้างโรงเรียนจากพื้นดิน จนเริ่มเข้าที่เข้าทาง เหมือนเลี้ยงลูกเลย จู่ๆก็ต้องวางมือลง พูดง่าย ๆ สามีเป็นรัฐมนตรี ภรรยาตกงานจ้า!

บอกเลยว่า เห็นคู่เราดู happy กันตลอด แต่จริงๆ หลังบ้านก็เหวี่ยงใส่กันไม่น้อย (ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องไร้สาระ) บางครั้งต่างคนต่างเครียดกับชีวิตที่เปลี่ยนไป มันก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดกัน ทะเลาะกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่สุดท้าย การใช้ชีวิตคู่มันคือการแชร์ทั้งเรื่องดีและร้าย การเสียสละ อดทน พยายามเข้าใจอีกฝ่าย ที่สำคัญ เราต้องปรับตัวกับสถานการณ์ โดยใช้ความรักเป็นศูนย์กลางฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน

เรื่องดีๆ

- ปีนี้นักเรียนเกินเป้า ทะลุ 700 คน ขอบคุณทีมงานจริงๆ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ไว้วางใจ ส่งลูกหลานมาให้เราดูแล หายเหนื่อยเลยค่ะ

- เมื่อต้นปี เราลองจัด spring camp ให้นักเรียนทั้งในและนอกโรงเรียนได้มาทำกิจกรรมสนุก ๆ และสร้างสรรค์ เราตัดสินใจทำกันเอง กับทีมงานโดยไม่จ้างorganiser ข้างนอก จบ camp ด้วยความประทับใจของผู้ปกครองและน้อง ๆที่เข้าร่วม ทำให้เรามีพลังจัด summer camp และ Christmas camp ต่ออีก ผลจากการบอกปากต่อปาก จำนวน summer camp เต็มอย่างรวดเร็ว และมี waiting list ยาวไปถึงปีหน้า มีความสุขทุกครั้งที่ไปทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพใหม่ๆที่เกิดขึ้นกับเด็ก 100 กว่าคน ผู้จัดและทีมงานก็ภูมิใจสุด ๆ

อยากจะบอกว่า เมื่อเราทำในสิ่งที่เรารักและทำด้วย passion ทุกวันเราจะสนุกกับมัน ไม่รู้สึกขี้เกียจที่จะต้องตื่นไปทำงาน การทำงานด้วยใจ สิ่งที่ได้กลับมา มันไม่ใช่กำไรทางบัญชี แต่มันคือ ความสุขใจที่เป็นพลังให้เราก้าวต่อไป

- Finn ลูกชายที่เกิดมามีไตข้างเดียว อยากทำอะไรเพื่อช่วยเหลือเด็กป่วยโรคไตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และไม่ได้โชคดีอย่างเค้า เลยคิดจัดกิจกรรม “วิ่งสะเทือนไต” เพื่อระดมทุนซื้อยารักษาโรคไตที่มีมูลค่าสูง แต่ผู้ป่วยใช้สิทธิ์เบิกไม่ได้ โดยจบการวิ่งด้วยยอดรวมจากผู้บริจาคทั้งหมดได้ 6.5 ล้านบาท นำเงินเข้ามูลนิธิรามา เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการรักษาน้องๆที่ป่วยโรคไตให้หายขาด ขอบคุณผู้มีจิตกุศลที่ร่วมกันทำบุญครั้งนี้ค่ะ ปีหน้าเจอกันอีกนะคะ??

- Faye Finn Fifa และเพื่อนๆ ใช้ช่วงเวลาปิดเทอม จัดกิจกรรม “Hope for little heroes” โดยเด็ก ๆวัยรุ่นแต่งตัวเป็น super hero ต่างๆออกตระเวนเยี่ยมน้องๆที่นอนป่วยในโรงพยาบาล ไปให้กำลังใจ เอาของขวัญไปแจกวันคริสมาสต์ ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งคนไข้ พ่อแม่ หมอ พยาบาลต่างมีความสุข มีกำลังใจจากกิจกรรมเล็ก ๆ แต่มีคุณค่าทางจิตใจ

ทั้ง 2 โครงการนี้ นอกจากจะสอนให้เด็กๆรู้จักการให้ การแบ่งปันกับผู้ด้อยโอกาส ยังทำให้พวกเค้าได้เรียนรู้การบริหารจัดการโครงการต่าง ๆโดยเฉพาะการจัด Kidney Charity Run ต้องอาศัยการทำงานอย่างเป็นระบบ เด็กๆได้เรียนรู้มากมายทีเดียว

- Finn ได้รับเลือกเป็น Deputy Head of house และได้รับการโหวตจากเพื่อนๆและครูจนได้รางวัล Mr.Nice Guy award 3 ปีซ้อน การที่เราส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ เจอสภาพแวดล้อมที่ต้องปรับตัวมากมาย และเมื่อเค้าได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง พ่อแม่ก็แอบภูมิใจ

- Fifa ไอ้ตี๋จอมกวน เห็นเรียนๆเล่นๆ เน้นสังคมจัด สุดท้ายได้รับเลือกเป็นหัวหน้านักเรียน และยังสอบเข้า Harrow school และ Rugby school ที่อังกฤษได้สำเร็จ...ไอ้ตี๋ไม่ธรรมดา

- เมื่อต้นปีได้ไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมที่อินเดียกับคุณแม่ พี่ๆ และ Faye รู้สึกสงบและดีต่อใจมากมาย อยากกลับไปอีกครั้ง

เรื่องเศร้าๆ เรื่องแย่ๆ

- ครอบครัวเราได้สูญเสียเสาหลัก คือ คุณวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ไปอย่างกระทันหัน ท่านเป็นทุกอย่างของครอบครัวเรา เป็นคุณพ่อที่ support ลูกๆ (และลูกสะใภ้) ทุกเรื่อง เป็นคุณปู่ที่ใจดี มีเมตตา สอนค่านิยมที่ดีงามให้หลานๆมากมาย เป็นที่ปรึกษาทั้งเรื่องงานและชีวิตครอบครัว แต่ท่านก็ได้จากไปอย่างคนมีบุญที่สุดกับการทำในสิ่งที่ท่านรักที่สุด คือ นอนหลับไปเลยระหว่างประชุม สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือ ท่านไม่ได้มีโอกาสเห็นพี่ตั้นทำภารกิจเพื่อชาติ และไม่ได้เห็นโรงเรียนรักบี้ที่ท่านรักมากได้นักเรียนตามเป้า แต่ท่านคงมองลงมาและยิ้มอยู่บนสวรรค์แล้ว

- การสูญเสียน้าชายที่รักที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้คุณแม่เสียใจมากที่สุดครั้งนึงในชีวิต

- การสูญเสียลูกพี่ลูกน้องที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยกันด้วยอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ ทำให้นึกเลยว่าจะเลิกขี่มอไซค์ดีมั้ย

- นอกจากนี้เรายังประสบอุบัติเหตุจากการเล่น snowboard หัวฟาดพื้น 3 ตลบได้ขึ้นรถ ambulance ไปนอนเล่นที่โรงพยาบาลอิตาลี เพราะ concussionและกระดูกคอเคลื่อนไป 3 ข้อ ถือว่าฟาดเคราะห์ครั้งใหญ่เลยทีเดียว ทุกวันนี้ยังต้อง ไปทำกายภาพต่อเนื่อง อะไหล่เสื่อมไปอีกชิ้น

เรื่องท้าทายที่ต้องปรับตัว

- การปรับชีวิตกับบทบาทภริยารมต. จากการที่เราเป็นคนสนุกสนาน อยากทำอะไรทำ แต่งตัวง่ายๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ตอนนี้ต้องทำหน้าที่ supporting role ให้เหมาะสม ทั้งการวางตัว การแต่งกาย (เป็นปีที่ใส่ชุดไทยเยอะมาก แต่ก็เป็นเกียรติทุกครั้งที่ได้ใส่)การลดดีกรีความร้อนแรงทางการเมือง จะโพสต์อะไรทีต้องคิดให้รอบคอบก่อน ถามว่าภูมิใจมั้ยกับหน้าที่ตรงนี้ ภูมิใจนะ ที่ได้มีโอกาสทำงานเพื่อประเทศอีกด้านหนึ่ง และได้เรียนรู้จากการได้เจอผู้คนหลากหลายวงการที่แตกต่างกันออกไป

- ปีนี้ Finn ต้องสมัครมหาวิทยาลัย เราต้องคอยลุ้นทุกขณะว่าจะสอบ SAT ได้ดีมั้ย เขียน Essay ถึงไหนแล้ว ส่งใบสมัครครบทุกที่รึยัง เรียกได้ว่า เหนื่อยยิ่งกว่าสอบเองซะอีก

- ปีนี้ลูกเป็นวัยรุ่นทั้ง 3 คนแล้ว ในฐานะแม่ ต้องปรับวิธีการเลี้ยงลูกไปอีกขั้น แถมพี่ตั้นแทบไม่มีเวลาดูลูก เราเหมือนแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนกับเค้าให้ได้ พยายามเข้าใจวัยรุ่น ฟังเค้าและให้เค้าสบายใจที่จะเล่าเรื่องต่างๆให้พ่อแม่ฟัง แม้เรื่องนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องไปซะทุกอย่าง ที่ผ่านมา ถือว่าโชคดี เราและลูกๆไม่มี Generation gap หรือมีก็น้อยมาก เปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง

- ปีนี้ต้องเดินทางเยอะมาก เพราะลูก 3 คน อยู่คนละที่กันหมด ส่วนเราติดคดีต้องไปขอศาลทุกครั้งที่จะเดินทาง เรียกได้ว่า ไปศาลพอๆกับไปสนามบิน แต่ไปด้วยความยินดี เพราะเราทำตามกระบวนการยุติธรรม

สรุปปีที่ผ่านมา มีทั้งเรื่องดี เรื่องร้ายเข้ามาในชีวิตมากมาย เหมือนนั่งอยู่บนRoller Coaster! เราเองต้องทำตัวเหมือนต้นไผ่ที่แข็งแรง มั่นคง แต่ก็โอนอ่อนลู่ลมเมื่อเจอพายุ....

อยากถือโอกาสนี้ขอบคุณ คนที่อยู่รอบตัวเราทุกคนทั้งครอบครัว เพื่อนฝูงเพื่อนร่วมงาน ที่ให้กำลังใจเราเสมอ ไม่ว่าจะเจอเรื่องดี เรื่องแย่แค่ไหน

New Year Resolution

ปีนี้ตั้งใจจริง ๆว่าจะจัดระบบชีวิตให้ดีขึ้น เล่นมือถือน้อยลง นอนเร็วขึ้น อ่านหนังสือหาความรู้ใส่ตัวมากขึ้น หาเวลานั่งสมาธิ ให้เวลากับคุณแม่มากขึ้น เข้าใจพี่ตั้นมากขึ้น ช่วยเหลืองานหลังบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ทำอะไรด้วยสติและฟังคนรอบข้างให้มากกว่านี้ ทำกิจกรรมการกุศลมากขึ้น เพราะเมื่อเราพร้อมกว่าคนอื่นๆอีกหลายชีวิต เราก็ควรจะให้และเสียสละมากขึ้น

สุดท้ายในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ ขอให้ทุกคนมีความสุข รอยยิ้ม และพลังบวกที่จะใช้ชีวิตในปีหน้าอย่างมีคุณภาพค่ะ.