พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า คณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้มีทั้งหมด 49 คน โดยในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีตัวแทนเข้าไปร่วมเป็นกรรมาธิการฯ 4 คนได้แก่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และนายบุญดำรง ประเสริฐโสภา อดีตส.ส.ราชบุรี โดยในการทำหน้าที่ดังกล่าว ตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยยึดมั่นในแนวทางที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ได้เคยให้ไว้คือ การปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชน สิ่งใดที่เขาอยากได้ อยากให้ปรับแก้ เรายินดีที่จะช่วยศึกษาเพื่อให้การดำเนินการเกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้รัฐธรรมนูญมีความสมบูรณ์มากที่สุด
“พรรคภูมิใจไทย มีความชัดเจนในการเข้าไปร่วมเป็นกรรมาธิการฯ คือเราไม่ได้เน้นเรื่องการเมือง แต่จะทำงานโดยยึดความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งตัวแทนของพรรคทุกคนเข้าใจและยึดมั่นในหลักการนี้มาตลอด” โฆษกพรรคภูมิใจไทยก กล่าว
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข โดยท่านรัฐมนตรีว่าการฯอนุทิน ได้ผลักดันการปลดล็อคกัญชาเพื่อการแพทย์สำเร็จมาตามลำดับแล้ว ได้มีแนวคิดออกมาจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในการปลดใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดเหมือนกัญชา ซึ่งทางนายอนุทิน ไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องดังกล่าว แต่การดำเนินการต้องมีการศึกษาให้รอบคอบ โดยในวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. นายอนุทิน รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข จะได้เดินทางไปยัง กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องความร่วมมือในการศึกษาวิเคราะห์แนวทางและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอดพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการดังกล่าวก็เพื่อให้การปลดล็อคกระท่อมเป็นไปด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคม อีกทั้งยังทำให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปอย่างแนบชิด สามารถที่จะประสานความร่วมมือกันได้ตลอด โดยที่ไม่แบ่งว่าอยู่คนละพรรค ทำให้เกิดความเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่นของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พร้อมเดินหน้าทำงานไปด้วยกัน นอกจากนี้ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่ผ่านมารัฐมนตรีของพรรคทุกคนยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน รวมถึงผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้เริ่มผลักดันโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร (กม.) อีกครั้ง โดยได้มอบเงินค่าเวนคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับประชาชนในพื้นที่ นนทบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ครบจำนวน 4,571 รายแล้ว ภายในเวลา 7 วัน ทำให้สามารถเดินเครื่องจักรก่อสร้างโครงการฯ ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2565 หรือช้าสุดในช่วงต้นปี 2566
“โครงการมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ถือเป็นเส้นทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชน ซึ่งท่านรัฐมนตรีศักดิ์สยามใช้เวลาเพียง 1เดือน แก้ปัญหาที่สะสมมากว่า 4 ปี ที่สำคัญเส้นทางดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างทั้งในด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เชื่อมต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกทวาย เชื่อมโยงการขนส่งกับกลุ่มประเทศ BIMSTEC 4 ประเทศ คือ บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา และไทย รวมถึงเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ในพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะช่วยไทยก้าวเข้าใกล้การเป็น Hub ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ของภูมิภาคนี้ได้” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |