ก่อนถึงวันคริสต์มาส


เพิ่มเพื่อน    

                                                            (1)

        อาทิตย์นี้...เป็นอาทิตย์ก่อนหน้าจะถึง วันคริสต์มาส แค่อีกไม่กี่วัน และคงต้องถือเป็นวันสำคัญที่จะต้องร่วมรำลึกถึงคุณูปการขององค์พระศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ อย่าง พระเยซูคริสต์ อย่างมิควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นชาวพุธ อิสลาม ฮินดู เชน ซิกข์ ไปจนถึงปาร์ซี หรือโซโรอัสเตอร์ ฯลฯ เพราะถ้าถือเป็น ศาสนิกชน หรือ วิญญูชน แล้ว การแสดงออกในลักษณะเช่นนี้ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งเหมาะแล้ว สมควรแล้ว อย่างมิอาจปฏิเสธ...

                                                      (2)

        และอาจด้วยเหตุเพราะ อันตัวข้าพเจ้าเอง นั้น...ได้ปวารณาตัวเอง แบบพูดเอง เออเอง ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อพุทธทาสฯ อภิมหาพระ และอภิมหานักปราชญ์แห่งสังคมไทย โดยที่ท่านจะมีโอกาสรับรู้หรือไม่ เพียงใด ก็ตามแต่ ดังนั้น...เลยคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหาทางร่วมสืบสานปณิธาน หรือ เจตนารมณ์ ที่ท่านได้ทิ้งไว้ให้ก่อนจะมรณภาพมานานแล้ว ซึ่งหนึ่งในเจตนารมณ์ หรือหนึ่งในปณิธานที่ว่า ก็คือการหาทางผลักดันให้เกิด ความสมานฉันท์ในทางศาสนา เพื่อที่จะนำไปสู่ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการสืบสานปณิธานข้ออื่นๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่าด้วยการหาทางทำให้ผู้คนหลุดพ้นไปจากวัตถุนิยม บริโภคนิยมอันถือเป็นอุปสรรค กีดขวาง บรรดาศาสนาทั้งหลายด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งปวง นั่นแล...

                                                      (3)

        ความพยายามสืบสานปณิธาน หรือเจตนารมณ์ของครูบาอาจารย์ ในลักษณะทำนองนี้นี่เอง...เลยทำให้หลายครั้ง หลายครา เคยถูกใครต่อใคร โดยเฉพาะพวกน้องๆ นุ่งๆ เอ่ยถามด้วยความสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่า พี่เป็นคริสต์หรือเปล่า? หรือ พี่เป็นอิสลามหรือเปล่า? ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ติดเข็มกลัดใดๆ แบบศรีภรรยาของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่อาจเพราะไปหยิบเอาสิ่งดีๆ ของศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และอันที่จริงก็อีกหลายๆ ศาสนา มาพูด มาเขียน หรือมาอ้างอิงในระหว่างบทสนทนา ก็เลยทำให้น้องๆ นุ่งๆ อดสงสัยไปในลักษณะดังกล่าวขึ้นมามิได้...

                                                     (4)

        กว่าจะพูด จะอธิบาย ว่าตัวเองเป็น ชาวพุทธ แต่ไม่ใช่พุทธในแบบที่พยายามงัด ข่าวปลอม ข่าวเฟกนง เฟกนิวส์ ทั้งหลาย มาเผยแพร่ มาโพสต์ มาแชร์ ไว้ในเว็บไซต์ต่างๆ ในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ในไลน์ ฯลฯ จนกระทั่งศรีภรรยาของท่านนายกฯ ยังต้องตกเป็น เหยื่อ หาว่านับถือศาสนาอิสลามไปโน่น แต่เป็น พุทธ ในแบบเดียวกับที่ ชาวอิสลาม หรือมุสลิม อย่างท่าน หัจยี ประยูร วทานยกุล สหธรรมมิกของ ท่านพุทธทาสฯ ท่านได้อรรถาธิบาย เอาไว้เป็นบทกลอน บทกวี มานานแล้วนั่นแหละว่า..“ถ้าฉันเป็นพุทธ-คริสต์-อิสลาม/โดยยึดตามลัทธิพิธีเป็นที่หมาย/ด้วยตัวฉันต้องเป็นถึงสามนาย/ถึงจะได้เสร็จสมอารมณ์นึก/แต่หากฉันเป็นพุทธ-คริสต์-อิสลาม/โดยยึดตามสัจจริงสิ่งรู้สึก/เพียงคนเดียวก็เป็นได้ดังใจนึก/โปรดตรองตรึกท่านจะเห็นเช่นว่านี้...”

                                                       (5)

        แน่ล่ะว่า...การเป็น ชาวพุทธ ในลักษณะเช่นนี้ เลยทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปตื่นเต้น ตื่นตูม กับบรรดาข่าวปล่อย ข่าวปลอม หรือบรรดาเฟกนิวส์ทั้งหลาย ที่พยายามเสกสรรค์ ปั้นแต่ง สร้างภาพ สร้างเรื่องราว ให้ศาสนาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว ซะเหลือเกิน ประเภทคิดจะงาบ คิดจะสะง่อมประเทศทั้งประเทศ ให้กลายเป็นของศาสนาอื่นๆ ให้จงได้ ชนิดต้องหันมารวมมือ รวมตีน รวมความเกลียด ความกลัว เพื่อให้กลายเป็นพลัง ในการเล่นงานศาสนาอื่นๆ เพื่อยกสถานะศาสนาพุทธให้กลายเป็น ศาสนาประจำชาติ อันจะส่งผลให้บรรดาคนไทยด้วยกันแท้ๆ แต่ดันไปนับถือศาสนาอื่น อาจต้องกลายเป็น พลเมืองชั้นสอง ไปโดยฉับพลัน-ทันที...

                                                    (6)

        ส่วนอุปสรรค กีดขวาง หรืออาจเรียกได้ว่า ฝ่ายตรงข้าม กับศาสนาทุกๆ ศาสนา...อย่างวัตถุนิยม บริโภคนิยม กลับไม่คิดจะทำอะไรเอาเลย เผลอๆ...บรรดาชาวพุทธในลักษณะที่ว่านี้ ดันเห็นดี เห็นงาม หันไปส่งเสริม สนับสนุน หันไปแนะนำให้ทำบุญ ให้สร้างวัด สร้างวา สร้างวัตถุบูชา สร้าง ฆ้อนสวรรค์, จานบิน เพื่อไป ตักบาตรพระพุทธเจ้าบนสวรรค์ ฯลฯ ไปซะนี่ ซึ่งย่อมทำให้ความเป็นชาวพุทธ ยิ่งกลายเป็น พุทธพาณิชย์ ยิ่งเข้าไปทุกที ความเป็นชาวพุทธในลักษณะเช่นนี้ จึงเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าชัง หรือ น่าอันตราย ซะยิ่งกว่าความเป็นผู้นับถือศาสนาอื่นๆ ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า หรือแม้แต่ศาสนาพุทธด้วยกันเองก็เถอะ...

                                                       (7)

        ด้วยเหตุนี้...เนื่องในวาระแห่ง วันคริสต์มาส ที่กำลังมาถึง ก็อย่าได้ไปหยิบเอาความเกลียด ความกลัวใดๆ มาเป็นอุปสรรคในการร่วมเฉลิมฉลอง ร่วมแสดงความยินดี กับบรรดาพี่น้องชาวคริสต์ หรือกับสหธรรมิกทั้งหลาย หันไปนำเอา ความรัก ที่พระศาสดาอย่าง พระเยซูคริสต์ ท่านชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้เป็นแนวทาง ชนิดถึงขั้นว่า... “จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อผู้ที่กดขี่ข่มเหงท่าน ทำดังนี้แล้ว...ท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์” โดยไม่ว่าท่านจะนับถือศาสนาอะไรก็แล้วแต่ มาใช้เป็นเครื่องระลึก เป็นสิ่งเตือนใจกันแทนที่ น่าจะเหมาะกว่า เข้าท่ากว่า เป็นไหนๆ...

                                     -----------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"