ครม.ไฟเขียวแจกของขวัญปีใหม่ 2563 ล็อตใหญ่ เปิดขึ้นทางด่วนฟรี 4 เส้นทาง ตั้งแต่ 27 ธ.ค.62-3 ม.ค.63 ขยายเวลารถไฟฟ้าวิ่งถึงตี 2 ช่วงเคาต์ดาวน์ พร้อมจัดล่องเรือสวดมนต์ข้ามปี "ก.พลังงาน" ตรึงราคาน้ำมัน-ค่าไฟฟ้า "มหาดไทย" ลดค่าดอกเบี้ยโรงรับจำนำ "บิ๊กตู่" ลั่นช่วยเหลือ ปชช. ไม่ใช่ประชานิยม

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 ธ.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติของขวัญปีใหม่ 2563 ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาตรการดูแลความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ครอบคลุมทั้งการเดินทางบก น้ำ และอากาศ ประกอบด้วย ทางถนน ผ่านมาตรการยกเว้นค่าผ่านทาง 4 เส้นทาง ได้แก่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และ 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ช่วงบางปะอิน-บางพลี และช่วงพระประแดง-บางแค, ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน และยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2562 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 ม.ค.2563 เวลา 24.00 น.
    นอกจากนี้ ให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษสำหรับระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ 5% ต่อเที่ยว ทุกด่านเก็บค่าผ่านทาง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเริ่มดำเนินการต่อจากการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษฯ หลังเทศกาลปีใหม่ไปแล้วต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน รวมทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าผ่านทางโดยจำหน่ายคูปองในราคาถูกแทนการชำระด้วยเงินสดสำหรับผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมือง (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ในอัตรา 5% เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน
    "ในการจ่ายเครดิตเงินคืนจากการเดินทางด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ชำระค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) จะได้รับเครดิตเงินคืน 1 สิทธิ เท่ากับ 2 บาท สูงสุด 15 สิทธิ/บัตร/เดือน (30 บาท/บัตร/เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2563" น.ส.ไตรศุลีกล่าว
    รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สำหรับการเดินทางทางอากาศ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2563 จะมีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ในลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซนซี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และให้บริการที่จอดรถโดยไม่คิดค่าบริการในบริเวณที่กำหนด จำนวน 3 จุด รวม 450 คัน ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็มีการจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษ Weekday Vacation สำหรับการเดินทางวันจันทร์-พฤหัสบดี เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และสายการบินไทยสมายล์ เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงราย เชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ นราธิวาส โดยในส่วนของสายการบินไทยสมายล์ ยังมีการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของประชาชนด้วย
    น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ในส่วนการคมนาคมทางราง ได้มีการขยายเวลาเปิดให้บริการรถไฟฟ้า ได้แก่ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2562 เวลา 05.30 น. ถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 เวลา 02.00 น. รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2562 เวลา 06.00 น. ถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 เวลา 02.00 น. รวมไปถึงขยายเวลาให้บริการอาคารและลานจอดรถของเอ็มอาร์ทีทั้ง 2 สาย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2562 เวลา 05.00 น. ถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 เวลา 03.00 น.
    ส่วนการคมนาคมทางน้ำ ในโครงการสูงวัยได้สิทธิ ผู้สูงอายุที่ใช้บริการเรือในเขตกรุงเทพมหานคร จะได้ลดหย่อนค่าโดยสารเฉลี่ย 50% ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2562 เป็นต้นไป รวมทั้งจัดกิจกรรมล่องเรือสวดมนต์ข้ามปีภายใต้กิจกรรมเจ้าท่าพาล่องสายชล สวดมนต์ภาวนาข้ามปี ในวันที่ 31 ธ.ค.2562
    "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเรื่องอุบัติเหตุและความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยในการส่งเสริมความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกของประชาชน กระทรวงคมนาคมยังได้จัดตั้งจุดตรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 259 จุด ทั่วประเทศ เพื่อให้บริการฟรีในด้านต่างๆ เช่น ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก/รถลาก บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฟรี 20 รายการ ณ ศูนย์บริการที่มีป้ายเข้าร่วมกิจกรรมของกรมขนส่งทางบก และศูนย์ซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถของ บริษัท ขนส่ง จำกัด จัดทำแอปพลิเคชัน นำทาง (NUMTANG) เพื่อให้บริการข้อมูลด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ" น.ส.ไตรศุลีกล่าว
    รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติของขวัญปีใหม่ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่ การปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน บี 10 และอี 20 ลง 1 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 10 ม.ค.2563 และการตรึงราคาน้ำมันทุกประเภทตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 2 ม.ค.2563 เพื่อลดค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ประชาชน รวมถึงการตรึงราคาค่าไฟฟ้า โดยคงอัตราค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บเดือน ม.ค.-เม.ย.2563 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วยในช่วง 4 เดือน
    น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 9 โครงการ อาทิ สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย ลดอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 0.25 ต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 0.50 เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 1.25 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-29 ก.พ.63 จัดระเบียบสายสื่อสารทั่วไทย ระยะทางรวม 10,020 กิโลเมตร บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนโดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสาร ให้บริการ 59 หน่วยงานใน 214 งานบริการ ปรับปรุงการให้บริการรังวัดเฉพาะรายในสำนักงานที่ดินทั่วประเทศให้นัดรังวัดได้ภายใน 50 วัน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส และสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานรังวัดได้ทุกขั้นตอน ตลาดนัดเทศบาลคุณภาพมาตรฐานทั่วไทย 742 แห่ง สนับสนุนพืชผลทางการเกษตรปลอดสารพิษ เฝ้าระวังสารปนเปื้อน เปิดสวนสาธารณะลอยฟ้า หรือพระปกเกล้าสกายปาร์ค จุดแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ กทม.
    "กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็มีหลายโครงการ อาทิ เข้าชมฟรีแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 36 จังหวัด 113 แห่ง ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 แจกเมล็ดพันธุ์ไม้มีค่า กล้าไม้ และพันธุ์กล้วยไม้ฟรี รับคืนซากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจลดมลพิษจากรถโดยสารประจำทาง รถยนต์ และจักรยานยนต์ ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ จัดเร่งที่ดินอยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ตามมติ ครม. โครงการแก้ไขปัญหาขยะ อนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ เป็นต้น" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันมาตรการดูแลช่วยเหลือประชาชนได้มอบนโยบายไปแล้วว่า รัฐบาลนี้ต้องนำเป้าหมายมาเป็นตัวกำหนดในการจัดทำโครงการต่างๆ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือไม่ได้เรียกว่าเป็นประชานิยม เพราะประชานิยมคือการหว่านลงไปทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่รัฐบาลนี้เราจะแยกแยะทุกอย่างเป็นหมวดหมู่ อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 
    "ขอยืนยันว่าไม่เหมือนกับประชานิยม เพราะเราไม่ได้ให้ทั้งหมด แต่เราให้กับผู้ที่รายได้ต่ำกว่าแสนบาทต่อปี เพราะเราต้องดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย เรื่องนี้ขอให้ทำความเข้าใจกันให้ดี ผมเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่ประชานิยม ถ้าเป็นประชานิยมก็ต้องทำให้คนรักผมทั้งหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ หรือการดูแลเด็กตั้งแต่ 0-6 ปี ก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่จะต้องดูแลถึงระดับปริญญา เพราะเรายังไม่มีรายได้ที่สูงพอ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของประชานิยม” นายกฯ กล่าว.