นับแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดวันเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 7 ขอนแก่น แทน นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เดิมออกมา พรรคเพื่อไทย ระดมสรรพกำลังลงไปหาเสียง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานภาค ส.ส.อีสาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. รวมไปถึง ส.ส.ภาคอีสานแทบทุกจังหวัดอีกหลายสิบคน ลงพื้นที่ช่วยกันหาเสียง ทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น

                สะท้อนให้เห็นว่า ‘เอาจริง-แพ้ไม่ได้’ งานนี้เป็น ดัชนีชี้วัดความนิยม รัฐบาล-ฝ่ายค้าน หากรัฐบาลชนะ จะลบข้อครหา คนอีสานไม่เอา บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เอารัฐบาลพลังประชารัฐ ไม่เป็นความจริง แต่ถ้าเพื่อไทยตัวแทนฝ่ายค้าน ชนะก็ส่งสัญญาณ ความนิยมยังดีอยู่ มนต์ขลังเพื่อไทย คนแดนไกล ยังคงอยู่ ชาวบ้านยังให้ความนิยม

                เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่ใช่แค่ป้องกันแชมป์ เอาไว้ให้ได้ และยังป้องกันไม่ให้ผลจำนวน ส.ส.ลดลงไปอีก หลังจากเพิ่งเสีย 4 งูเห่าจากพรรคอนาคตใหม่ ทำให้คะแนนเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านลดลง อันยากที่จะเอาไปต่อกรในสภาฯ

                ผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผลปรากฏว่า นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนเสียง 40,252 นายธนิก มาสีพิทักษ์ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียง 38,010  พรรคเพื่อไทย พ่ายแพ้ไป 2,242 คะแนน    

                ก่อนที่ผลเลือกตั้งจะออกมา เฮียพงษ์-สมพงษ์ น.อ.อนุดิษฐ์ สุทิน เรียงหน้าออกมาให้ข้อมูลในช่วงโค้งสุดท้าย ชี้ให้เห็นถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในขอนแก่น อาจจะปฏิบัติหน้าที่ไม่เที่ยงธรรม เป็นกลาง มีการใช้ปัจจัยกระสุนดินดำ ปูพรม ยิงตรงไปถึงชาวบ้านเป็นระลอกๆ รวมไปถึงโวยวายใส่ข้าราชการ ฝ่ายปกครองบางคน มีพฤติการณ์โน้มเอียงไปให้กับบางฝ่าย จนถึงขั้นยื่นหนังสือให้กรรมการการเลือกตั้งขอนแก่นเข้าไปตรวจสอบ

                รวมไปถึงการออกมาโวยวาย นำหญิงชาวบ้านมากล่าวอ้าง กำนันทำการกาบัตรแทนกัน แต่ในข้อเท็จจริง เบื้องลึกเป็นอย่างไร พลพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ย่อมรู้ดีแก่ใจที่สุด แต่จากการแสดงออกมา หากเป็นภาษามวย คงต้องบอกว่า ออกอาการไม่น้อย

                ผู้สมัครจากทั้งสองพรรค ต่างมีคะแนนนิยมอยู่ในตัว ไม่ใช่พวกโนเนมมาลงสมัคร ชาวบ้านต่างรู้จักมานาน ซ้ำยังเป็น อดีต ส.ส.ด้วยกันทั้งคู่ ธนิก-สมศักดิ์ ทำพื้นที่มานาน จึงไม่แปลกใจที่ผลคะแนนทั้งคู่จะดูคู่คี่สูสีกันมาตั้งแต่ออกตัว จนถึงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง

                แม้ผลเลือกตั้งจะออกมา แต่ยังมีปฏิกิริยาจากพรรคเพื่อไทยตามมา สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า   "แม้ว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาฝ่ายรัฐบาลจะชนะ แต่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องต่างๆ มากมาย หวังให้หน่วยงานราชการที่ดูแลการเลือกตั้ง ช่วยทำให้ทุกข้อสงสัยเกิดความกระจ่าง เพราะสังคมจับตาอยู่ ส่วนการที่รัฐบาลได้รับชัยชนะ ไม่ได้มองว่ารัฐบาลได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น แต่เนื่องจากพรรคเปิดตัวผู้สมัครล่าช้า ทำให้เสียเปรียบที่จะลงพื้นที่แนะนำตัวผู้สมัครกับประชาชน"

                พิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ คณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น ก็ตั้งข้อสังเกต "การเลือกตั้งที่ขอนแก่นก็ผ่านไปแล้ว อยากวิงวอนว่าหากมีการเลือกตั้งซ่อมที่ใดๆ อีก อยากขอให้รัฐบาลล้างภาพคาใจของชาวบ้านบางส่วนที่ยังเคลือบแคลงสงสัยต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยใช้มาตรการเด็ดขาดตรงไป’

                เพื่อไทยยังค้างคาใจต่อกระบวนการจัดการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติ แต่ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนจากพรรคพวกคนกันเอง สมยศ พฤกษาเกษมสุข แนวร่วมเสื้อแดง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ "พรรคเพื่อไทยกำลังเสื่อมถอย ด้วยเหตุที่มีแต่นักเลือกตั้ง และนักการเมืองที่ไร้ศักยภาพ ขาดความมุ่งมั่นจริงจังในการต่อสู้ทางการเมือง เหินห่างจากชาวบ้านและทำได้แค่สร้างภาพฉาบฉวย อาศัยบุญเก่าที่สะสมกันมา แต่ทว่าไร้มนต์ขลังไปแล้ว ไม่มีสิ่งที่ดีกว่าและเหนือกว่าเดิม"

                ผลการเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น ไม่เพียงจะส่งผลเสียต่อ พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคอนาคตใหม่ ขับ 4 ส.ส.งูเห่า ออกจากพรรค พรรคเพื่อไทยก็มาเสียพื้นที่เดิมออกไปอีก ทำให้เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านนาทีนี้เหลือเพียง 239 เสียง เลยยิ่งทำให้เสียงพรรคฝ่ายค้านลดลงไป

                ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพียงแค่เสียหน้า ที่ไม่สามารถรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยก็ต้องย้อนตั้งคำถาม นอกจากปัจจัยแทรกซ้อนจากฝ่ายตรงข้ามแล้ว แต่สำหรับยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ที่ได้ทุ่มลงไป ถูกต้อง โดนใจชาวบ้านอย่างแท้จริงหรือไม่ เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน เอาผลการเลือกตั้งขอนแก่นมาเป็นบทเรียนไม่ให้พื้นที่อีสานอันเป็นฐานเสียงหลักถูกเจาะไปมากกว่านี้. 

วิจักรพันธุ์ หาญลำยวง