"ช่อ" ลงพื้นที่อุตรดิตถ์ ไอโอเลิกเกณฑ์ทหาร แก้รัฐธรรมนูญ เผยวาทะเด็ด รธน.60 เขียนให้ "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ ตลอดกาล แต่หากไม่ใช่รัฐธรรมนูญปี 2560 คนที่จะเป็นนายกฯ คือ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ขณะที่ "วันชัย" โวยอย่าโยนบาปให้ ส.ว. ถามแก้แล้วบ้านเมืองจะเรียบร้อย มันมั่นคงจริงหรือ
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่บริเวณตลาดสดคลองโพ ถนนบรมอาสน์ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อม น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายปัณณวัตร นาคมูล ประธานคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ และสมาชิกพรรคราว 20 คน ร่วมกันออกเดินรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 พร้อมยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนที่มาจ่ายตลาดเช้า พ่อค้าแม่ค้าในตลาดคลองโพขอถ่ายภาพคู่กับ น.ส.พรรณิการ์ ท่ามกลางการสังเกตการณ์และหาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงฝ่ายปกครอง ส่งผลให้การจราจรบริเวณตลาดสดคลองโพค่อนข้างติดขัด ซึ่งปกติแล้วตลาดแห่งนี้ก็มักจะติดขัดในช่วงเช้าของทุกวันอยู่แล้ว โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะติดขัดมากกว่าช่วงวันทำงาน
โดย น.ส.พรรณิการ์กล่าวเชิญชวนประชาชนที่มาจ่ายตลาดคลองโพผ่านโทรโข่งว่า นอกจากจะมาร่วมงานครบรอบ 1 ปีการก่อตั้งสาขาพรรคอนาคตใหม่ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ก็ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง และหากชาว จ.อุตรดิตถ์เดือดร้อนอยากให้พรรคอนาคตใหม่ช่วยเหลือ ก็ให้สามารถยื่นเรื่องได้ การทำงานของพรรควันนี้ไม่มีความราบรื่น แต่ชาวอนาคตใหม่ทุกคนจะไม่กลัว แต่จะก้าวเดินไปพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศ พรรคเองก็เชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถทำอะไรพรรคได้ วันนี้พรรคอนาคตใหม่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเดินหน้าทำงานต่อไปเพื่อประชาชน
เธอกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ไปที่ไหน หรือช่วงที่พรรคอนาคตใหม่หาเสียง ไม่เคยมีเงินมาแจกพี่น้องประชาชน มีแต่แผ่นพับใบปลิวมาแจกให้กับประชาชน เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เขียนไว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และจะเป็นนายรัฐมนตรีตลอดไป หากไม่ใช่รัฐธรรมนูญปี 2560 คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวอีกว่า เรื่องที่สำคัญและพรรคอนาคตใหม่ดำเนินการเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว นั่นคือ ร่างกฎหมายยกเลิกการบังคับการเกณฑ์ทหาร ให้เป็นแบบสมัครใจเป็นทหาร และอยากให้รัฐบาลผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้โดยเร็วด้วย
วันเดียวกันนี้ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความเห็นกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เห็นมีพูดกันว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนั้นแก้เรื่อง ส.ว.และแก้เรื่องการโหวตนายกฯ แค่นี้เรื่องเดียวก็จบ และก็คงแก้ไม่ได้ เพราะ ส.ว.คงขวาง ก็ขอบอกว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ส.ว.250 คนคงไม่มีใครขวางแน่ อย่าโยนบาปหรือความเกลียดชังมาให้กับ ส.ว. หาว่า ส.ว.เป็นติ่ง เป็นส่วนเกิน
ขอทำความเข้าใจอีกครั้งว่า ที่รัฐธรรมนูญเขาให้มี ส.ว. 250 คนนั้น ก็มาเพื่อทำภารกิจเฉพาะกิจเฉพาะกาลในระยะเปลี่ยนผ่าน และคงไม่มีใครมายึดติดกับตำแหน่ง เขาไม่ได้ให้มาหนุนใคร โดยเฉพาะ และไม่ได้ให้มารักษาอำนาจให้แก่ใคร รัฐธรรมนูญเขาให้มาหนุนการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งให้มารักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางการเมืองให้เดินต่อไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ใช่ให้มาแย่งชิงอำนาจ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับบ้านเมือง
"ถ้าการเมืองดี มีความมั่นคง มี ส.ส.ดี มีนักการเมืองดี และประเทศชาติเดินไปด้วยดี มีความเรียบร้อย ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ผมมีความเห็นว่าไม่ต้องมี ส.ว.ยังได้เลย ที่เขามีไว้ในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ เขาไม่ต้องการให้การเมืองกลับไปสู่วังวนเดิม คือใช้เงินสร้างอำนาจ มีอำนาจแล้วโกงกินทุจริต แล้วก็หาเงินไปรักษาอำนาจ ในที่สุดก็ชุมนุมประท้วง ขับไล่ ปฏิวัติรัฐประหาร วงจรอุบาทว์ทั้งนั้น เขาต้องการให้ทุกเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างของบ้านเมืองมันจบในสภา เขาจึงมีการออกแบบให้มีการถ่วงดุลกันทั้งสองสภา และให้มี ผบ.เหล่าทัพอยู่ในสภา ได้รู้ได้เห็น ได้แก้ปัญหากันในสภา จะได้เลิกเสียทีต่อการปฏิวัติรัฐประหาร เขามี ส.ว.เฉพาะกิจเฉพาะกาล เพราะมาเสริมเพื่อป้องกันปัญหาของบ้านเมืองไม่ให้มันบานปลาย"
นายวันชัยระบุว่า ถ้ามั่นใจกันว่าบ้านเมืองในขณะนี้มันเรียบร้อยดีอยู่แล้ว จะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่ว่า แต่ปัญหาอย่างที่เราเห็นกันอยู่มันเรียบร้อยจริงหรือไม่ มันมั่นคงหรือไม่ ในซีกการเมืองสามารถตอบได้เองอยู่แล้ว อย่าโยนบาปให้ ส.ว. เพราะทุกคนยืนยันว่าจะเป็น ส.ว.หรือไม่ได้เป็น ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยเสียแล้ว เชื่อว่าทุกคนพร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมือง เรื่องตำแหน่งมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องของประเทศชาติและประชาชนยิ่งใหญ่กว่า เลิกด่าเลิกกล่าวหากันเสียที ดูตัวเองกันบ้าง
ด้าน ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ตอบโต้ว่า เป็นเรื่องที่ดีและสมควรแล้วที่สมาชิกวุฒิสภาจากการสรรหาบางท่านประกาศตัวว่าจะไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็หวังว่าคงไม่ใช่ดีแต่พูด ส่วนที่บอกว่าพรรคการเมืองไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตัวเองนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ก่อให้เกิดปัญหาต่อส่วนรวม ทำให้ระบบการเมืองอ่อนแอและขาดเสถียรภาพ ทั้งยังไม่ได้ให้อำนาจประชาชนและไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชนเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง
"พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้แก้ไขเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนให้แก้ไข รัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และรูปแบบของรัฐ"
ร.ท.หญิงสุณิสากล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาสังคมก็คงเห็นถึงปัญหาและข้อเสียของรัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว โดยเฉพาะกติกาเลือกตั้งที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดรัฐบาลผสมเกือบ 20 พรรค ที่มีเสียงปริ่มน้ำ จึงเปิดช่องให้งูเห่าการเมืองเอาเก้าอี้ ส.ส.ไปต่อรองรับผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่แคร์สายตาประชาชน เพราะเปิดรัฐธรรมนูญดูมาหลายรอบแล้ว จึงมั่นใจว่าไม่มีใครไล่ตนเองออกจากความเป็น ส.ส.ได้ จึงอาศัยช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว จะเห็นว่านี่คือปัญหาของส่วนรวม ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง จึงเป็นเรื่องสมควรแล้วที่สมาชิกวุฒิสภาออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งไม่มีความชอบธรรมทั้งในแง่ของที่มาและเนื้อหา
"อย่างไรก็ตาม ท่าน ส.ว.สรรหาทั้งหลายไม่ต้องไปโทษใครว่าโยนบาปเรื่องต่างๆ ให้ ส.ว.สรรหา เพราะใครทำกรรมแบบไหนเอาไว้ย่อมต้องได้รับผลกรรมแบบนั้น หากพวกท่านต้องการไถ่บาป ก็ต้องพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าจะเลิกเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จริงๆ ไม่ได้ดีแต่พูด เพราะที่ผ่านมาสังคมไม่ได้คาดหวังอะไรนักจาก ส.ว.สรรหา 250 ท่าน เพราะไม่แน่ใจนักว่าเป็นตัวของตัวเองหรือไม่ หรือต้องรอใบสั่งจากใครหรือเปล่า" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คณะ กมธ.ชุดนี้มีทั้งหมด 49 คน โดยในส่วนของพรรค ภท. มีตัวแทนเข้าไปร่วมเป็นกมธ. 4 คน ได้แก่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และนายบุญดำรง ประเสริฐโสภา อดีต ส.ส.ราชบุรี โดยในการทำหน้าที่ดังกล่าว ตัวแทนของพรรค ภท.ยึดมั่นในแนวทางที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคได้เคยให้ไว้ คือการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชน สิ่งใดที่เขาอยากได้ อยากให้ปรับแก้ เรายินดีที่จะช่วยศึกษาเพื่อให้การดำเนินการเกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้รัฐธรรมนูญมีความสมบูรณ์มากที่สุด
เขากล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความชัดเจนในการเข้าไปร่วมเป็นกรรมาธิการ คือเราไม่ได้เน้นเรื่องการเมือง แต่จะทำงานโดยยึดความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งตัวแทนของพรรคทุกคนเข้าใจและยึดมั่นในหลักการนี้มาตลอด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |