ทปอ.แนะมหา'ลัยปฎิรูปการเรียนการสอน เลิกแยกเรียนวิทย์-ศิลป์ ควรเรียนควบคู่กันไป


เพิ่มเพื่อน    


 
25ธ.ค.62-นายพีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ผช.เลขาฯ ทปอ.) กล่าวว่า จากฐานข้อมูลในระบบการสมัครคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา  ?(TCAS) ประจำปีการศึกษา 2563 พบว่ากลุ่มสาขาวิชาที่มีจำนวนการรับนิสิตนักศึกษาตามแผนมากที่สุดในแต่ละกลุ่มมหาวิทยาลัยมีดังนี้ กลุ่มทปอ.มีจำนวนรับนิสิตนักศึกษาตามแผนมากที่สุดคือ กลุ่มสาขาวิชามนุษยศาสตร์  สังคมศาสตร์  จำนวน 31,769 คน รองลงมา กลุ่มสาขาวิชาบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์  จำนวน 25,349 คน และกลุ่มสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน  24,297 คน ส่วนกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) กลุ่มสาขาวิชามนุษยศาสตร์  สังคมศาสตร์ จำนวน  14,880 คน และกลุ่มสาขาวิชาบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์  จำนวน 13,500 คน

นายพีระพงศ์  กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) กลุ่มสาขาวิชาบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์  จำนวน 11,045 คน  และกลุ่มสาขาวิชาวิศกรรมศาสตร์  7,265 คน  กลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชน กลุ่มสาขาวิชาบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์  13,040 คน  และกลุ่มสาขาวิชามนุษยศาสตร์  สังคมศาสตร์  10,784 คน  

ทั้งนี้จากข้อมูลเห็นว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับเด็กสายสังคมมากที่สุด เพราะเป็นความต้องการของผู้เรียน ขณะที่รัฐบาลวางเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ ว่า ต้องการให้เน้นผลิตเด็กสายวิทยาศาสตร์มากกว่าสายมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์   โดยกำหนดสัดส่วนสายวิทย์ และสายสังคม  60 ต่อ40  ซึ่งมหาวิทยาลัยจะต้องมีการปฏิรูปการจัดการการเรียนการสอนใหม่ แต่การเน้นทางด้านวิทยาศาสตร์ก็คงไม่ได้ไปเน้นการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์ทั้งหมด  เพราะเวลาเราออกไปทำงานนั้นจะต้องใช้ความรู้ทั้งทางด้านวิทย์และศิลป์ ดังนั้นหลักสูตรการเรียนการสอนในอนาคต อาจจะต้องไม่แยกเป็นสายวิทย์และสายศิลป์ ยกเว้นต้องการเรียนเฉพาะด้านจริงๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ใน ทปอ.ก็ได้มีการหารือกันและเห็นว่าการเรียนการสอนไม่ควรแยกสายวิทย์และสายศิลป์ ควรเรียนทั้ง 2 สายควบคู่กันไป
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"