สภาตั้ง กมธ.สอบสร้างรัฐสภาใหม่ล่าช้า หลัง ส.ส.รุมสวดข้องใจหาสาเหตุหลัก ส่อต่อสัญญารอบ 5 หวั่นเสียค่าโง่ซ้ำคลองด่าน "ชวน" กรีดจูบฉาวกลางสภาระเบียบไม่สำคัญเท่าสำนึกรับผิดชอบ เชื่อคนในวางแผน
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ? ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม มีระเบียบวาระพิจารณาญัตติทั่วไป เรื่องขอให้สภา ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยญัตตินี้มี ส.ส.หลายคนเสนอ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอญัตติ อภิปรายว่า สภา?ต้องตรวจสอบบ้านของตนเอง เพราะถูกสังคมตั้งคำถามว่าการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์?คอนสตรัคชั่น จำกัด วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท สัญญาหลัก 900 วัน ซึ่งต้องแล้วเสร็จวันที่ 24 พ.ย.2558 นั้น มีเหตุผลที่ทำการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และต้องต่อสัญญาไปอีก 4 ครั้ง ทำให้รวมเวลาก่อสร้างอาคารทั้งหมดกว่า 2,000 วัน ทั้งนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลที่ขยายสัญญาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างนั้น เพราะการแก้ไขแบบ ทั้งที่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถแก้ไขแบบได้โดยใช้เวลาไม่นาน เป็นเพราะมีเจตนาทำให้แบบมีปัญหาหรือไม่ เพื่อเป็นข้ออ้างให้ผู้ว่าจ้างขยายสัญญาผู้รับจ้างโดยไม่ผิดกฎหมาย
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้เสนอญัตติ กล่าวว่า ความพยายามขยายสัญญาก่อสร้างรอบที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2562-31 ธ.ค.2563 พบปัญหาสำคัญคือ ผู้ปฏิบัติงานในรัฐสภาไม่ทราบ และไม่แจ้งเหตุผลว่างานสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะอะไร แต่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ ระบุว่าเป็นความผิดของทางราชการ ทำให้ต้องขยายเวลาให้เอกชน ขณะเดียวกันพบข้อร้องเรียนจากอดีต ส.ส. จึงสงสัยว่าเป็นเพราะผู้ว่าจ้างหรือผู้รับจ้าง อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของการก่อสร้างล่าสุดอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ตามแผนงานต้องแล้วเสร็จ 95 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่งานอีก 30 เปอร์เซ็นต์ที่ค้างอยู่พบว่ามีงานอีกหลายอย่าง เช่น ระบบปรับอากาศ, งานระบบสารสนเทศ, สถานีไฟฟ้า, สัญญาณไฟลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นงานจุกจิกที่อาจทำให้งานก่อสร้างหลักเดินหน้าไม่ได้ ดังนั้นต้องตรวจสอบ
จากนั้นเป็นการอภิปรายของ ส.ส. ?โดยส่วนใหญ่สนับสนุนให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อตรวจสอบ โดยนายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า ในฐานะ กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ควบคุมงาน บริษัทที่ปรึกษาให้รายละเอียด พบว่าไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นปัญหาเรื่องดินในพื้นที่และสถานที่นำดินไปทิ้ง รวมถึงการขายดิน มูลค่าของดิน นอกจากนั้นจากการตรวจสอบล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับสถาปนิกและวิศวกรในพื้นที่ห้องประชุม และห้อง กมธ. ทราบว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จต้นเดือนก.พ.
นายฐิตินันท์กล่าวว่า ส่วนการต่อสัญญาครั้งที่ 4 ที่สัญญาจะสิ้นสุด 31 ธ.ค.2563 นั้น เชื่อว่าอาจมีการต่อสัญญารอบที่ 5 เพราะมีสัญญาด้านระบบสาธารณูปโภค ที่จะสิ้นสุดสัญญา 5 มี.ค.2563 ทั้งนี้ เชื่อว่าประเด็นที่เกิดขึ้นสภาเสียประโยชน์ เพราะต้องเช่าพื้นที่ภายนอก เพิ่มค่าเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ ส่วนบุคคลที่ได้ประโยชน์คือผู้รับจ้าง อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบภายใต้อำนาจของ กมธ.กิจการสภาฯ? ไม่สามารถเอาอยู่ ดังนั้นต้องให้ทั้งสภาช่วยตรวจสอบ
นายไกลก้อง ไวทยการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า การขยายสัญญารอบที่ 4 มีเหตุสำคัญคือ งานนอกระบบสัญญา จากการตรวจสอบพบงานระบบสารสนเทศ หรือไอซีที ที่มีมูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่มีรายละเอียดงาน 10 ระบบ อาทิ ศูนย์รับ-ส่งสัญญาณดาวเทียม, ไอทีทีวี, ศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก, ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์, ระบบห้องเครื่องเสียง, ภาพ, ระบบการลงคะแนนในประชุมวุฒิสภาและห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น มีความคืบหน้าเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ตามแผนต้องแล้วเสร็จ 80 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นในงานระบบเน็ตเวิร์กที่มีรายการสำคัญ?คือท่อร้อยสาย ล่าสุดสภายังไม่สามารถหาผู้รับจ้างเดินท่อร้อยสายได้ ซึ่งเชื่อว่าเหตุและปัจจัยดังกล่าวจะทำให้เกิดการต่อสัญญาครั้งที่ 5 ได้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอให้กมธ.ศึกษาเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สภาเสียค่าโง่ เพราะมั่นใจว่าการก่อสร้างที่ขยายสัญญารอบที่ 4 จะไม่แล้วเสร็จ และต้องต่อสัญญาครั้งที่ 5 ปัจจัยสำคัญคือการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นสิ่งที่ กมธ.?ต้องพิจารณา เพื่ออุดช่องโหว่ที่นำไปสู่การเสียค่าโง่ คล้ายกับคดีคลองด่าน ที่ปี 2549 ไม่มีประเด็นที่จะทำให้เสียค่าโง่ แต่หลังจากนั้นพบการขยายสัญญาและต่อสัญญา พบเงินทอนหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปัญหาที่อาจทำให้ต้องต่อสัญญารอบต่อไปคือ การขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ก่อนรับมอบงาน ทำให้มีงานที่ต้องซ่อมแซมและอาจถูกเรียกค่าเสียหาย ที่สภาต้องเตรียมงบประมาณเพื่อจ่ายในปี 2563-2564
จากนั้นที่ประชุมลงมติโดยเสียงข้างมากเห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว ด้วย 354 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานภายใน 60 วัน ทั้งนี้ นายชวนแจ้งให้ทราบด้วยว่าได้ให้เลขาธิการสภาฯ ?ศึกษากระบวนการใช้พื้นที่อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องเตรียมการไว้ในอนาคตด้วย
วันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์จูบกันภายในอาคารรัฐสภาระหว่างการแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องในเรื่องความหลากหลายทางเพศว่า เรื่องมีระเบียบอยู่แล้ว แต่ระเบียบไม่ได้สำคัญเท่ากับความสำนึกและความรับผิดชอบ กรณีที่เกิดขึ้นมาจากคนในเอง คนนอกไม่มีทางเข้ามาได้ หากคนในไม่ได้วางแผนร่วมมือด้วย โดยในเรื่องนี้นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ามาชี้แจงเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งเชื่อว่านางมุกดาไม่ได้เป็นคนที่จะทำอย่างนั้น แต่ประธาน กมธ.ยอมรับว่าอาจเป็นคนในกรรมาธิการกันเองที่เตรียมกันมา
"เรื่องระเบียบก็ปรับปรุงให้ทันกับเหตุการณ์ แต่เชื่อเถอะครับว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าคนไม่รับผิดชอบ คนไม่สำนึกในสิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระเบียบออกมาอย่างไร ก็ควบคุมคนประเภทนั้นได้ยาก เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่คณะกรรมาธิการชุดอื่นๆ ต้องระวัง เพราะอาจจะมีคนที่ตั้งใจหรือคนในของเราเองที่ตั้งใจสร้างข่าวขึ้นมา ภาพไม่ดีเลยครับ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนก็โทรศัพท์มาหาว่าขณะที่ด้านหนึ่งพยายามจะสร้างมาตรฐานให้ดีขึ้น แต่ก็ยังหนีไม่พ้นที่จะมีคนบางกลุ่มที่พยายามทำให้ภาพสภาเสียหาย โดยอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไปคิดเอาเองว่าเรื่องนี้เหมาะสม แต่จริงๆ แล้วใครก็รับไม่ได้" นายชวนระบุ
อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ออกมาจะทำให้ กมธ.หลายคณะระวังกันมากขึ้น หากอ่านระเบียบและยึดตามนั้น ปัญหาจะน้อยลง คนในอย่าไปเอาสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของเรามาใช้ทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องไม่เหมาะกับประเทศไทย ซึ่งความเป็นอิสระ ส.ส.ก็เป็นประโยชน์ เพราะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่คนที่มีความรับผิดชอบจะรู้ว่าในเมื่อเขามีสิทธิก็จะต้องมีหน้าที่ด้วย ตรงนี้คือปัญหาของประเทศด้วย ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในสภา ดังนั้นต้องฝึกคนของเราให้รู้จักหน้าที่เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบควบคู่กันไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |