24 ธ.ค.62 - 

24 ธ.ค. 62 - ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลมีคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้อง คดีหมายเลขดำ อท.168/2562  ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) มอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นฟ้อง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย, นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี, นายปกรณ์ มหรรณพ, นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ, นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ ทั้งหมดเป็น กกต. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 69 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83, 89

คดีนี้นายธนาธรยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2562 โจทก์ฟ้องว่า ช่วงประมาณวันที่ 25 มี.ค. - 16 พ.ค. 2562 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งเจ็ดได้ดำเนินกระบวนการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ก่อนที่จะมีคำสั่งให้มีการดำเนินคดีเลือกตั้งกับโจทก์ กรณีกล่าวหาโจทก์ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด โดยการแสวงหาข้อเท็จจริงยังไม่สิ้นกระแสความ แต่กลับเร่งรัดการลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ในการดำเนินคดีแก่โจทก์ไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อว่าโจทก์กระทำการตามที่มีการสืบสวนไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 41 ซึ่งพฤติการณ์การกระทำนั้นมีลักษณะเป็นการปฏิบัติอย่างใดโดยอาศัยเหตุที่ตนมีตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขั้นตอนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. มาตรา 41 จึงเป็นการประพฤติมิชอบกลาง

ศาลพิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่า กกต.ทั้ง 7 คน เป็นผู้ที่มีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีการยื่นฟ้องว่าทั้ง 7 คน เร่งรัดในการสรุปสำนวนคดี โดยไม่ไต่สวนพยานตามที่ได้ยื่นคำฟ้อง หรือทำครบกระบวนการที่บัญญัติไว้ในระเบียบการไต่สวนวินิจฉัยชี้ขาด เห็นว่าในระเบียบการวินิจฉัยไม่ได้กำหนดบังคับให้ต้องพิจารณาระเบียบทุกข้อ หากคณะกรรมการเห็นว่าเอกสารหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในการพิจารณาชี้ขาดแล้ว ก็สามารถดำเนินการได้ อีกทั้งตามระเบียบ กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 7 วัน และสรุปสำนวนภายใน 20 วัน เว้นแต่หากต้องขอขยายระยะเวลาก็ทำได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน

นอกจากนี้ คำฟ้องของโจทก์ในกรณีดังกล่าวยังเป็นคำฟ้องเดียวกับที่ได้ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งศาลได้มีคำวินิจฉัยในประเด็นเดียวกันไปแล้ว ในระหว่างที่มีการไต่สวนคดีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องสงสัยว่าขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส. จากการถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย ศาลเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยซ้ำในประเด็นเดียวกัน พิพากษายกฟ้องไม่รับคดีไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ 

อย่างไรก็ดี ขั้นตอนตามกฎหมาย ฝ่ายโจทก์สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษายกฟ้องในชั้นตรวจฟ้องนี้ ต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายในเวลา 1 เดือน ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. และพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้อง นายเกรียงศักดิ์ ม่วงอ่อนประธานคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคดียุบพรรค อนค. ,นายนิยต ดำรงประภักดิ์ ,นายสุชาติ เพชรอาวุธ ทั้งสองเป็นกรรมการสืบสวนและไต่สวน , พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. , นางสุกัญญา รัตนนาคินทร์ , พล.ท.สมชาย ชัยวณิชยา ,พ.ต.อ.ชนะชัย ลิ้มประเสริฐ ทั้งสาม เป็นคณะอนุกรรมการวินิจฉัย , นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. , นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ , นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย , นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี , นายปกรณ์ มหรรณพ , นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ , นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ ทั้งเจ็ดเป็นกรรมการ กกต. เป็นจำเลยที่ 1-14 ในคดีหมายเลขดำ อท.185/2562 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 69 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 86 กรณีเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค อนค.นั้น ศาลกำหนดนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้องว่าจะรับคำฟ้องนี้ไว้ไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ต่อไปหรือไม่ ในวันที่ 6 ม.ค. 2563 เวลา 09.00 น.