พปชร.ลั่นปรับทัพรับมือการเมืองเข้มข้นปีหน้า โว "บิ๊กตู่" อยู่ครบวาระแน่ พท.ฟันธงหวังสืบทอดอำนาจยาว กระทุ้ง "ประยุทธ์" เลิกเป็นอีแอบมาคุมพรรคเอง ไม่ขัดข้อง "พีระพันธุ์" นั่งปธ.กมธ.แก้ รธน. ดัน "โภคิน-พงศ์เทพ" รองประธาน
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 62 ของพรรคพลังประชารัฐ มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติมเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยึดโยงกับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งให้การทำงานในสภาและรัฐบาลขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ยังเป็นการจัดทัพเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ทางการเมืองในปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะนำประชาชนลงถนน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทางที่ดีพรรคอนาคตใหม่ควรนำปัญหาต่างๆ เข้าสู่การแก้ไขในสภา เหมือนพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ไม่ควรนำมวลชนลงถนนสร้างความขัดแย้งให้ประชาชน เพราะจะส่งผลให้ประเทศชาติเสียหายเหมือนในอดีต
นายธนกรกล่าวว่า แม้สถานการณ์ทางการเมืองคาดว่าจะเข้มข้นขึ้น แต่เชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่าสามารถนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้ และอยู่จนครบวาระอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลยังมีเสถียรภาพ ซึ่งเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มุ่งเน้นทำงานให้กับประชาชนอย่างเดียว พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง เมื่อรัฐบาลมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ ก็จะเป็นเกราะป้องกันรัฐบาลได้อย่างดี จะทำให้ฝ่ายค้านอ่อนกำลังลง สุดท้ายรัฐบาลจะมีความมั่นคง ส่วนประชาชนก็จะมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
ทางด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีการจัดสรรบุคคลสำคัญขึ้นคุมพื้นที่กันอย่างชัดเจนทุกภูมิภาค จึงมองว่าเป็นการจัดทัพใหม่เพื่อเสริมจุดอ่อนให้โครงสร้างพรรคเข้มแข็งขึ้น เพื่อเป็นฐานในการลุยการเมืองเต็มตัวของกลุ่มผู้มีอำนาจ คงไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่เข้ามาแก้ปัญหาชั่วคราวอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่คนในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกมาตลอดว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ จึงไม่เป็นความจริง
"เมื่อความจริงปรากฏชัดเจนมาถึงขนาดนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรที่จะซ่อนตัวอยู่หลังพรรคการเมืองเฉพาะกิจนี้อีกต่อไป อุตส่าห์ปรับทัพมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็น่าที่จะลุกขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญของพรรคเพื่อเปิดหน้าทำการเมืองกันอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่มีอะไรจำเป็นต้องปิดบังกันต่อไปอีกแล้ว" น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ
น.อ.อนุดิษฐ์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 กล่าวถึงการประชุม กมธ.ครั้งแรกในวันที่ 24 ธ.ค.ว่า การประชุมในวันดังกล่าวจะมีการเลือกประธานและรองประธาน กมธ. ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้านมีเสียงเพียง 19 เสียง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยคงไม่ให้ความสำคัญกับตำแหน่งประธานและจะรอดูสถานการณ์ในที่ประชุม หากพรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อประธานมาเพียงคนเดียว จะไม่เสนอชื่อแข่ง แต่ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อมา 2 คน พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อแข่งด้วย ส่วนจะเป็นใครนั้น จะพิจารณากันอีกครั้ง ในส่วนของรองประธาน กมธ. พรรคเพื่อไทยจะเสนอนายโภคิน พลกุล หรือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ มาทำหน้าที่ประธาน กมธ.นั้น น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ไม่ขัดข้อง ส่วนตัวเห็นว่านายพีระพันธุ์เป็นนักการเมืองอาวุโส เป็น ส.ส.หลายสมัย และเคยเป็นรัฐมนตรี คงมีความพร้อมทำหน้าที่ประธาน แต่เราหวังว่าถ้าได้รับเลือกเข้ามาจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง รับฟังเสียงของ กมธ.ทุกฝ่าย เพื่อให้การศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นไปอย่างรอบคอบ สมกับเจตนารมณ์ที่สภาได้ตั้งขึ้นมา
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคที่ออกมา มองว่าเป็นการจัดกลุ่มแบ่งโซนกันทำงานของกลุ่มต่างๆ ในพรรค และเมื่อดูจากกลุ่มต่างๆ แล้วเห็นชัดว่ามีหลายกลุ่มทำให้ต้องเปลี่ยนโลโก้พรรคที่มีเหลี่ยมมาเป็นวงกลม เพราะกลัวการทิ่มแทงกัน การเปลี่ยนโลโก้คงคิดจะทำให้ลื่นขึ้น ที่สำคัญเมื่อจัดทัพจนคิดว่าดีแล้ว ไปดูคะแนนเสียงในพรรคให้ดี รวมถึงไปประสานงานกับพรรคร่วมอย่าให้มีปัญหาอีก ควบคุมไม่ดีสภาล่ม ก็อย่ามาโทษฝ่ายค้าน
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจัดทัพในพรรคเพื่อรับมือศึกใหญ่อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ว่า ก็มีส่วน การจัดทัพคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้เหมือนต้องสู้กับอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งวิกฤติศรัทธาจากสังคม ทั้งศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และปัญหาภายในพรรคของเขาเอง
ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.นี้ วิปฝ่ายค้านจะหารือเกี่ยวกับการเสนอชื่อประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในวันดังกล่าว
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า ก่อนการประชุม กมธ.วิสามัญศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ วันที่ 24 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ทางวิปรัฐบาลได้เชิญกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลมาหารือเป็นการภายในเวลา 13.00 น. ซึ่งน่าจะเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับการโหวตเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธาน และตำแหน่งต่างๆ ของ กมธ.ชุดนี้ ทั้งนี้ จะให้การเลือกตำแหน่งต่างๆ ใน กมธ.วิสามัญชุดนี้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด เพื่อจะได้เริ่มต้นการทำงานได้ทันที จึงอยากจะให้ กมธ.ทุกคนร่วมมือกัน เดินหน้าทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ต้องลดเงื่อนไขหรือความเป็นอคติส่วนตัวออกไป เพื่อที่จะให้การทำงานของ กมธ.วิสามัญชุดนี้ขับเคลื่อนไปได้สำเร็จตามความคาดหวังของทุกฝ่ายในสังคม
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีใครประสานมาที่ตน หรือทาบทามให้รับตำแหน่งประธาน กมธ. ได้ยินแต่ข่าวที่ออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนทำงานอยู่ในสภามานาน และทำงานมาเยอะ ทำงานได้หมดทั้งนั้น และทำได้อยู่แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |