วันที่สองช่วง 7 วันอันตราย ยอดอุบัติเหตุสะสม 2 วัน เกิดขึ้น 974 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 109 ศพ บาดเจ็บ 993 ราย เมาแล้วขับยังคงสาเหตุหลัก "ศปถ." ปรับแผนรับ ปชช.ถึงภูมิลำเนา สั่งตั้งด่านชุมชนเน้นตรวจค้นสกัดขี้เมาขับรถ "กรมคุมประพฤติ" ส่งพวกเมาโดนจับซ้ำซ้อนเขาบำบัด "เหนือ-ใต้" นักท่องเที่ยวคึกคัก
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 ว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 28 ธ.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 510 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 66 ราย ผู้บาดเจ็บ 527 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 35.49 ขับรถเร็ว ร้อยละ 30.00
นายอานนท์กล่าวว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 74.57 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 65.10 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 43.53 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.98 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 26.47 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 26.98
"ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,023 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,388 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 877,714 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 194,549 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 53,072 ราย ไม่มีใบขับขี่ 48,249 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 21 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 26 คน" นายอานนท์กล่าว
รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า สำหรับสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ วันที่ 27-28 ธ.ค.62 เกิดอุบัติเหตุสะสมรวม 974 ครั้ง ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 109 ราย ผู้บาดเจ็บสะสมรวม 993 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 28 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงรายและนครสวรรค์ จังหวัดละ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 37 คน
"ได้เน้นย้ำจังหวัดให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ถนนใน อบต.และหมู่บ้าน เน้นการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลัดผ่าน ทางแยก ทางร่วม รวมถึงการจอดรถบนไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ในเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมทั้งกำชับจุดตรวจ ด่านตรวจ บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นกวดขันรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ผู้ที่ดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ ตลอดจนเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ทั้งท่าเทียบเรือ โป๊ะเรือ และสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อสร้างการสัญจรปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่" รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว
ตั้งด่านชุมชนคุมขี้เมา
ส่วนนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำชับจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ เน้นการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยให้ชุดปฏิบัติการเพิ่มความเข้มข้นการเรียกตรวจของด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและสกัดกั้นผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถเช่าตรวจสอบใบอนุญาตขับรถของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กรณีไม่มีใบอนุญาตขับรถ ห้ามให้เช่ารถโดยเด็ดขาด ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดี ปภ. และเลขาฯ ศปถ. กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับกลยุทธ์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอที่มีความระดับความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุสีแดงและสีส้ม ให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจิตอาสา เข้มงวดการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทุกด้าน
"ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย" อธิบดี ปภ.กล่าว
ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงมาตรการคุมเข้มผู้กระทำผิดเมาแล้วขับเข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จึงให้กรมคุมประพฤติดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการคุมเข้มดังกล่าว โดยผู้กระทำผิดเมาแล้วขับ ซึ่งสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ ในวันที่ 28 ธ.ค.เพิ่มเติมเพียงจำนวน 8 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 5 คดี และคดีขับเสพ จำนวน 3 คดี
นายวิตถวัลย์กล่าวว่า ยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 707 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุราจำนวน 572 คดี คิดเป็น 80.91%, คดีขับเสพจำนวน 124 คดี คิดเป็น 17.54%, คดีขับซิ่ง/แข่งรถ จำนวน 1 คดี คิดเป็น 0.14%, คดีขับรถประมาท จำนวน 10 คดี คิดเป็น 1.41% เบื้องต้นกรมคุมประพฤติได้ตรวจสอบประวัติการกระทำผิดในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราแล้ว จำนวน 307 คดี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำ จำนวน 11 คดี ซึ่งกรมคุมประพฤติได้กำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูเฉพาะในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อเนื่อง 3 วัน ร่วมกับการทำงานบริการสังคม
"ปีนี้แม้กรมคุมประพฤติจะไม่มีกำไลอิเล็กทรอนิกส์ใช้ควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ แต่ยังคงมาตรการเข้ม ผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับที่มีประวัติกระทำความผิดซ้ำจะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดอาการติดสุรากับกระทรวงสาธารณสุขทันที โดยจะต้องเข้ารับการบำบัดเต็มตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนด" อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าว
เหนือ-ใต้ท่องเที่ยวคึกคัก
ขณะที่สภาพการจราจรภาคอีสาน ถนนมิตรภาพ ตลอดทั้งวันทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้าจังหวัดนครราชสีมาไปยังจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน พบการจราจรบริเวณถนนบายพาส แยกวัดตะเคียนทอง ขาเข้าโคราช กม.ที่ 60 ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สภาพการจราจรหนาแน่น ใช้ความเร็วได้ประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ฝั่งขาเข้าโคราช ตั้งแต่ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปริมาณหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า และตั้งแต่ช่วงสถานีวิจัยลำตะคอง ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง ยาวไปจนถึงสะพานต่างระดับสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว ปริมาณรถหนาแน่นและติดขัดตั้งแต่เช้าจนถึงขณะนี้ เนื่องจากมีรถยนต์สะสมเพิ่มขึ้นปริมาณมาก อีกทั้งบางช่วงเป็นทางลาดชัน ต้องชะลอความเร็ว จึงเคลื่อนตัวได้ช้า และติดขัดเป็นระยะทางยาวกว่า 27 กิโลเมตร แต่เมื่อถึงสะพานต่างระดับสีคิ้วรถจะคล่องตัว ทำความเร็วได้ตามปกติ
นอกจากนี้ บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง ผู้โดยสารยังคงมารอขึ้นรถไปเพื่อไปสายเหนือ อีสาน และใต้หนาแน่น โดยเฉพาะสายยาว อย่างกรุงเทพฯ-อุบล-หนองคาย, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ซึ่งผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า อาจต้องวัดดวงว่าได้ขึ้นรถไฟเที่ยวกี่โมง และใช้เวลาในการรอรถไฟไม่ต่ำกว่า 5 ชม.
ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ขบวนรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่เชื่อมต่อกับรถไฟของมาเลเซีย ที่ชายแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์จำนวนมากทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อร่วมงานเคาต์ดาวน์ และเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว รวมทั้งกรุ๊ปทัวร์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.-2 ม.ค.63 ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ และเรือ รวมถึงเครื่องมือช่วยชีวิตที่จำเป็นชุดใหญ่ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยเฉพาะยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง มีนักท่องเที่ยวพากันขึ้นไปพักแรมเป็นจำนวนมาก เพื่อรอรับรุ่งอรุณปีใหม่ ซึ่งทุกปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเกิน 2 หมื่นคน เพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น ทำให้การจราจรหนาแน่น โดยอุณหภูมิช่วงเช้าวัดได้ต่ำสุด 5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย กิ่วแม่ปาน 8 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยาน 11 องศาเซลเซียส.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |