กรุงเทพฯพบขยะในคูคลองสะสม 5 ปี 387,261 ตัน


เพิ่มเพื่อน    


 
 80% ของจำนวนขยะในทะเลมาจากการทิ้งขยะจากภาคพื้นดินของประชาชน โดยเฉพาะในสังคมเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น และขณะนี้กำลังประสบกับปัญหาขยะอุดตันตามท่อ ระบายน้ำ และมีขยะในคลองเป็นจำนวนมาก ที่เกิดจากการ “ทิ้งขยะไม่ลงถัง และการทิ้งขยะลงคลองโดยตรง”  โดยในเขตกรุงเทพมหานครมีจำนวนคลองทั้งหมดกว่า 948 คลอง มีความยาว 1,319,520 เมตร ที่ใช้เป็นช่องทางหลักในการระบายน้ำจากกรุงเทพมหานครลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและลงสู่ทะเล แต่กลับพบปัญหาขยะจำนวนมาก


 จากข้อมูลการเก็บขยะในคูคลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.  2558 – 2562  เป็นระยะเวลา 5 ปี ของสำนักงานเขต  สำนักการระบาย และสำนักสิ่งแวดดล้อมสามารถรวมปริมาณขยะที่เก็บได้ถึง 387,261 ตัน


 ปัญหาการทิ้งขยะไม่ลงถัง ทำให้ขยะเหล่านั้นไปอุดตันท่อระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ง่าย เกิดอุปสรรคระบายน้ำ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำ   อีกทั้งยังมีขยะจำนวนมากที่สามารถเล็ดลอดตามท่อระบายน้ำ  ไหลลงคลองและสู่ทะเล อาทิ หลอด ถุงพลาสติก เป็นต้น  ขณะเดียวกันขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลในท้องทะเล ที่ย่อยสลาย ผุพังกลายเป็น “ไมโครพลาสติก” ยังเข้าสู่ระบบห่วงโซ่อาหารทะเล โดยมีการตรวจพบไมโครพลาสติกในปลาทูอีกด้วย ดังนั้น  ปัญหาขยะพลาสติกไม่ใช่เรื่องไกลตัวในโพ้นทะเลอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวและปากท้องของมนุษย์ 


 สรรเสริญ เรืองฤทธิ์  หัวหน้ากลุ่มงานระบบโทรมาตร สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานครฯ ที่ดูแลด้านการป้องกันน้ำท่วมและการจัดการด้านน้ำเสีย  ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนักในการป้องกันน้ำท่วม และการระบายน้ำในเขตกทม.ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและทะเล  แต่ประสบปัญหามีขยะจำนวนมาก ในลำคลองและอุดตันประตูระบายน้ำ  ทำให้เวลาฝนตก น้ำจึงท่วมได้ง่าย  หากถามว่าขยะในคลองมาจากไหน มี 2แหล่ง คือ แหล่งแรกมาจากขยะที่หลุดร่วงจากถังขยะ หรือ การทิ้งขยะไม่ลงถัง เวลาฝนตก หรือมีลมพัดจึงลงสู่ท่อระบายน้ำ เช่น ถุงพลาสติก หลอด แก้วน้ำพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก ซึ่งเป็นขยะที่พบมากในท่อระบายน้ำ  แหล่งที่สอง มาจากการทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองโดยตรง   ที่ผ่านมาทางสำนักการระบายน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดเก็บขยะตามแม่น้ำและลำคลองต่าง ๆ เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการทำแพไม้ไผ่ดักขยะตามคลองต่าง ๆ และมีเจ้าหน้าที่กองระบบคลองคอยจัดเก็บทุกวัน  ซึ่งขยะที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ พลาสติก โฟม หลอด เศษวัชพืช รวมไปถึง ที่นอน หมอน มุ้ง แม้จะมีการจัดเก็บทุกกวันแต่ก็ยังมีจำนวนขยะพอกพูนขึ้นทุกวันด้วย จึงอยากจะฝากถึงภาคประชาชนว่า “ถ้าไม่ทิ้ง ก็ไม่ท่วม” 


 ด้านนักวิชาการ ผศ.ดร.ภาสิณี วรชนะนันท์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม ภาควิชาเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม ม.เกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่าขยะพลาสติกเมื่อหลุดลอดไปตามแหล่งน้ำแทนที่จะถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี  แต่กลับไปย่อยสลายในธรรมชาติจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและระบบห่วงโซ่อาหาร  กลายเป็น “ไมโครพลาสติก” ขนาดเล็ก เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ   มีการถ่ายทอดทางห่วงโซ่อาหาร ตัวอย่างเช่น เกลือที่เราบริโภคทำจากน้ำทะเล ถ้าน้ำทะเลปนเปื้อนไมโครพลาสติก มีโอกาสที่เราจะบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไปด้วย และเกิดการสะสมในร่างกาย  ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการลดขยะลงไปในทะเลต้องพยายาม “ลด ละ เลิก” การใช้พลาสติก โดยเฉพาะ พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง  


 ด้าน ผศ.ดร.จีมา ศรลัมพ์ อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม. เกษตรฯ  วิทยาเขตบางเขน  กล่าวว่า    ในเมืองใหญ่ควรมีกฎหมายเรื่องการการจัดการขยะให้ดี ตั้งแต่ คนทิ้ง  การจัดเก็บ และการกำจัด เช่น กทม.มีกฎหมายออกมาแล้วต้องประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ และสร้างจิตสำนึกในการแยกขยะ  เรื่องการทิ้งขยะลงถัง ไม่ทิ้งลงแม่น้ำลำคลองจะช่วยให้ขยะน้อยลง โดยเริ่มจากครัวเรือนแม้จะมีถังขยะเพียงใบเดียว แต่การแยกถุงบรรจุขยะแห้งและขยะเปียก จะช่วยให้เจ้าหน้าที่นำไปคัดแยกต่อได้ง่าย และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ในส่วนขององค์กรต้องจัดหาถังขยะให้ถูกต้องมีวิธีการแยกขยะให้กับผู้ทิ้งขยะ

 


 "อีกทั้งควรให้ความรู้แก่ประชาชนว่าขยะที่แยกแล้ว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านใดต่อได้บ้างเพื่อสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมในการช่วยแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง เช่น ขยะเปียก สามารถนำไปหมักปุ๋ยและไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ส่วนขยะแห้งสามารถแยกขยะบางส่วนมารีไซเคิลได้ เช่น แก้ว  กระดาษ  ขวดน้ำพลาสติกหรือแก้วน้ำพลาสติกบางชนิด  โลหะ หรือขยะที่มีตรามาตรฐานรีไซเคิล เป็นต้น"


 ด้าน ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งโครงการ โอลด์ร๊อคล้านท่าเพื่อโลก เพื่อเป็นหนึ่งในองค์กรที่ช่วยในการแก้ปัญหาขยะในการณรงค์เรื่องการลดการใช้ขยะ แยกขยะก่อนทิ้ง และ ทิ้งขยะลงถัง ช่วยลดปัญหาขยะในคลองและป้องกันการไหลของขยะลงสู่ทะเล กล่าวว่า ช่องทางที่ขยะเล็ดลอดลงสู่ทะเลหลักในกทม. คือ คูคลอง   จากการลงพื้นที่เก็บขยะกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร พบว่า มีขยะพลาสติก โฟม ขวดน้ำพลาสติก รองเท้า เศษอาหาร เศษวัชพืช รวมถึงซากสัตว์ตาย ที่ไหลมาติดตะแกรงดักขยะจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่จะใช้ตะแกรงประดิษฐ์ในการตักขยะ หรือใช้ตะแกรงพัดลมเก่าที่เก็บได้มาประดิษฐ์เป็นที่ตักขยะและใช้แรงคนในการตักขยะขึ้นจากคูคลองขนาดเล็กในเขตกรุงเทพชั้นใน  เนื่องจากเรือเก็บขยะไม่สามารถเข้าถึงเพราะคลองมีขนาดเล็ก   โดยล่าสุดทีมงานโครงการโอลด์ร๊อคล้านท่าเพื่อโลก ได้ลงพื้นที่เก็บขยะที่คลองสำเหร่ และคลองบางใส้ไก่ พบว่าเจ้าหน้าที่ตักขยะขึ้นมาจากคลองวันละ 400-500 กิโลกรัมต่อวัน และมีขยะแบบนี้ทุกวันแสดงว่ามีคนทิ้งขยะลงคลองและมีขยะที่หลุดลอดจากถังขยะลงสู่คลองจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ยังขาดอุปกรณ์ที่ช่วยในการดักขยะและจัดเก็บขยะเพื่อป้องกันขยะหลุดลอดไปอุดตันประตูระบายน้ำและเล็ดลอดลงสู่ทะเล

โอลด์ร็อก ทำท่าดักขยะ
 "ทางแบรนด์โอลด์ร๊อคผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวสำหรับผิวหน้า ซึ่งตัวแทนของพลังคนรุ่นใหม่ จึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์การทิ้งขยะลงถัง และลดการใช้ถุงพลาสติก โฟม และหลอด เพื่อลดปริมาณขยะ ที่อาจหลุดลอดไปยังคูคลองและไหลลงสู่ทะเล  พร้อมลงพื้นที่ในการจัดเก็บขยะร่วมกับสำนักการระบาย กรุงเทพมหานคร โดยจัดตั้งโครงการ “โอลด์ร๊อคล้านท่าเพื่อโลก” ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการจัดการกับปัญหาขยะ และตระหนักถึงการทิ้งขยะลงถัง ผ่านกิจกรรมโซเซียลมีเดียสนุกๆ ด้วยการโพสต์ท่าทิ้งขยะลงถังสุดแปลกและติด  #OLOROCKล้านท่าเพื่อโลก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นและสร้างการรับรู้ให้ทุกคนแยกขยะและทิ้งขยะลงถัง  โดยการโพสต์รูปทิ้งขยะ 1 ท่า เท่ากับ 1 ช่วย ในการแก้ปัญหาขยะไหลลงสู่ส่งทะเล "


 นอกจากนี้แล้วลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวแบรนด์โอลด์ร๊อค ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาขยะ จากการซื้อ 1 ชิ้น เท่ากับ  1 ช่วย  ฌครงการโอลด์ร๊อคล้านท่าเพื่อโลก ตั้งเป้าที่จะสร้างการรับรู้ไปยัง 1 ล้านคน โดยรวมทั้ง 2 ช่องทางคือจากการโพสต์รูปทิ้งขยะ และจากลูกค้าใจบุญที่ซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความตระหนักในการแยกขยะและทิ้งขยะลงถัง ซึ่งเทียบเท่ากับ 1,000,000 ช่วย โดยแบรนด์โอลด์ร๊อคจะบริจาค 1,000,000 บาท เพื่อนำไปสนับสนุนหน่วยงานที่ดำเนินการด้านการจัดการกับปัญหาขยะและสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อซื้อเครื่องมือในการจัดการกับขยะในคูคลองก่อนที่จะลงสู่ทะเลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวมถึง


 "จึงขอเชิญชวนทุก ๆ คนออกมาแสดงพลังของคนรุ่นใหม่ ลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง และแยกขยะก่อนทิ้ง พร้อมโพสต์ท่าทิ้งขยะสุดแปลกในสื่อโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook Instagram  หรือ Twitter ช่องทางใดก็ได้  และติด  #OLDROCKล้านท่าเพื่อโลก ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ม.ค. 2563 ดร.ภญ.จิรวรรณ กล่าวเชิญชวน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"