"ชวน" สั่งเลขาฯ สภารายงานการแถลงการณ์เรตอาร์ ของกลุ่ม LGBT แล้ว ขณะที่สังคมทั่วไปสวดกันยับ เลขาฯ สภาชี้ไม่เหมาะสม แต่เอาผิดไม่ได้ สั่งล้อมคอกแก้ระเบียบการใช้ห้องแถลงข่าวใหม่ "มุกดา" นอนไม่หลับ ยอมรับผิดขอโทษประชาชน  อดีตผู้สมัคร ส.ส.ส้มหวานลากไส้ "ธัญวัจน์" เป็นคนจัดฉาก แถมยังโกหก จี้ลาออกจาก ส.ส. 

    มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตามมาถึงความไม่เหมาะสมที่กลุ่ม LGBT แสดงออกเชิงอนาจารด้วยการจูบปากกันภายหลังจากแถลงข่าวที่บริเวณชั้น 1 อาคารรัฐสภา โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้กำกับ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา 
    โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และขอไปพิจารณาก่อน ทั้งนี้ ได้สั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ก่อนจะดำเนินการต่อไป
    ด้านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ซึ่งตามระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการใช้ห้องแถลงข่าวรัฐสภา เดิมไม่มีกำหนดไว้ว่ามีความผิดอะไร และโดยตนได้สั่งการผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ให้ทำรายงานขึ้นมาเพื่อเสนอนายชวน ซึ่งท่านก็ได้ส่งต่อไปที่ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอทราบรายละเอียดอีกครั้ง
    เลขาธิการสภาฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตั้งทีมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ 18 ฉบับ ซึ่งเรื่องการแถลงข่าวก็เป็นหนึ่งในระเบียบที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมฉบับปัจจุบัน โดยจะพิจารณาว่านอกจากจะให้สิทธิ์แก่สมาชิกหรืออดีตสมาชิกหรือไม่แล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาว่าควรมีการกำหนดบทลงโทษด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือไม่เหมาะสม
    เมื่อถามว่า จะมีมาตรการลงโทษอย่างไรบ้าง นายสรศักดิ์ ตอบว่า เป็นอำนาจของนายชวนว่าจะตักเตือนหรือดำเนินการใดๆ รวมถึงเป็นอำนาจของประธานกรรมาธิการเด็กฯ ที่พากลุ่มคนเหล่านี้มาแถลงข่าว และเราได้สั่งให้เจ้าหน้าที่คอยจับตาดู 
    “เรื่องที่เกิดขึ้นกำลังคิดว่าอาจเสนอให้มีผู้มีอำนาจคนหนึ่งสั่งยุติหากมีการแถลงข่าวที่ไม่เหมาะสม ขณะนี้ระเบียบอยู่ระหว่างการยกร่าง คาดว่าอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ” นายสรศักดิ์กล่าว
    นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาขอโทษ พร้อมกล่าวยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบปล่อยให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจูบกันกลางสภา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
    เธอกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งได้นำเรียนประธานสภาฯแล้ว และน้อมรับในฐานะที่เป็นประธาน กมธ. เราต้องรับทุกเรื่องอยู่แล้ว และในฐานะที่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ภาพที่เกิดขึ้นยิ่งสะท้อนความรู้สึก เมื่อคืนตนก็นอนไม่หลับ คิดทั้งคืน และเห็นว่าการจะแสดงความเชิงสัญลักษณ์ตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่สถานที่แห่งนี้ ขอให้เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราด้วย 
    “ดิฉันยอมรับในฐานะที่เป็นประธาน ยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบ เพราะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสภา ดังนั้นดิฉันขอโทษประชาชนด้วย จากนี้จะระมัดระวังมากขึ้น ไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งในการประชุม กมธ.วันที่ 25 ธ.ค. จะมีการพูดคุยกันว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” นางมุกดา กล่าว พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ
    นายภูวกร ศรีเนียน อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พะเยา พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณีที่นายธัญวัจน์ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จัดฉากให้ชายหนุ่มสองคนจูบกันในสภาว่า ในฐานะของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่คนหนึ่ง ขอเรียกหาสปิริตของ ส.ส.อนาคตใหม่ ที่พูดเสมอว่าไม่ยึดติดตำแหน่ง สู้เหนือใคร ไม่โกหกหลอกลวง
         "วันนี้ผมถือว่าคุณธัญวัจน์ได้ทำผิดหลักการ ทำตัวให้ผู้สนับสนุนพรรคผิดหวัง เพราะการโกหกสังคมแบบถูกจับได้ ชัดเจนอย่างน่าเกลียด เพราะหากตรวจสอบจากคลิปที่ออกมาผ่านสื่อ จะเห็นว่าเป็นการจัดฉากของคุณธัญวัจน์จริง ซึ่งหากนายธัญวัจน์แสดงออกยอมรับความจริงว่าจงใจให้เกิดขึ้นและอยู่ในความรับผิดชอบ ยังเป็นความกล้าหาญมากกว่า"
       นายภูวกรกล่าวอีกว่า ทั้งชีวิตของตนตั้งแต่เป็นนักเรียน วัยรุ่น เรียนมหาวิทยาลัย จบออกมาทำงาน ตลอดจนเป็นคนเสื้อแดง ตนมีเพื่อนเป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศมากมาย เพราะเมื่อได้อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้แล้ว มีความสะดวกใจในการไปไหนกันลำพัง พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกันทุกเรื่อง แต่กับคุณธัญวัจน์ทำให้ตนผิดหวังมาก เพราะทำผิดกฎพรรคยังไม่พอ ยังโกหกหน้าตายได้อีก
        "ผมว่าการแสดงออกซึ่งสปิริตและเกิดมาตรฐานให้พรรคอนาคตใหม่ของเราได้มองหน้าสังคมอย่างภาคภูมิใจดีกว่า เพราะเรายังมีคนในพรรคที่พร้อมจะทำงานแทนได้ ก่อนจะสายไป ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ผมขอให้คุณธัญวัจน์ลาออกจาก ส ส.เถอะครับ" นายภูวกรกล่าว
       นายภูวกรกล่าวอีกว่า การปฏิเสธซึ่งหน้าอย่างไม่ละอายเช่นนี้ เป็นการผลักภาระความรับผิดชอบให้ผู้อื่น ซึ่งเป็นการกระทำที่บุคคลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนของประชาชนไม่ควรทำอย่างยิ่ง และตนอยากให้สังคมไทยเปิดใจ เข้าใจ และให้โอกาสกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ให้ได้แสดงออกอย่างเหมาะสมและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขด้วยกัน
    นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความเห็นว่า   เรื่องนี้สภาต้องสอบจริยธรรมมากกว่ามาแถลงอ่านระเบียบว่าควรแถลงข่าวหรือมีข้อห้ามอย่างไร ส.ส.ควรต้องลาออกรับผิดชอบ เกินกว่าแค่ขอโทษแล้วจบกัน เพราะนายคนที่มาจูบกันต่อหน้าสื่อแสดงออกอย่างอัปยศในสัปปายะสภาสถาน กลับแถลงอย่างทระนงว่าเขาทำถูกต้องแล้ว ดังนั้นคนที่ต้องรับผิดชอบคือ ส.ส. และกรรมาธิการที่ขาดความรับผิดชอบต่อภาพที่ถ่ายทอดสด
    ส่วนนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ ผู้ต้องหาหลบหนีคดี ม.112 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เกย์จูบในสภาไม่ใช่ปัญหา นี่คือสิ่งที่ต้องสนับสนุน แต่ที่เป็นประเด็นคือ ส.ส.ตอแหลของพรรคอนาคตใหม่ ยืนเชียร์เป็นแม่เล้า นับ 5 4 3 2 1 แต่พอเป็นเรื่องขึ้นมาเสือกบอกว่าห้ามเด็กแล้ว บอกว่าไม่ได้เตรียมตัวกันมา โยนขี้ใส่เด็กทันที.