เปิดหนังสือเวียน คกก.วัตถุอันตราย พบ 2 รายไม่เห็นด้วยยื้อแบน 3 สารพิษ เดินตามรอย "จิราภรณ์" ขณะที่ 2 ตัวแทน สธ.ส่งหนังสือไม่รับรองมติวันที่ 27 พ.ย. เหตุยังไม่ลงมติ บันทึกการประชุมไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ตอกหน้า “สุริยะ” อ้างมติเอกฉันท์ 24 ต่อ 0 เชื่อหากฟ้องร้องเป็นโมฆะ ด้าน "หมอธีระวัฒน์" ชี้มติใช้ไม่ได้ จี้นายกฯ สุขภาพ ปชช.สำคัญสุด พร้อมประกาศเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ หลังเพลียฟ้องร้องมาแล้ว 40 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน ได้ออกหนังสือฉบับเวียนให้แก่คณะกรรมการวัตุอันตรายทั้ง 24 คน ให้รับรองผลการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าให้ออกประกาศกำหนดวัตุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกำหนดเวลาบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63
ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ ตามมิติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61 ซึ่งเอกสารระบุว่า มีคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่เห็นด้วย อาทิ นางสมศรี สุวรรณจรัสกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาวิทยาศาสตร์, นางชุติมา รัตนเสถียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตัวแทนองค์การสาธารณประโยชน์ด้านการเกษตรกรรมยั่งยืน
นอกจากนี้ ล่าสุดยังพบว่าตัวแทนคณะกรรมการวัตถุอันตราย 2 คน ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขคือ นายไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณากลับไปกลุ่มวิชาการและเลขานุการ กองบริหารจัดการวัตถุอันตราย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ไม่รับรองผลการประชุมวันที่ 27 พ.ย.
โดยมีสาระสำคัญคือ ยังคงยืนยันรับรองผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ต.ค. คือให้แบน 3 สารเคมี และให้มีผลวันที่ 1 ธ.ค.62 ด้วยเหตุผลว่าในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ไม่มีการลงมติโดยการลงคะแนนแต่อย่างใด และไม่มีการยกเลิกมติการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 49-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ดังนั้นจึงไม่สามารถรับรองรายงานการประชุมครั้งนี้ได้ รวมทั้งมีความคลาดเคลื่อนในการบันทึกการประชุม ซึ่งได้นำเสนอที่ประชุมถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.อาหารว่ามีองค์ประกอบของ “ผู้แทนองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนภาคเอกชน” ซึ่งไม่ได้ปรากฏในเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายครั้งที่ 1-2562 วันที่ 27 พ.ย. หน้า 15/27 บรรทัด 19-20
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ดร.จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม ก็ลาออกจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพราะไม่เห็นด้วยกับมติวันที่ 27 พ.ย.
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การทำหนังสือไม่รับรองผลการประชุมในวันที่ 27 พ.ย. ของคณะกรรมการวัตถุอันตรายของ 4 คน และ อีก 1 อดีตคณะกรรมการฯ ที่ลาออก รวมเป็น 5 คน จึงสะท้อนให้เห็นว่าการที่นายสุริยะแถลงมติเอกฉันท์ 24 ต่อ 0 ไม่เป็นความจริง และรวบรัด อีกทั้งยังไม่มีการลงมติ และการบันทึกการประชุมไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
"เชื่อว่าหากมีการฟ้องร้องมติในวันที่ 27 พ.ย. อาจทำให้มีผลเป็นโมฆะ เพราะมีพยานที่หนักแน่นจากกระทรวงสาธารณสุขถึง 2 คน, คณะกรรมการฯ จากผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน และสภาเภสัชกรรม 1 คน อีกทั้งการใช้วิธีเวียนหนังสือรับรองให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งถือว่าไม่ใช่วิธีปกติ เพราะโดยปกติจะใช้ในโอกาสพิเศษที่ไม่สามารถประชุมได้" รายงานข่าวระบุ
ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา กรรมการปฏิรูประบบสาธารณสุข กล่าวว่า จากการติดตามการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 27 พ.ย. จากการถอดเทปมาฟังก็ไม่ครบถ้วน และมีคณะกรรมการวัตถุอันตรายและผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งสภาเภสัชกรรม แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยให้ยืดเวลาการใช้ 3สารเคมี
จึงทำให้มติดังกล่าวใช้ไม่ได้ ประกอบกับก่อนหน้านี้มีข้อมูลจากสาธารณสุขและกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร มีมติ 423 ต่อ 0 ก็ยืนยันผลกระทบทางด้านสุขภาพที่ชัดเจน และแนวทางทดแทนการใช้ 3 สารเคมีเพื่อไปสู่เกษตรอินทรีย์ และตลอด 40 ปี มีการร้องเรื่องนี้ผ่านทุกองค์กรมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เพราะสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญสุด
"หากจะทำให้การแบนสารเคมีได้สำเร็จจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องประกาศเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพราะท่านเป็นผู้มีอำนาจ" นพ.ธีระวัฒน์กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |