23 ธ.ค.62- ที่อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐเข้าร่วม ใช้เวลา 1.20 ชั่วโมง
พล.อ.ประยุทธ์ มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า การจัดทำงบฯปี 64 ต้องควบคู่กับการพิจารณา พ.ร.บ.งบฯปี 63 ที่ยังไม่เรียบร้อย แต่ได้ใช้งบฯปี 63 ส่วนหนึ่งไปพลางก่อนตามกฎหมายที่ใช้ได้ โดยส่วนใหญ่ยังต้องรอหลังวันที่ 8 ม.ค.ไปแล้ว คาดต้นเดือนก.พ.การพิจารณาแล้วเสร็จหรือเร็วกว่านั้น ทั้งนี้การจัดทำงบฯปี 64 ส่วนราชการต้องมีการเสนอคำขอรับการจัดสรรงบฯมายังสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 24 ม.ค.63 และหากคำขอทำงบฯที่ไม่สอดคล้องกับแผนจะไม่ได้รับการพิจารณาสนับสนุน หรือถือว่ามีความสำคัญระดับต่ำ
"สิ่งที่ต้องทบทวนกันวันนี้ คือเรากำลังเผชิญสิ่งท้าทายของโลก ทั้งสภาพเศรษฐกิจ สงครามการค้า ความตึงเครียดทางการเมือง ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกระทบไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นต้องกำหนดนโยบายรองรับความท้าทายและป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายงบฯและการลงทุน ทั้งนี้การลงทุนของภาครัฐเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ระยะสั้นรัฐบาลดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มในเรื่องความต้องการและการลงทุนในประเทศ และเชื่อว่าไตรมาส 3 จะดีขึ้น ส่งต่อไปไตรมาส 4 และจะส่งต่อไปไตรมาส 1 ในปีหน้าด้วย"
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องสถานการณ์การคลังต้องแยกให้ออกและสร้างความเข้าใจให้ได้ว่าอะไรคือสถานการณ์การคลังของประเทศของรัฐบาล ไม่ใช่ไปพูดสถานการณ์การคลังดี แต่ผู้มีรายได้น้อยแย่ ถ้าพูดแบบนี้อธิบายเขาไม่ได้ ต้องอธิบายเกี่ยวพันกันอย่างไร ปัจจัยสำคัญมีภาคการคลังที่แข็งแกร่ง ดำเนินโยบายการเงินการคลังที่เหมาะสม มียุทธศาสตร์ระยะยาว ประกอบกับวันนี้มีรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้ง น่าจะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ ตลอดจนทำให้มีเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งส่งผลดีต่อการปฏิรูป เศรษฐกิจ การบริหารประเทศ
"ผมยังเป็นกังวลต่อการลงทุนในประเทศ อยากให้มีการลงทุนโดยคนไทยด้วยกันมากขึ้น ในส่วนของต่างประเทศก็เป็นเรื่องของการเข้ามาตามสิทธิประโยชน์การลงทุน ถ้าเราไปบอกไม่ให้ใครเข้ามาและไม่มีการลงทุนในประเทศ จะเกิดอะไรขึ้น เหรียญมี 2 ด้านเสมอ ต้องทำทั้ง 2 ทาง แต่ต้องโปร่งใสและรัดกุม เมื่อเช้าตนได้รับเรื่องร้องมาขอให้รัฐบาลระวังเรื่องคนต่างประเทศ เข้ามาทำงานในเมืองไทย ด้วยการลงทุน มาเป็นเจ้าของต่างๆ เอาคนเข้ามาทำงานจากต่างประเทศ ซึ่งนโยบายรัฐบาลไม่ให้ทำอยู่แล้วในเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะรถไฟความเร็วสูงก็ใช้แรงงานไทย ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องติดตาม บางคนพูดออกมาโดยไม่รู้ ฟังมาส่งต่อโดยไม่เข้าใจ ถ้าใครที่คิดว่าไม่เข้าใจในเรื่องเหล่านี้ กรุณอย่าโพสต์ อย่าให้ข่าวต่อ เพราะเป็นปัญหาความขัดแย้งที่ตามมา และการทำงานก็ทำไม่ได้"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่องบฯปี 63 ออกขอให้เร่งดำเนินการโครงการต่างๆ โดยต้องใช้งบฯให้ถูกต้องตามกฎหมาย คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ งบฯที่ขาดดุลนี้เป็นธรรมดาของประเทศที่ยังมีรายได้ไม่มากนัก ซึ่งเราอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาประเทศ ซึ่งทุกประเทศต้องใช้การขาดดุล เพราะมีงบฯที่ต้องลงทุนอีกจำนวนมาก เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชน ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ แม้กระทั่งฝ่ายการเมืองก็ไม่เข้าใจอีก หรือเข้าใจทำเป็นไม่เข้าใจไม่รู้ นี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องมาทะเลาะกัน มาตีกัน ในเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้น การที่จ่ายงบฯขาดดุลเราต้องมีศักยภาพหาเงินมาชดเชย ซึ่งเรามีศักยภาพและแผนงานอยู่ และการจะทำให้รายได้ของประเทศสูงขึ้นจะต้องดูว่าจะแก้ปัญหาด้วยอะไร ถ้าบอกว่าเป็นเพราะรัฐบาลอย่างเดียวคงไม่ถูก แต่เป็นเพราะหลายๆส่วนด้วยกัน ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งไม่ต้องกลัวรัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว แก้ได้มากได้น้อยอยู่ที่ประชาชน ข้าราชการ จะช่วยกันอย่างไร โครงการถ้าไม่ซอยลงมาทำไม่ได้ทั้งสิ้น ถึงต้องมีหลักเกณฑ์การใช้เงินกู้อะไรต่างๆถ้าไม่ทำแบบนี้จัดสรรอะไรไม่ได้ ต้องเห็นใจคนจัดทำงบฯด้วย
นายกฯกล่าวต่อว่า ทุกอย่างถ้าไม่ช่วยกันแก้ไข ถ้าไม่ปรับตัวเอง ก็ต้องเจอปัญหาเดิมๆ อย่างเรื่องที่ดิน ที่อยู่อาศัย ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด จะเป็นเมืองเป็นจังหวัดอยู่ที่เดิมไม่พอ ปัจจุบันแออัด ต้องขยายไปรอบนอก แต่ไม่ได้หมายถึงย้ายกทม.แต่เป็นการขยายพื้นที่เมืองธุรกิจออกไป ต้องอยู่รอบนอก อย่าไปมองว่าย้ายเมืองหลวงอย่างเดียว มันทำยากและไม่ใช่เวลานี้
"การทำงานอย่าแบ่งงานหลักว่า หน่วยงานใคร งานยุทธศาสตร์คืองานที่ต้องเสริมงานส่วนอื่นไปด้วย หลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบหลักและหน่วยเสริม ประชุมร่วมกันให้ได้ข้อสรุป จะทำในพื้นที่ใด สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือไม่ เป้าหมายเท่าไร ต้องมีการประเมินไว้ล่วงหน้า เรียกว่าเอาเป้าหมายมาจับ ถ้าไม่มีเป้าหมายก็เดินแบบสะเปะสะปะ จะทำงบฯโครงการอย่างเดียวเพื่อให้ใช้จ่ายเงินให้หมดลงไป แล้วผลสัมฤทธิ์ก็ไม่ได้ แล้วผมถามเราจะอยู่ไปทำไม แม้กระทั่งผมเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมเหมือนกัน ถ้าอยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ แก้ไขอะไรไม่ได้ ข้าราชการก็เช่นกันต้องสำนึกร่วมกันคิด ทุกวันทำงานต้องมีเป้าหมาย เพราะฉะนั้นการจัดทำแผนงบฯต้องสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่และสอดคล้องการพัฒนาตามนโยบายของรัฐบาล"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |