สธ.เผยผลเเบื้องต้นประสิทธิภาพสารสกัดกัญชา ของอภ. 


เพิ่มเพื่อน    

31ธ.ค.62-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสนใจและติดตามประเด็นการนำสารสกัดกัญชามาใช้กับผู้ป่วย และการศึกษาวิจัยทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยได้มอบหมายให้กรมการแพทย์รับไปดำเนินการในประเด็นดังกล่าว ขณะนี้ได้รับรายงานว่าสารสกัดกัญชาชนิด CBD เด่น สามารถควบคุมอาการชักในผู้ป่วยเด็กโรคลมชักส่วนใหญ่ได้ดี และสารสกัดกัญชาชนิด THC:CBD เป็น 1:1 ที่ใช้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายมีประสิทธิผลในการลดอาการปวด ช่วยให้นอนหลับ และเพิ่มความอยากอาหารได้ ในส่วนของโรคสมองเสื่อม ขั้นตอนอยู่ระหว่างการจัดสรรสารสกัดกัญชาชนิด THC:CBD เป็น 1:1 ให้กับผู้ป่วย คาดว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมจะได้รับสารสกัดกัญชาในเดือนมกราคม 2563 กรณีผู้ป่วยโรคพาร์กินสันซึ่งจำเป็นต้องใช้สารสกัดกัญชาชนิด CBD เด่น ซึ่งมีปริมาณจำกัดในระยะแรก คงต้องรอการผลิตที่จะได้รับในระยะต่อไป 


นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ผลจากการวิจัยเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัฒนาสารสกัดกัญชาเป็นยารักษามะเร็งบางชนิดได้ในอนาคต ทั้งนี้ ต้องมีการศึกษาวิจัยในขั้นตอนของสัตว์ทดลองเป็นขั้นตอนต่อไป หากได้ผลดีจึงไปนำสู่การศึกษาวิจัยในคนและนำมาใช้กับผู้ป่วย


นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้สถาบันประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ นำสารสกัดกัญชามาตรฐานทางการแพทย์ (medical grade)  ไปใช้เพื่อการรักษา บรรเทาอาการของผู้ป่วย ผลที่ได้พบว่าเมื่อใช้สารสกัดกัญชาชนิด CBD เด่นกับผู้ป่วยเด็กโรคลมชัก จำนวน 13 คน คุมอาการชักได้ดี 2 คน มีอาการชักลดลง 10 คน และ 1 คนที่ไม่สามารถคุมอาการชักได้ ในส่วนของสารสกัดกัญชาชนิดอัตราส่วน THC:CBD เป็น 1:1 ที่ใช้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยรับผู้ป่วยไว้รักษาแบบคนไข้ใน (inpatient) เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย จำนวน 13 คน พบว่า ผู้ป่วยมีอาการปวดลดลง 7 คน (ผู้ป่วยทีอาการปวดทั้งสิ้น 10 คน) นอนหลับได้ดีขึ้น 10 คน (ผู้ป่วยที่มีปัญหาการนอนจำนวน 12 คน) ผู้ป่วยที่เบื่ออาหาร 5 คนมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นทุกคน อย่างไรก็ตาม พบอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้สารสกัดกัญชาในผู้ป่วยมะเร็ง ได้แก่ หูแว่วและเห็นภาพหลอน 1 คน การเคลื่อนไหวและการทรงตัวผิดปรกติ 3 คน  ความคิดช้าลงจำนวน 1 คน ผู้ป่วยทุกคนมีอาการดีขึ้นเมื่อหยุด ลดขนาดยาลง และปรับเปลี่ยนวิธีการให้ยา  
ประเด็นการศึกษาวิจัยในหลอดทดลอง พบว่าสาร  THC และ CBD ในอัตราส่วนต่างๆ เมื่อพิจารณาจากการใช้ปริมาณน้อยแต่มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองลงได้ครึ่งหนึ่ง และไม่ส่งผลต่อเซลล์ปรกติ พบว่ามีจำนวน  8 ชนิดมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านมที่มีตัวรับสัญญาณฮอร์โมนเอสโตรเจน (ER+) มะเร็งตับอ่อน มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งปอดบางชนิด และมะเร็งรังไข่  อย่างไรก็ตาม มีสารสกัดกัญชาบางอัตราส่วนเมื่อใช้ปริมาณน้อยกลับส่งผลให้เซลล์มะเร็งบางชนิดในหลอดทดลองเจริญเติบโตเร็วขึ้น
    
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"