จ่ายครบจบเร็ว


เพิ่มเพื่อน    

     ต้องยอมรับว่า 3 ปีที่รอคอย สิ้นสุดไปอย่างงดงาม สำหรับการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่คั่งค้างมานาน แต่ด้วยความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน จากการเข้ามาบริหารงานของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ได้เดินหน้าเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีมติอนุมัติไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งทยอยจ่ายไปตั้งแต่ 13 ธ.ค.2562 และครบภายในสิ้นปีนี้

                สำหรับการดูแลประชาชนที่ถูกเวนคืนที่นั้น กระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวงได้เน้นย้ำมาตรการในการเยียวยาอย่างรอบด้าน และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ถูกเวนคืนที่ดินในโครงการนี้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุดด้วย

                เมื่อย้อนดูไทม์ไลน์จะเห็นว่า มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ด้วยเวลาเพียง 1 เดือน หลังจากการอนุมัตินั้น เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังจังหวัดนครปฐม เป็นประธานกดปุ่มสตาร์ทจ่ายค่าเวนคืนที่ดินให้กับประชาชนจำนวน 500 ราย วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท

                จากนั้นในวันที่ 18 ธ.ค.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายศักดิ์สยามได้เดินทางไปดำเนินการจ่ายเงินให้กับประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ทั้งหมด 812 ราย ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี 689 ราย จังหวัดราชบุรี 123 ราย

                และเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2562 ถือเป็นจุดสุดท้าย นายศักดิ์สยามได้เดินทางไปที่จังหวัดนนทบุรี มีผู้ถูกเวนคืนที่ดินและทรัพย์สินทั้งสิ้น 818 ราย วงเงินที่ประมาณ 3,142 ล้านบาท ซึ่งทำให้ภายใน 1 สัปดาห์ กระทรวงคมนาคม และ ทล. ทำสัญญาให้กับประชาชน และจ่ายครบ 4,571 ราย

                สำหรับการจ่ายค่าเวนคืนทั้งหมด 4,571 แปลง/ราย รวมเป็นเงิน 11,917,387,737 บาทนั้น ล่าสุด ทำสัญญาจ่ายแล้ว 3,597 ราย เป็นเงิน 8,644,137,833 บาท คิดเป็น 78% โดยแบ่งเป็นพื้นที่ที่โดนการเวนคืน ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี 818 แปลง/ราย เป็นเงิน 3,142,318,162 บาท จ่ายแล้ว 491 ราย เป็นเงิน 2,103,173,662 บาท คิดเป็น 60%

                ในส่วนจังหวัดนครปฐม 2,941 แปลง/ราย เป็นเงิน 8,044,673,311 บาท จ่ายแล้ว 2,377 ราย เป็นเงิน 5,879,147,309 บาท คิดเป็น 80% ขณะที่จังหวัดราชบุรี 123 แปลง/ราย เป็นเงิน 81,207,921 บาท จ่ายแล้ว 110 ราย เป็นเงิน 67,456,736 บาท คิดเป็น 89% และจังหวัดกาญจนบุรี 689 แปลง/ราย เป็นเงิน 649,188,343 บาท จ่ายแล้ว 619 ราย เป็นเงิน 594,360,126 บาท คิดเป็น 89%

                สำหรับมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีระยะทาง 96.41 กม. เมื่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565 จากนั้นจะทดลองเปิดให้บริการประชาชน ดำเนินการคู่ขนานไปกับงานระบบ O&M (Operation & Maintenance) ที่จะแล้วเสร็จช่วง ก.พ.2566 ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายใน ก.ย.2566

                นับว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโลจิสติกส์สายสำคัญของไทย ที่จะกระจายความเจริญไปยังพื้นที่โซนภาคตะวันตก รองรับแผนการก่อสร้างเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อระหว่างฐานการผลิตและส่งออกของประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตก รวมถึงเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมสู่ภาคตะวันตก และโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ในสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา

                ขณะเดียวกัน ยังส่งผลดีต่อการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

                จะเห็นได้ว่าโครงการก่อสร้างมอเตอร์เส้นทางดังกล่าวยังเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ในพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งเชื่อมต่อกับ สปป.ลาว และเวียดนามในอนาคตด้วย.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"