ประหารนายกเล็ก สั่งฆ่าผอ.กองช่าง


เพิ่มเพื่อน    


    ศาลสั่งประหารนายกเทศมนตรีเทศบาลสิงหนคร พร้อมรองนายก กับพวก รวม 6 คน ส่วนอีกคนถูกจำคุกตลอดชีวิต ในคดีสังหาร ผอ.กองช่างเมื่อปีที่แล้ว สาเหตุถูกกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และผู้ตายกัดติดให้การเป็นพยาน
    เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ที่ศาลจังหวัดสงขลา ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาคดีฆ่านายกมล สีนวน อายุ 46 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองสิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายขับรถตามประกบยิงเสียชีวิตคารถเก๋ง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เหตุเกิดบนถนนสายห้าแยกเกาะยอ-อ่างทอง ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา
    คดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย นายจงเจริญ มณีรัตน์ อายุ 51 ปี รองนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร ผู้จ้างวาน จำเลยที่ 1, จ.ส.อ.ประวิทย์ หนูเจริญ อายุ 49 ปี คนจัดหามือปืน จำเลยที่ 2, นายอดุลย์ แดวอสนุง อายุ 41 ปี ทีมมือปืน จำเลยที่ 3, นายสุไหงมี อุเซ็ง อายุ 33 ปี ทีมมือปืน จำเลยที่ 4, นายมาหะมะ เจ๊ะแวสุหลง อายุ 46 ปี ทีมมือปืน จำเลยที่ 5, นายปรีชาพล คัทโท อายุ 52 ปี ผู้ขับรถติดตาม จำเลยที่ 6 และนายธนกร สังฆโร อายุ 50 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงหนคร ผู้จ้างวาน จำเลยที่ 7
    โดยศาลชั้นต้นได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งฝ่ายญาติของจำเลยและผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังกว่า 50 คน พิพากษาให้ประหารชีวิต 6 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายธนกร สังฆโร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงหนคร หรือนายกรูญ จำเลยที่ 7, นายจงเจริญ มณีรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร จำเลยที่ 1, จ.ส.อ.ประวิทย์ หนูเจริญ จำเลยที่ 2, นายอดุลย์ แดวอสนุง จำเลยที่ 3, นายสุไหงมี อุเซ็ง จำเลยที่ 4 และนายมาหะมะ เจ๊ะแวสุหลง จำเลยที่ 5 ส่วนนายปรีชาพล คัทโท จำเลยที่ 6 พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต
    สำหรับมูลเหตุของคดีนี้มาจากความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย โดยเมื่อปี 2558 ได้มีกลุ่มลูกจ้างเทศบาลเมืองสิงหนครได้ร้องทุกข์กล่าวหานายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยผู้ตายเป็นพยานในเรื่องดังกล่าวด้วย และนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนครได้เคยแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ตาย ข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และผู้ตายยังเคยถูกคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นในจังหวัดสงขลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559-เดือนสิงหาคม 2560 กระทั่งบานปลายถูกยิงเสียชีวิตคารถเก๋งขณะเดินทางกลับจากทำงาน
    คดีนี้นับเป็นคดีสะเทือนขวัญอีกคดีหนึ่งในแวดวงการเมืองท้องถิ่นของ จ.สงขลา ที่ตัดสินกันด้วยความตาย แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมือของตำรวจ โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา เกาะติดคดีนี้อย่างต่อเนื่องและแกะรอยคนร้ายตามภาพวงจรปิดถนนสายต่างๆ ใช้เวลาเพียง 19 วัน ก็สามารถคลี่คลายคดีได้ โดยจับกุมผู้ต้องหาชุดแรก 6 คน ทั้งนายจงเจริญ รองนายกเทศมนตรีฯ และทีมมือปืน ส่วนนายธนกร นายกเทศมนตรีฯ เข้ามอบตัวในภายหลัง
    เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญทั้งรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 3 คัน คือ รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ 764 สงขลา เป็นรถติดตามผู้ตายจากเทศบาลเมืองสิงหนคร รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน 5 กต 1164 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถมือปืน และรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 4323 ปัตตานี เป็นรถติดตามผู้ตาย
    จากการสอบสวนทราบว่า นายจงเจริญ และ จ.ส.อ.ประวิทย์ มีความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นเพื่อนของนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร จึงจ้างวานผู้ต้องหาที่เหลือวางแผนฆ่านายกมล โดยติดตามมาตั้งแต่ขณะเดินทางออกจากเทศบาลเมืองสิงหนคร ก่อนสบโอกาสใช้อาวุธปืนยิงถล่มระหว่างทางจนเสียชีวิตคารถเก๋ง
    หลังมีคำพิพากษา จำเลยทั้ง 7 คนได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์และขอประกันตัว รวมทั้งขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลตามสิทธิด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"