26 ธ.ค. 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่าเพื่อต้องการให้เร่งพัฒนาเรื่องความเหลื่อมล้ำ หลังจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ปรับเป้าหมายการทำงาน จึงต้องการให้สศช.ช่วยคิดเป็นแพ็กเกจ หากเกษตรกรรุ่นใหม่สนใจลงทุน ต้องดูแลครบวงจร ส่งเสริมอย่างจริงจังในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างครบวงจร ผลักดันเป็นแผนพัฒนาในปี 2563 ส่งเสริม ธ.ก.ส.ดูแลเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง สองคล้องกับนโยบายรัฐบาล
นายสมคิด กล่าวว่า ในส่วนของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ไม่มีล้มอย่างแน่นอน เพราะขั้นตอนทุกอย่างเดินหน้าไปตามกฎหมาย หลังปีใหม่ต้องการให้ สศช. ผลักดันการพัฒนาเขตอีอีซี การดูแลชุมชน สังคม เพื่อให้ภาคเกษตรแปรรูปในท้องถิ่นเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก-ตะวันตก (EWC) เพื่อเชื่อมโยงโครงการขนาดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค จากนั้นนำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจรายภาค แจ้งให้นักลงทุนต่างชาติได้รับทราบ เพื่อรับรู้แนวทางพัฒนาในแต่ละภาคของไทย
นายสมคิด กล่าวว่า ยังมีการส่งเสริมดูแลผู้ประกอบการกลุ่ม SME ให้สศช.ร่วมหารือ เพื่อหลุดจากภาระหนี้ เข้มแข็ง มีสภาพคล่อง เพราะรัฐบาลกำลังพิจารณาออกมาตรการดูแลเอสเอ็มอี โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 มกราคมนี้ และต้องการผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยว การช่วยเหลือคนตัวเล็กภาคบริการ เพราะเป็นการท่องเที่ยวบวกกับอุตสาหกรรม จะช่วยรองรับการว่างงานในอนาคต
“เรื่องที่ฝากไว้เป็นเรื่องที่อยู่ในแผนฯ ของท่านไว้หมดแล้ว คำถามคือว่าเราจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เราเขียนขึ้นมาเกิดขึ้นจริง คนสภาพัฒน์ฯ ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าเราทำเพื่ออะไร ซึ่งต่อจากนี้เราอยากเห็นคนสภาพัฒน์ฯ เป็นคนที่แอ็กทีฟ มีช่องว่างตรงไหนหยิบขึ้น และงานมันก็จะเดิน และเรื่องหลักๆ จะต้องทำให้ได้ก่อน เพราะในภาวะแบบนี้มีท่านเป็นกระดูกสันหลังของชาติ หากไม่ทำให้เกิดก็ไม่มีกระดูกสันหลัง”นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ยังแนะนำให้สศช.เสนอโครงการลงทุนสำคัญด้วยตนเองหากเป็นโครงการสำคัญ ไม่ต้องรอให้หน่วยงานเสนอขึ้นมาฝ่ายเดียว รวมทั้งการเรียกประชุมกรอ.ภูมิภาค เพื่อผลักดันโครงการสำคัญในภูมิภาค เพื่อรับฟังปัญหาจากภาคเอกชนและท้องถิ่น และติดตามความคืบหน้าแผนลงทุน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ เมื่อศึกษาแผนลงทุนสำคัญจะได้เสนอในที่ประชุม กรอ. ภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนแผนงานสำคัญให้ประสบความสำเร็จ นับเป็นอีกช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค
“สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน สศช.ต้องเป็นแกนหลักในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งโครงการ”ชิมช้อปใช้” นับเป็นโครงการที่มีความสำคัญ การให้บริการผ่านโครงการชิมช้อปใช้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และต้องการให้ปรับรูปแบบการแถลงตัวเลขจีดีพีของ 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สศช. เพื่อเน้นมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพราะน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า จึงควรปฏิรูปการสื่อสารข้อมูลผ่านสื่อ รับรูปแผนการพัฒนาที่เป็นประโยชน์”นายสมคิด กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |