20ธ.ค.62-สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอยูโพล) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องปีใหม่ 2563 : คนไทยคิดอะไร? : ตัวอย่างประชาชนทั่วไป ในเขตกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,007 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1–20 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2562 ในภาพรวมพบว่าคนไทยส่วนใหญ่หรือประมาณ 2 ใน 3 (ร้อยละ 65.82) ระบุว่าเศรษฐกิจปีนี้แย่กว่าปีที่แล้ว และประมาณครึ่ง (ร้อยละ 50.02) คาดว่าปีหน้าจะแย่กว่าปีนี้อีก และประชาชนบางกลุ่มร้อยละ 32.59 ระบุว่าเหมือนๆ กับปีที่แล้ว และร้อยละ 41.43 คาดว่าปีหน้ากับปีนี้ก็ไม่แตกต่างกัน
ปัญหาจราจรเป็นปัญหาลำดับแรกๆ ที่ประชาชนคาดหวังต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ซึ่งจากผลสำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่ปัญหาดังกล่าวยังคงเหมือนเดิม (ร้อยละ 58.28) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่าปีหน้ายังคาดว่ายังคงเหมือนเดิม (ร้อยละ 55.35) ทำนองเดียวกันปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นส่วนใหญ่เห็นว่ายังคงเหมือนเดิม (ร้อยละ 52.24) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่าปีหน้าก็ยังคงเหมือนเดิมเช่นกัน (ร้อยละ 52.08)
ปัญหาฝุ่นละอองเป็นปัญหาหนึ่งที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ซึ่งปัญหาดังกล่าวประชาชนส่วนใหญ่มองว่าปีนี้แย่กว่าปีที่แล้ว (ร้อยละ 55.48) และปีหน้าร้อยละ 46.45 คาดกว่าก็น่าจะเหมือนๆ ปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้มีเพียงร้อยละ 18.70 ที่คาดว่าปัญหาฝุ่นละอองในปีหน้าน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ ดังนั้นประชาชนรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหาวิธีหรือมาตรการในการดูแลเพื่อป้องกันผลกระทบจากปริมาณฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น
กิจกรรมในช่วงปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ประชาชนตั้งใจจะทำมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว (ร้อยละ 47.55) รองลงมาคือ 2) ทำบุญ/ไหว้พระ (ร้อยละ 41.16) 3) พบปะสังสรรค์ (ร้อยละ 28.32) 4) กลับภูมิลำเนา (ร้อยละ 23.53) และ 5) เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ (ร้อยละ 20.63) ทั้งนี้ยังมีประชาชนไม่น้อยหรือร้อยละ 20.53 ที่ระบุว่าในช่วงปีใหม่จะไม่ได้ทำอะไรโดยใช้เวลาพักผ่อน อยู่บ้านเฉยๆ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.38 วางแผนการใช้จ่ายตามปกติ (โดยไม่ได้เตรียมเงินสำรองไว้) ในขณะที่ร้อยละ 36.62 เตรียมเงินไว้ใช้จ่ายในช่วงปีใหม่ โดยเตรียมค่าใช้จ่ายไว้ประมาณ 11,884 บาทต่อคน
ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด คือ การแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ / ลดค่าครองชีพ/ ปากท้องของประชาชน (ร้อยละ 32.39) รองลงมาคือ อยากให้ปรับเปลี่ยนการบริหารงานใหม่ / สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน (ร้อยละ 27.91) และต้องการให้เพิ่มรายได้รวมทั้งเงินช่วยเหลือต่างๆ ให้กับประชาชน (ร้อยละ 17.72) นอกจากความต้องการดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้นรัฐบาลควรแก้ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ รวมทั้งปัญหารถติด ปัญหาการคอรัปชั่น ความเหลื่อมลำทางสังคม ตลอดจนควรส่งเสริมด้านการศึกษาหรือทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ รวมทั้งความสามัคคีของผู้นำประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |