"ศรีวราห์" เตรียมสอบปากคำ "เปรมชัย"  อีกรอบ 20 มี.ค.นี้ "ดร.กณิตา" เผยผลแล็บยันชัดเจ้าสัวเปิบไก่ฟ้าหลังเทา เสียงเรียกร้องแทนเสือดำขยายวง  หลายจังหวัดจัดกิจกรรมปลุกสำนึก พ่วงต่อต้าน "อิตาเลียนไทย" วงเสวนาเห็นตรงกันหวั่นเศรษฐีหลุดคดีซ้ำรอยทายาทกระทิงแดง
เมื่อวันอาทิตย์ พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอง ผบก.ปปป.) เปิดเผยว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มี.ค. นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี จะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ตามหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งภายหลังสอบคำให้การและแจ้งข้อกล่าวหาแล้วเสร็จ คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ 
“ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาด้วยตนเอง” พ.ต.อ.วัชรินทร์กล่าว
    ด้าน ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ว่าด้วยเรื่องไก่ฟ้า...? เจ้าเอย...” ระบุว่า คดีล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวรฯ นอกจากเสือดำแล้ว ยังมีไก่ฟ้าตัวหนึ่งที่ตกเป็นเจ้าทุกข์กับเขาด้วย ซึ่งได้รายงานผลเบื้องต้นไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ยืนยันผลที่ถูกต้องกับพนักงานสอบสวน และยังไม่ได้ออกรายงานผลฉบับสมบูรณ์ เนื่องจากแล็บนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าของกรมอุทยานฯ ขอวิเคราะห์ผลใหม่ ซึ่งล่าสุดผลวิเคราะห์เสร็จเรียบร้อย และได้ความมั่นใจ 100% แล้วว่าไก่ฟ้าตัวนี้เป็นไก่ฟ้าหลังเทา หรือ Lophura leucomelanos
    ทั้งนี้ ดร.กณิตายังได้โพสต์ถึงขั้นตอนการตรวจสอบไก่ฟ้า และความท้าทายในงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า พร้อมระบุว่า งานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าในไทย อาจดูเป็นสิ่งใหม่ที่เราคนไทยยังไม่คุ้นเคยนัก แต่จำเป็นต้องมี และต้องมีงานวิจัยด้านพันธุกรรมสนับสนุนอย่างมั่นคง เพื่อช่วยตอบปัญหาในคดีอาชญากรรมสัตว์ป่า ดังตัวอย่างในคดีนี้ เป็นต้น โดยกรมอุทยานฯ เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และจะทำให้ประชาชนคนไทยเห็นว่าเราได้สร้างมาตรฐานในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าด้วยการทำงานอย่างมีหลักการ รอบคอบรัดกุม และมีความถูกต้องมากที่สุด เพื่อการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมสัตว์ป่าในไทยให้สำเร็จให้จงได้
    สำหรับไก่ฟ้าหลังเทานั้น ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยไก่ฟ้าหลังเทามีขอบเขตการกระจายพันธุ์ตามแนวเทือกเขาหิมาลัยลงมาถึงภาคตะวันตกของไทย แบ่งออกได้เป็นอย่างน้อย 9 ชนิดย่อยตามสีสันที่ต่างกันในแต่ละพื้นที่ 
    วันเดียวกัน พบว่ามีหลายภาคส่วนได้มีการเคลื่อนไหวในเรื่องของเสือดำอย่างต่อเนื่อง โดยที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลุ่ม T’Challa จัดเสวนา "จบแบบไหน? เสือดำจะต้องไม่ตายฟรี" 
โดยนางณิชา ณ นคร อดีตสมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลนายเปรมชัยจะหลุดคดี เพราะคนรวยหรืออำนาจเงินจะมีตัวกันกระแทกอัตโนมัติ อำนาจเงินทรงพลังมาก อย่างกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง หลังเกิดเรื่องตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกมาให้ข่าวครึกโครม ยอมไม่ได้เพราะผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจ แต่สุดท้ายก็ฉีกหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ตำรวจได้สรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการไปแล้วก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ที่หนักใจคือนายเปรมชัยปฏิเสธทุกข้อหา และที่น่าเป็นห่วงคือนายเปรมชัยยิงเสือดำวันไหน เพราะมีผลเกี่ยวเนื่องกับคดี ซึ่งถ้าต่อสู้ประเด็นนี้เขาอาจโยนให้ลูกน้องเป็นคนลงมือโดยที่ตัวเองไม่รู้เห็นด้วย ถึงแม้ พล.ต.อ.ศรีวราห์จะยืนยันว่านายเปรมชัยจะถูกสั่งฟ้องแน่นอน เพราะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ
     ส่วน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า คดีนี้สะท้อนถึงปัญหาในกระบวนการสอบสวน จึงจำเป็นต้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ โดยเฉพาะงานสอบสวน ซึ่งเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรม โดยก่อนส่งสำนวนไปยังอัยการและศาล ตำรวจเปิดเผยว่ามีพยานหลักฐานพร้อม 99% แต่เราไม่เห็นสำนวน เนื้อในจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ
    “เกรงว่านายเปรมชัยจะหลุดคดี เพราะผู้ต้องหาปฏิเสธสู้คดี และพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ชัดเจน 100% ส่วนที่ตำรวจให้ข่าวอาจไม่ตรงกับสำนวนการสอบสวน ไม่มีใครรู้ เมื่อสังคมตั้งคำถามไป ก็บอกว่าเป็นความลับในสำนวน ในการปฏิรูปตำรวจจึงเรียกร้องให้อัยการเข้ามาร่วมตรวจสอบในคดีที่มีอัตราโทษเกิน 5 ปีขึ้นไปให้เข้ามาร่วมสอบสวนด้วย” พ.ต.อ.วิรุตม์ระบุ
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเสวนาเสร็จ กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ได้จัดแสดงละครเสียดสีนายเปรมชัย พร้อมประกาศเจตนารมณ์ทวงความยุติธรรมให้กับสัตว์ป่า ก่อนมีกิจกรรมขับขานเสียงเพลงเสือดำ พร้อมออกแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ T'Challa เสือดำคำราม ฉบับที่ 3 
“เรามาเพื่อส่งเสียงว่า คน สัตว์ และป่า สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เบียดเบียนกัน ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมจะจบลงอย่างไร แต่กระบวนลงโทษทางสังคมจะยังคงดำเนินการต่อไปทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อสร้างมาตรฐานความเท่าเทียมทางกฎหมายและการปลุกสำนึกแห่งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก T'Challa ขอให้หน่วยงานรัฐต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องด้านการค้า การลงทุน หรือการทำ MOU กับบริษัทผู้เข่นฆ่าเสือดำ จงพิจารณาถึงหลักธรรมาภิบาล ในส่วนของหลักความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านอย่าปล่อยให้คำว่า ธรรมาภิบาลเป็นเพียงแค่วาทกรรม ขอให้หน่วยงานของท่านจงออกมาเป็นผู้นำในการลงโทษทางสังคม”แถลงการณ์ส่วนหนึ่งระบุ
    ส่วนในภูมิภาค บริเวณลานหน้าวิหารหลวงพ่อนาค วัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสายธาร เผื่อนผุด ประธานจิตอาสาคนหัวหิน พร้อมอาสาสมัคร ได้ร่วมกันสกรีนรูปเสือดำลงบนเสื้อยืดสีขาวที่ประชาชนชาวหัวหินหลายร้อยคนนำมาเอง เพื่อเตรียมสวมใส่รณรงค์สร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์สัตว์ป่า ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่หอนาฬิกา หัวหิน
      นายสายธารกล่าวว่า จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนและสังคมไทยตระหนักถึงกฎหมาย ไม่ได้ต้องการโจมตีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งเสือดำอาจไม่ใช่ตัวแรกที่เสียชีวิตลงไป อาจมีนก กระทิง ช้าง ม้า หรือสัตว์อื่นๆ จึงต้องออกมากระตุ้นช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่า สัตว์สงวนพันธุ์หายาก ดำรงไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูได้ศึกษา โดยได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ จัดสกรีนเสื้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และหลังเสร็จกิจกรรมครั้งนี้แล้วจะส่งมอบบล็อกสกรีนเสื้อทั้งหมดให้น้องๆ กลุ่มระฆังทองรถคลาสสิคนำไปจัดกิจกรรมสกรีนเสื้อต่อใน จ.ราชบุรี เพื่อใส่ไปให้กำลังใจนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในวันที่ 4 พ.ค.
    ส่วนที่ จ.ระยอง นายประยุทธ ผิวพรรณ พร้อมเพื่อนๆ กลุ่มออฟโรดจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดระยองกว่า 50 คัน ขับรถพร้อมติดป้ายและสติกเกอร์เป็นรูปหัวเสือดำ มีข้อความว่า “เสือดำไม่ตายฟรี ปลุกเสือหลับ”  โดยตั้งใจปลุกจิตสำนึกเพื่อขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพื่ออยากให้มีสัตว์ป่าไว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปได้เห็น ไม่ใช่เห็นแต่รูปในหนังสือเท่านั้น
    ขณะที่เชียงใหม่ กลุ่มอาสาหมาแมวเชียงใหม่ AAA : Animal Activist Aliance นำโดย น.ส.นรินทัต นัทนวรรณ ณ อยุธยา จัดกิจกรรม “สู้เพื่อเสือดำ - Fight for Black Panther” ณ ลานกิจกรรมหอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) โดยสวมหน้ากากเสือดำ พร้อมชูป้ายข้อความแสดงสัญลักษณ์เรียกร้องความเป็นธรรมให้เสือดำที่ถูกสังหาร 
    “ทุกชีวิตมีคุณค่าเท่ากัน แต่สัตว์พูดไม่ได้ เราจึงต้องออกมาพูดแทน สิ่งที่ต้องการคือ อยากให้กฎหมายเข้มงวด ผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษ และอยากให้กระตุ้นคนรุ่นใหม่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวและปกป้องสัตว์ป่าทุกตัว” น.ส.นรินทัตกล่าว.