30 ธ.ค.62 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr เรื่อง "10 เหตุผลทำไมผมจึงจะไม่เลือกพรรคอนาคตใหม่" มีเนื้อหาดังนี้
ว่ากันตามจริงเมื่อแรกเริ่ม เมื่อได้ฟังนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ก็รู้สึกมีความหวังว่า พรรคนี้จะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ มีความคิดใหม่ๆที่ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ แต่หลังจากเฝ้าติดตามดูพรรคการเมืองพรรคนี้มาตลอด วันนี้ได้ข้อสรุปว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคนี้ยังไม่ถูกยุบ ผมจะไม่เลือกพรรคนี้เด็ดขาดไม่ใช่เหตุผลว่า “ชังชาติ” อย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ด้วยเหตุผลดังนี้
1 ผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้ความสำคัญต่อการคงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนาค่อนข้างชัดว่าต้องการแตะต้อง ต่อรอง อย่างน้อยเพื่อลดทอนพระราชอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์ลง ดังจะเห็นจากการแสดงออกของแกนนำพรรคหลายต่อหลายโอกาส รวมถึงการโหวตค้านการออกพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กระทรวงกลาโหมไปเป็นของหน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยรักษาพระองค์
2 หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการรื้อคดีคุณทักษิณทั้งหมด ให้คุณทักษิณกลับมาผ่านกระบวนการยุติธรรมใหม่ โดยกล่าวหาว่าการพิจารณาคดีต่างๆไม่มีความเป็นธรรมต่อคุณทักษิณ เพราะการพิจารณาคดีเกิดในช่วงรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร โดยไม่ยอมพิจารณาจากข้อมูลและข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
3 พรรคอนาคตใหม่มีความเป็นพันธมิตรที่แบบแน่นกับพรรคในกำกับของคุณทักษิณทุกพรรค สังเกตุได้จากการที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และการได้อานิสงส์จากการที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ คนจึงเทคะแนนเสียงให้พรรคอนาคตใหม่ เป็นผลให้พรรคอนาคตใหม่ได้จำนวนที่นั่งส.ส.ในสภาฯมากเกินคาด
4 พรรคอนาคตใหม่พร้อมที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคตามข้อ 3 แม้จะเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคการเมืองเหล่านั้นจะเคยมีประวัติการทุจริตคอรัปชั่นอย่างมโหฬาร และมีความพยายามที่จะผ่านพรบ.นิรโทษกรรมเพื่อคุณทักษิณและพวกพ้องจนมีประชาชนออกมาคัดค้านหลายล้านคน
5 จากข้อมูลที่เล็ดรอดออกมา ที่เกี่ยวกับสไตล์การบริหารของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ทำให้เชื่อได้ว่าพรรคนี้พร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเชิดชูประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหารและเผด็จการ แต่การบริหารพรรคกลับไม่ต่างจากเผด็จการ เพราะการตัดสินใจถูกครอบงำโดยหัวหน้าพรรคและแกนนำบางคนเท่านั้น ผู้ที่ไม่เชื่อฟังมติพรรคซึ่งถูกครอบงำโดยหัวหน้าพรรคและแกนนำจะถูกขับออกจากพรรค
6 เชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคหลงลืมไม่ได้โอนหุ้นวีลัคมีเดียก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อมีคนไปร้อง จึงพยายามสร้างหลักฐานย้อนหลัง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่เชื่อว่าได้โอนหุ้นกันก่อนวันลงสมัครรับเลือกตั้งจริง หัวหน้าพรรคก็โทษทุกฝ่ายรวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่โทษตัวเองที่ผิดพลาด เมื่อต้องพ้นจากการเป็นส.ส.
7 แกนนำพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปราศรัย หรือพูดกับชาวบ้าน มักโจมตีรัฐบาลด้วยวิธีไม่พูดความจริงทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านเกลียดชังรัฐบาลอย่างไม่เป็นธรรม
8 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่หัวหน้าพรรคการเมืองก่อ mob เพื่อแสดงพลัง หลังจากที่กกต.ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคตัวเอง โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้รัฐบาลกดหัวประชาชน แต่ความจริงประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้รู้สึกว่าถูกกดหัวหรือสูญเสียอิสระภาพแต่อย่างใด ดังนั้นจึงชัดเจนว่า mob นี้ไม่ได้ก่อขึ้นเพื่อส่วนรวมหรือเพื่อประเทศชาติ แต่เพื่อพรรคอนาคตใหม่เอง
9 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่หัวหน้าพรรคการเมืองประกาศว่า “การแก้รัฐธรรมนูญมีเพียง 2 ช่องทางคือ จะแก้ด้วยเลือดหรือจะแก้ด้วยความยินยอมพร้อมใจ” จนมีคนเป็นจำนวนมากตั้งคำถามว่า “เลือดใคร”
10 เมื่อสส.ฝ่ายรัฐบาลไม่โหวตตามมติของพรรคร่วมรัฐบาล เช่น ส.ส.คนหนึ่งจากพรรคภูมิใจไทยงดออกเสียงไม่โหวตให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอขา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับคำชมจากหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ว่ามีความกล้าหาญ แต่เมื่อลูกพรรคตัวเองไม่โหวตตามมติพรรคกลับขับออกจากพรรคทั้งหมด
ด้วยเหตุผลทั้ง 10 ข้อนี้ อยากให้วิญญูชนลองพิจารณาใคร่ครวญดูอย่างไม่มีอคติว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนผู้ที่เป็นสาวกพรรคอนาคตใหม่คงต้องปล่อยเขาไป หากมีใครแชร์มาก็กรุณาอย่าอ่านข้อเขียนนี้ครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |