โบรกชี้ผลิตภัณฑ์ความงามไทย ขวัญใจชาวจีน แห่ช็อปปิ้งขนกลับประเทศ คุณภาพดี ราคาไม่แพง ดันรายได้หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งกระฉูด
นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยให้ความสนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามของไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคุณภาพดีใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังและราคาไม่แพงมากนัก ทำให้ช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงามให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมากเป็นอันดับ 1 จากช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันหยุดต่าง ๆ ทำให้มีจำนวนเงินจากนักท่องเที่ยวดังกล่าวเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการได้ออกผลิตภัณฑ์ความงามและคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพและน่าสนใจ รวมถึงขยายตลาดของบริษัทต่าง ๆ ด้วยการส่งออกสินค้าไปจำหน่าย เพราะเห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศจีน รองรับกำลังซื้อของชาวจีนยังมีอย่างต่อเนื่อง
"นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสนใจผลิตภัณฑ์เสริมความงามของไทย เพราะราคาไม่แพงมากนักและมีคุณภาพดี เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวก็จะซื้อกลับไปด้วย ส่วนเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวดี ทำให้มีกำลังซื้อกลับมา และกระแสรักสุขภาพและเสริมความงามของวัยรุ่นและวัยทำงาน ช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงามในปีนี้ขยายตัวต่อเนื่อง"
สำหรับบริษัทที่ได้รับประโยชน์ คือ บมจ.อาร์เอส (RS) ที่ปรับเปลี่ยนธุรกิจ โดยการหันมาเน้นธุรกิจความงามมากขึ้น และมีทิศทางเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากอาร์เอสมีช่องทีวีดิจิทัลเป็นของตนเอง ทำให้ลดต้นทุนการซื้อสื่อโฆษณาได้มาก เมื่อรวมกับธุรกิจด้านสื่อโฆษณาของช่องยังคงแรงต่อเนื่อง และการขยายธุรกิจในประเภทสินค้าเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้รายได้ของบริษัทจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ยังคงเติบโตได้ดี มีแรงหนุนจากฐานลูกค้าคนจีนมาก รวมถึงมีต้นทุนต่ำจากการจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ทำให้ไม่มีต้นทุนในเรื่องของโรงงานของตนเอง ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ดี และอัตรากำไรขั้นต้นจะดีกว่าบริษัทอื่นๆ ที่มีโรงงานผลิตเอง ส่วนบมจ.ดู เดย์ ดรีม (DDD) หลังจากขยายฐานลูกค้าไปจีน ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาโดยเริ่มจำหน่ายสินค้าผ่าน จูไห่ ดิวตี้ฟรี นับว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายจากการส่งออกได้ดียิ่งขึ้น และจะนำไปสู่การขายสินค้าแบบออฟไลน์ในอนาคต
บทวิเคราะห์บล.ฟิลลิป ระบุว่า RS ยังเน้นธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แต่เพิ่มไลน์การขายสินค้าในชีวิตประจำวัน และเพิ่มช่องทางขายแบบสมาชิก ขณะที่ธุรกิจเพลงและจัดกิจกรรมจะลดบทบาทลง ซึ่งธุรกิจสื่อโดยเฉพาะช่อง 8 (ทีวีดิจิตอลช่อง 27) และทีวีดาวเทียม จะปรับให้มาสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสินค้าโฮมแอนด์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น นอกจากนี้ อยู่ระหว่างขายหุ้นที่ซื้อคืน 43.27 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 8 มี.ค. 61- 30 พ.ค. 62 โดยต้นทุนซื้อคืนอยู่ที่หุ้นละ 10.752 บาท ทําให้ได้เงินกลับประมาณ 1,250 ล้านบาท (อิงราคา 30 บาท) เงินที่ได้จะนําไปคืนเงินกู้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง และสามารถจ่ายปันผลได้สูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากไม่ต้องกันสำรองกำไรสะสมไปเป็นสํารองหุ้นซื้อคืนที่ 465 ล้านบาท
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |