ศาลฟิลิปปินส์มีคำพิพากษาคดี "ฆ่าหมู่มากินดาเนา" เมื่อ 10 ปีก่อน ที่มีเหยื่อถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม 58 ศพ รวมถึงนักข่าว 32 คน โดยตัดสินจำคุกจำเลย 43 คน หลายคนเป็นสมาชิกตระกูลอัมปาตวนผู้สั่งการ แต่อีกกว่า 50 คนพ้นผิด
อันดาล อัมปาตวน จูเนียร์ (แถวหน้า ซ้าย) พร้อมจำเลยคนอื่นๆ รอฟังคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดี / SUPREME COURT - PUBLIC INFORMATION OFFICE / AFP
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เหตุการณ์ฆ่าหมู่ที่จังหวัดมากินดาเนาทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งมีนักข่าวเสียชีวิตด้วย 32 คน เป็นการฆ่าหมู่สื่อมวลชนครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในโลก โดยเหยื่อนอกจากภรรยาและญาติของคู่แข่งทางการเมืองของตระกูลอัมปาตวนและผู้ติดตามแล้ว ยังรวมถึงประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่มาติดอยู่ในสถานการณ์นี้ด้วย 6 ราย
การพิจารณาคดีที่ใช้เวลายาวนานเกือบทศวรรษได้บทสรุปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2562 เมื่อศาลในกรุงมะนิลามีคำพิพากษาคดีที่ฟ้องร้องจำเลยรวม 101 คนในคดีฆ่าหมู่มากินดาเนาแล้ว โดยศาลตัดสินว่าจำเลย 43 คน ทั้งที่เป็นตัวการและผู้สมรู้ร่วมคิด มีความผิดฐานฆาตกรรม 57 ศพ แต่ผู้พิพากษายกเลิกข้อหาฆาตกรรมเหยื่อรายที่ 58 เนื่องจากไม่พบศพ
สมาชิกคนสำคัญของตระกูลนี้ 2 คนและจำเลยอีกมากกว่า 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจและสมาชิกกองกำลังติดอาวุธของตระกูลนี้ ศาลตัดสินว่าพ้นผิด เนื่องจาก "ยังมีข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล" หรืออัยการไม่สามารถหาหลักฐานพิสูจน์ความผิดได้
พวกที่ศาลตัดสินว่าผิด นำโดยอันดาล อัมปาตวน จูเนียร์ ซึ่งวางแผนจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดมากินดาเนาแข่งกับเอสมาเอล มังกูดาดาตู พร้อมกับจำเลยอีก 27 คน ซึ่ง 7 คนเป็นญาติของเขา ถูกตัดสินจำคุกรายละไม่ต่ำกว่า 30 ปีโดยไม่มีทัณฑ์บน ส่วนจำเลยอีก 14 คนที่เป็นตำรวจและอีก 1 คนที่เป็นสมาชิกกลุ่มมือปืนของตระกูลนี้ ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 8 ปี ถึง 10 ปี ฐานสมรู้ร่วมคิด
มังกูดาดาตู ซึ่งภรรยาและน้องสาว 2 คนถูกฆ่าตายด้วย กล่าวว่า คำตัดสินนี้ทำให้พวกเขารู้เศร้าและสุขไปพร้อมกัน เพราะผู้ต้องสงสัยคนสำคัญบางคนถูกตัดสินว่ามีความผิด
คดีนี้ใช้เวลาซักพยานหลายปากและมีขั้นตอนเกี่ยวกับเอกสารจำนวนมโหฬาร และถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดทั้งจากภายในและนอกประเทศว่าสถาบันในระบอบประชาธิปไตยของฟิลิปปินส์สามารถทนต่อแรงกดดันจากอำนาจเงินและอิทธิพลได้หรือไม่
ตระกูลอัมปาตวนเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองในจังหวัดภาคใต้ที่ยากจนแห่งนี้ และมีความสัมพันธ์ทางการเมืองกับนางกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในขณะนั้น ที่ปล่อยให้พวกเขาสร้างกองกำลังติดอาวุธขึ้นโดยหวังใช้เป็นกันชนต้านกบฏมุสลิมที่ก่อความไม่สงบในภูมิภาคนั้นมายาวนาน
ระหว่างการพิจารณาคดี อันดาล อัมปาตวน ซีเนียร์ ผู้นำตระกูลนี้ และจำเลยอีก 7 คน เสียชีวิตลงก่อน ผู้นำตระกูลอัมปาตวนรายนี้เป็นผู้ว่าฯ ในเวลานั้นและต้องการส่งต่ออำนาจให้อัมปาตวน จูเนียน ลูกชายของเขา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะมังกูดาดาตู ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส. ส่งภรรยานำคณะผู้ติดตามรวมถึงนักข่าว 32 คนไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้นี้
อัยการกล่าวว่า กลุ่มมือปืนตั้งด่านปิดกั้นขบวนรถของพวกเขาแล้วจี้บังคับให้ทั้งหมดไปยังเนินเขาใกล้เคียง ซึ่งกลายเป็นแดนสังหารด้วยห่ากระสุนและใช้เป็นหลุมฝังศพเหยื่อทั้งหมดพร้อมกับรถยนต์ของพวกเขา เหยื่อ 6 คนในนี้เป็นชาวบ้านโชคร้ายที่ขับรถผ่านมาแต่มาติดอยู่ที่ด่านและถูกต้อนไปฆ่าด้วย
บรรดานักสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศยกย่องคำตัดสินนี้ แต่ก็เตือนว่าญาติของเหยื่อและพยานที่เข้าให้การยังมีความเสี่ยงต่อชีวิต เพราะผู้ต้องสงสัยอีก 80 คนยังลอยนวล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |