คุม2โจรแทงหนุ่มญี่ปุ่นชิงเงินไปเล่นเกมส์ทำแผนรับสารภาพ


เพิ่มเพื่อน    

30 ธ.ค.62- พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ร่วมกับ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.คลองตัน สอบปากคำนายสมรัก เอี่ยมพันธ์ อายุ 23 ปี และนายกฤษฎา โชติสมบูรณ์รัตน์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันชิงทรัพย์ชายชาวญี่ปุ่น พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 7 กบ 244 กทม.และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ภายหลังติดตามจับกุมได้ภายในซอยสุขุมวิท101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนคุมตัวสองคนร้ายไปชี้จุดเกิดเหตุ

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า นายฮิโรทากะ  ยูชิดะ ชาวญี่ปุ่นได้แจ้งความกับตำรวจ สน.คลองตัน ว่าถูกสองคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้าง ก่อนใช้อาวุธมีดทำร้ายได้รับบาดเจ็บ และชิงทรัพย์เป็นเงินสด 2 หมื่นบาทและบัตรกดเงินสดหลายใบ ตำรวจจึงไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนพบเส้นทางการหลบหนีมายังซอยวชิรธรรมสาธิต หรือสุขุมวิท 101/1 จึงนำกำลังมาเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบตัวสองคนร้าย ตำรวจจึงแสดงจับกุมก่อนนำกำลังไปตรวจค้นหาของกลางที่บ้านพักของทั้งสอง และควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.คลองตัน

"นายสมรักรับว่าตนมีอาชีพเป็นการ์ดในผับดังย่านทองหล่อแต่อยากได้เงินเพิ่ม ส่วนนายกฤษฎา ไม่มีอาชีพ แต่รู้จักกันในฐานะเพื่อนรุ่นน้อง และก่อนเกิดเหตุตนได้ร่วมกันเสพยาโปรโคดิลจนเกิดความคึกคะนองและชวนกันตระเวนขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนน เมื่อพบชาวญี่ปุ่นจึงก่อเหตุชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืน ทำให้นายสมรักต้องใช้มีดที่พกมาทำร้ายร่างกายเพื่อหวังเอาทรัพย์สิน ทั้งนี้ เงินที่ได้มาก็นำไปเล่นเกมออนไลน์ ซื้อยาเสพติดมาเสพ และซื้อทองคำหนัก 50 สตางค์ มาใส่โชว์กลุ่มเพื่อน ส่วนสาเหตุที่เลือกเหยื่อชาวต่างชาตินั้น เพราะเข้าใจว่าเหยื่ออาจมีทรัพย์สินมาก และอาจไม่แจ้งความดำเนินคดีเพราะไม่คุ้นเคยสถานที่ จึงอาจไม่ทันระวังตัว"

เมื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมพบว่าคนร้ายทั้ง2คน เคยก่อเหตุใช้มีดชิงทรัพย์กับเหยื่อชาวต่างชาติมาแล้ว 2 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้โน๊ตบุ๊กไป 2 เครื่อง ขณะที่นายสมรัก ยังเคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ สน.พระโขนง

ต่อมา พล.ต.ต.สามารถ พร้อมตำรวจคลองตัน คุมตัวนายสมรัก กับ นายกฤษฎา มาชี้จุดเกิดเหตุหน้าคอนโดภายในซอยเอกมัย 10 ซึ่งคนร้ายได้ขี่จักรยานยนต์ขับมาจากปากซอยก่อนจะพบเหยื่อพอดี จึงจอดรถดักรอข้างหน้า แล้วฉุดกระชากกระเป๋าจากเหยื่อ แต่ขัดขืนจึงใช้มีดปอกผลไม้ที่พกมาทำร้ายร่างกาย ก่อนได้ทรัพย์สินมาแล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปใช้บัตรกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มโลตัสเอ็กซเพรส ซอยสุขุมวิท 101/1 ก่อนกลับเข้าบ้านพักย่านพระโขนง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ โดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน และใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด" จากนี้จะคุมตัวนำส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังต่อไป
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"