การเมืองแบบไทยๆ "สิระ" มอบกระเช้าปีใหม่ให้ "เสรีพิศุทธ์" ขออภัยที่ล่วงเกิน ขณะที่ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ขอให้มาตั้งใจทำงานร่วมกัน ยันไม่หยุดสอบที่ดิน "ปารีณา" เหตุเรื่องอยู่ในขั้นตอนสืบสวนไม่ได้อยู่ในชั้นศาล ขู่ใครแทรกแซงเจออภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ “ไพบูลย์” ข้องใจอธิบดีกรมป่าไม้เหตุใดเร่งรัดคดี “ปารีณา” มากกว่าคดีอื่น ยก รธน.มาตรา 27 บุคคลต้องเท่าเทียมกัน
ที่รัฐสภา วันที่ 26 ธันวาคม ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะกรรมาธิการฯ นำกระเช้าของขวัญมอบให้กับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และเพื่อความสมานฉันท์ในการทำงาน โดยนายสิระกล่าวระหว่างมอบกระเช้าว่า “อะไรที่เคยล่วงเกินที่ผ่านมาต้องขออภัยด้วยครับ” ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวตอบว่า “ต่อไปก็ขอให้เรามาตั้งใจทำงานกัน”
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่มี กมธ.บางคนเสนอให้ยุติเรื่องการสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า บรรยากาศการประชุมเรียบร้อยดี ไม่มีการประท้วงอะไร เพราะตนเอาตำรวจรัฐสภาเข้าไปอยู่ในห้องประชุมด้วย หากใครทำผิดข้อบังคับหรือไม่มีมารยาท ก็คงต้องเชิญออก ถ้าไม่ยอมออกคงต้องให้อุ้มออกไป ส่วนประเด็นกรณีที่จะให้มีการยุติสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณานั้น ไม่มี มีแต่จะสอบต่อ ทั้งนี้ การประชุม กมธ.ครั้งต่อไป จะเชิญเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง
"การที่จะยุติเรื่องได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ดำเนินการไปแล้วนึกจะยุติก็ยุติ ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทำไม่ได้ ผิดข้อบังคับ ต้องให้ข้อเท็จจริงทุกอย่างเสร็จสิ้นก่อน แต่หากจะมีการยุติจริง เราก็ต้องมาดูหลักว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ กมธ.มีหน้าที่เชิญใครหรือบุคคลใด หรือเรียกเอกสารจากใครมาให้ กมธ.ได้ เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงและมีความเห็นในเรื่องดังกล่าว เว้นแต่การพิจารณาคดีในศาลยุติธรรมหรือการบริหารงานของศาลและการทำงานขององค์กรอิสระ สมมุติเรื่องที่เขาร้องเรียนมา ถ้าเราซักถามแล้วปรากฏว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว เราก็จะต้องยุติเรื่อง หรือผู้ร้องขอถอนเรื่อง เพราะพึงพอใจแล้ว หรือพบว่าไม่ได้มีการทุจริตจริงตามที่เขาร้อง เราก็จะถอนเรื่องให้ แต่ระหว่างการดำเนินการนั้นไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นกระบวนการ แล้วสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอต่อประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการต่อไป" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ได้ตั้งกรอบเวลาหรือไม่ว่าสำนวนการสอบสวนกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณาจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่สามารถตั้งกรอบระยะเวลาได้ เพราะตอนนี้มีหลายเรื่องที่ทยอยเข้ามายัง กมธ. ซึ่งมีเรื่องพิจารณาใหม่กว่า 100 เรื่อง และเรื่องค้างเก่าอีกกว่า 100 เรื่อง โดยที่เราต้องพยายามดำเนินการเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้าจะมามุ่งเน้นเรื่องหนึ่งเรื่องใดโดยเฉพาะ ก็จะถูกกล่าวหาว่าเรื่องอื่นไม่สำคัญหรืออย่างไร เช่น การทำงานในช่วงแรกก็มีคนหาว่าทำไมมามุ่งเน้นแต่เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบของนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเราทำทุกเรื่อง แต่เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ เรื่องที่ดินของ น.ส.ปารีณา ตลอดจนเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นเรื่องที่สื่อสนใจ จึงเป็นเรื่องขึ้นมา แต่เรื่องอื่นนักข่าวไม่ได้สนใจ เลยไม่เป็นเรื่อง แต่เราพยายามทำทุกเรื่อง
“เรื่องของ น.ส.ปารีณาอยู่ในระหว่างการสอบสวน เราจึงไม่รีบสรุป คาเรื่องเอาไว้แบบนี้ก็ดี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จะได้ไม่กล้าเบี้ยวมาชี้แจง เพราะหากเบี้ยวมาชี้แจงเมื่อไหร่ ผมก็ฟันเจ้าหน้าที่ไปด้วย หากใครทะลึ่งเข้ามาแทรกแซงการสอบสวนคดีนี้ ก็ถือว่าผิด จะต้องโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้ใจเย็นๆ ผมมีเทคนิคและวิธีการ เพราะผมเคยเป็น ผบ.ตร.มาแล้ว ไม่ใช่เป็น ส.ส.สมัยแรกอย่างที่เขาคิด" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงการประชุม กมธ.ในวันที่ 8 ม.ค.2563 เกี่ยวกับเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีการเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมาชี้แจง เพราะในวันอภิปรายเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ใครช่วยเหลือใคร หรือใครไม่เป็นกลาง ทำไมถึงไม่ยอมให้ตนอภิปราย และประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณก็จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย เพราะตนรู้ข้อเท็จจริงเบื้องลึกทั้งหมด โดยตนจะเป็นคนอภิปรายหลักในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ.จะพิจารณาเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบให้จบภายในเดือน ม.ค.2563 แต่ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เชิญมาว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และกรรมาธิการฯ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพเป็นข่าวกำลังมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ร่วมกับนายสิระ เพื่อขออภัยที่ได้ล่วงเกิน โดยยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด เพราะตนไม่ได้ไปขออภัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไร แต่เป็นเรื่องของนายสิระเพียงคนเดียว ส่วนที่มีภาพตนเข้ามายืนถ่ายรูปด้วยนั้น เป็นช่วงที่นายสิระนำกระเช้าอีกกระเช้ามามอบให้กับตนเพื่อแสดงความยินดีกับการได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่เนื่องจากเป็นการมอบในห้องประชุมกรรมาธิการ จึงได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มายืนเป็นพยานอยู่ตรงกลางด้วยกัน จึงเกิดความเข้าใจผิด
นายไพบูลย์ยังแสดงความไม่เห็นด้วยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบิดเบือนกรณีอ้างว่าการประชุมกรรมาธิการเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะได้สั่งการให้ตำรวจรัฐสภามาคุ้มกัน ทั้งๆ ที่ความจริงไม่มีตำรวจรัฐสภามาดูแลตามที่กล่าวอ้าง แต่ที่ประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะมีการหยิบยกข้อบังคับมาใช้ในการประชุม จึงเห็นว่าเป็นความไม่เหมาะสมที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เป็นการให้ข่าวบิดเบือนต่อสื่อมวลชน
นายไพบูลย์เปิดเผยความคืบหน้าการเชิญอธิบดีกรมป่าไม้ เข้าชี้แจงถึงการตรวจสอบการถือครองที่ดินของ น.ส.ปรีณาด้วย ว่า ตนได้ขอให้อธิบดีกรมป่าไม้ไปดำเนินการตรวจสอบที่ดิน 300 ไร่ ที่กรมป่าไม้อ้างว่าเป็นที่ป่าไม้และ น.ส.ปารีณาครอบครองอยู่กว่า 46 ไร่ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างที่ ส.ป.ก.กับที่เอกชนที่มีอยู่เป็นล้านไร่ จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้อย่างไรที่มีที่ดินของป่าไม่เพียง 300 ไร่กั้นกลาง อีกทั้งอธิบดีกรมป่าไม้ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ จนเพิ่งสั่งการให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกรรมาธิการ ที่มีการตรวจสอบในเรื่องที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เห็นว่ากรรมาธิการควรให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ยังไม่มีการร้องต่อ ป.ป.ช.มากกว่า
“น.ส.ปารีณาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ต้องได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ถามว่าทำไมอธิบดีกรมป่าไม้จึงเร่งดำเนินการเฉพาะกับกรณี น.ส.ปารีณา หรือ เพราะ น.ส.ปารีณาเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีนักการเมืองฝ่ายค้านไปเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ผมไม่เห็นด้วยกับการทำเกินกว่าที่ทำกับบุคคลอื่น ทั้งที่รัฐธรรมนูญมาตรา 27 ระบุว่า บุคคลต้องเท่าเทียมกัน” นายไพบูลย์กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |