เรียงหน้าขย้ำฟาร์มไก่รุกป่า "ปารีณา" ซัดกฎหมายต้องไม่เลือกปฏิบัติ ตีแสกหน้ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังอุ้ม เรืองไกรเชือดเอ๋ต่อก๊อกสอง ส่ง กกต.สอบใช้ตำแหน่งแทรกแซงจุ้นเรื่องที่ดินแม่ธนาธร
    เมื่อวันอาทิตย์ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีงานเสวนาภาคประชาชนว่าด้วยเรื่องการตรวจสอบการคอร์รัปชันอำนาจ กรณีใครอุ้มปารีณา ซึ่งจัดโดยสภาที่ 3 ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 มีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน, นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย, นายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบูล นักเคลื่อนไหวภาคสังคม และนายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการ เข้าร่วมถกประเด็นการถือครองที่ดินแบบผิดกฎหมายของผู้มีตำแหน่งทางการเมือง 
    นายศรีสุวรรณกล่าวถึงกรณีการถือที่ดิน ส.ป.ก.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า เน้นย้ำว่า ส.ป.ก. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องทำตามหน้าที่ ไม่สามารถละเลยได้ การบุกรุกที่ดินจะต้องดำเนินคดีอาญา ไม่ใช่คดีแพ่ง เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกหลายคนที่ถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่านายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ดำเนินคดีทางอาญากับ น.ส.ปารีณา จึงได้ยื่นหนังสือไปยังนายวิณะโรจน์ เพราะสงสัยในเจตนารมณ์การทำงานของ ส.ป.ก. และยืนยันจะนำคดีนี้ส่งต่อศาลปกครอง เพื่อดำเนินกฎหมายกับเลขาฯ ส.ป.ก. ฐานละเลยหน้าที่ด้วย
    นายณัชพล หรือมาร์ค พิทบูล กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สนใจว่า น.ส.ปารีณาจะโดนคดีหรือไม่ แต่สาระสำคัญคือการดำเนินการทางกฎหมายต้องเป็นธรรมและมีมาตรฐาน คนผิดต้องได้รับโทษทุกคนไม่มียกเว้น แต่กรณีของ น.ส.ปารีณา เชื่อว่าเป็นการเดิมพันที่สูงของฝ่ายอำนาจรัฐ
    ด้านนายบุญส่ง ตั้งข้อสงสัยว่าใครอุ้ม น.ส.ปารีณา เพราะคนอุ้มต้องมีอำนาจรัฐ มีกองทัพหนุน และอำนาจเหล่านี้ได้แผ่ขยายไปยังองค์กร สถาบัน หรือแม้กระทั่งฝ่ายนิติรัฐ แต่เมื่อประชาชนทำความผิด ไม่มียืดเยื้อ แต่ถูกดำเนินคดีทันที และใช้ความรุนแรงในการจับกุม คนส่วนใหญ่จึงโกรธที่อำนาจรัฐทำกับประชาชน ดังนั้นต้องมีความยุติธรรมภายใต้กฎหมายเดียวกัน คุณปารีณาเป็นคนของใคร ไปกอดใคร อยู่พรรคใคร คนนั้นแหละที่อุ้ม คนทั้งประเทศเห็นทุกคน กรณีการอุ้มปารีณาไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มีมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเกิดการทุจริตในหลายๆ กรณี 
    ขณะที่นายวีระกล่าวย้ำว่า หาก น.ส.ปารีณาไม่หลุดจากการเป็น ส.ส. จะเป็นการลดความน่าเชื่อถือของนิติรัฐ โดยส่วนตัวอยากให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ต้องบังคับ ลงโทษทุกคนที่ทำความผิด ไม่เลือกปฏิบัติ มีมาตรฐานเดียวกัน สังคมถึงจะอยู่ได้ คนที่อุ้มปารีณาคือรัฐบาล และส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนจะเฝ้าดูเรื่องนี้ หากมีคำตัดสินว่าปารีณาไม่ผิด เชื่อว่าในอนาคตจะมีแรงกระเพื่อมกลับมาอย่างรุนแรงแน่นอน
    วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรมป่าไม้ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการตรวจสอบที่ดินมารดานายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี  ในพื้นที่จัดตั้งป่าชุมชนมาให้ กมธ.พิจารณา ซึ่ง
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา มี น.ส.ปารีณาร่วมเข้าประชุมด้วย ทั้งนี้ตามเอกสารการประชุมข้อ 9 มีกรณีที่ น.ส.ปารีณาได้แจ้งกับที่ประชุมว่า จะกำชับ ประสาน เร่งรัด การตรวจสอบดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชุมชนได้เร็วขึ้น 
    "ดังนั้นจึงอาจเข้าข่ายเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงตามความในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 185 (1) ตามมาได้ ดังนั้นจึงมีเหตุต้องขอให้ กกต.ตรวจสอบ น.ส.ปารีณา ว่าได้ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตามความในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 185 (1) หรือไม่ หากมีจะเข้าข่ายทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของ น.ส.ปารีณาสิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (7) หรือไม่ และในกรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ น.ส.ปารีณามีเหตุสิ้นสุดลง ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยดำเนินการตามมาตรา 82 วรรคสี่ ต่อไปโดยเร็วด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ธ.ค. เวลา 09.55 น. จะไปศูนย์ราชการอาคาร B เพื่อยื่นหนังสือให้ กกต.ตรวจสอบกรณีดังกล่าวต่อไป" นายเรืองไกรระบุ.