ฮื่ออ์อ์อ์...ไม่รู้ว่าใคร? ที่เป็นผู้ประดิษฐ์ คิดค้น ชื่อ ฉายา เกศ โกเต๊กซ์ สำหรับผู้ที่ดันไปหยิบเอา ข่าวปลอม เรื่องรัฐบาลคิดจะขึ้นภาษีผ้าอนามัย หรือจัดให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งคงต้องยอมรับว่า...ช่างเป็นอะไรที่โฟร์เอส สร้างสรรค์ ทั้งเจ็บแสบ ทั้งปวดร้าว เอามากๆ และออกจะสอดคล้อง เหมาะสม กับผู้ที่ไม่ได้ดูตาม้า-ตาเรือ ไม่ได้คิดจะแยกแยกว่าอะไรเท็จ อะไรจริง ที่นับวันจะมีอยู่เยอะเอามากๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล มีเดีย ทั้งหลาย...
------------------------------------------------
คือบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกโซเชียล มีเดีย ของบ้านเรา...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นับวันมันจะแออัด ยัดเยียด มีจำนวนเพิ่มขึ้นๆ จนออกจะน่าห่วง น่ากังวล มิใช่น้อย โดยเฉพาะถ้าหากไม่ได้มีการเอาจริง-เอาจัง กันในเรื่องอะไรจริง อะไรปลอม แค่ดูจากตัวเลขสถิติเมื่อปี ค.ศ.2018 จากจำนวนประชากรประเทศไทยประมาณ 6.9 ล้านคน แต่ผู้ที่หลั่งไหลเข้าไป มั่ว อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต มีจำนวนปาเข้าไปถึง 57 ล้านคน และในจำนวนนี้ได้ทำให้ประเทศไทยได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีผู้เข้าไปใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุดในโลก คือโดยเฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง 38 นาที เป็นอย่างน้อย อีกทั้งกรุงเทพมหานครยังได้ชื่อว่าเป็น แชมป์เฟซบุ๊ก หรือมีผู้ใช้บริการสื่อชนิดนี้มากที่สุดในโลก...
-----------------------------------------------
ดังนั้น...เมื่อต้องเจอกับประเภท เกศ โกเต๊กซ์ ขึ้นมาซักหนึ่งคน อะไรต่อมิอะไรมันคงต้องวุ่น ต้องปวดเศียร เวียนเกล้า กันไปมิใช่น้อย ขณะยังไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ อะไรเป็นข่าวปลอม-ไม่ปลอมกันแน่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็แพร่สะพัด เป็นประกายไฟไหม้ลามทุ่ง ยากซ์ซ์ซ์ที่จะตามไปดับ ไปปัดกวาด เช็ดล้าง สิ่งซึ่งมันเละเทอะ เลอะเทะ ไปแล้วแทบทั้งประเทศ ยิ่งในช่วงที่ การเมือง กำลังเข้าด้าย เข้าไคล ความโกรธ เกลียด เคียดแค้นอาฆาต พยาบาทและชิงชัง โผล่เข้ามาทางประตู ความอดทน อดกลั้น ขันติธรรม เมตตาธรรม พรั่งพรูออกไปทางหน้าต่าง บรรดาข่าวปลอม เฟกนิวส์ ฟักนิวส์ ยิ่งแพร่ระบาดหนักขึ้นไปใหญ่...
---------------------------------------------
ต่างไปจากบ้านใกล้ เรือนเคียง อย่าง สิงคโปร์ ที่ออกจะไหวตัวได้เร็วมาก ถึงได้ออกกฎหมาย Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act หรือ Fake News Law มาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ไม่เพียงมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้วินิจฉัยว่าอะไรเป็นข่าวจริง ข่าวปลอม แต่ยังกำหนดโทษบรรดาผู้โพสต์ ผู้แชร์ ข่าวปลอมทั้งหลาย เอาไว้ชนิดหนักหนา สาหัส ไม่น้อย คืออาจถูกปรับเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 72,108 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ก็ปาเข้าไประดับ 2 ล้านเกือบ 3 ล้านบาท และอาจต้องถูกจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำ ทั้งปรับ...
------------------------------------------------
เช่นเดียวกับบ้านใกล้ เรือนเคียง อย่าง เวียดนาม ที่นับจากวันที่ 1 มกราคมปีหน้า หรือปี ค.ศ.2020 เป็นต้นไป บรรดาชาวเวียดนามทั้งหลายที่เถลไถลเข้าไปในโลกอินเทอร์เน็ต จะต้องตกอยู่ภายใต้กฎหมาย Cybersecurity Law ฉบับใหม่ ที่ทั้งโหดทั้งหิน ไม่น้อยไปกว่ากฎหมายอินเทอร์เน็ตของรัฐบาลจีน คือจะต้องถูกสอดส่องดูแล ล็อกข้อมูล ปิดกั้นข้อมูล หรือลบทิ้งข้อมูล ฯลฯ โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ได้แบบคล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง และไม่ใช่แต่เฉพาะบรรดาผู้ใช้บริการสื่ออินเทอร์เน็ตชาวเวียดนามแต่เพียงเท่านั้น บรรดาบริษัทต่างประเทศยักษ์ๆ ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ ต่างก็ตกอยู่ในข่ายที่จะต้องเปิดช่อง เปิดทาง ให้กฎหมายเวียดนาม ล้วงลึกเข้าไปตรวจสอบ สกัดกั้น บล็อกข้อมูล ลบข้อมูล ที่ทางการเวียดนามไม่พึงปรารถนาได้อีกด้วย โดยถ้าหากคิดจะขัดขืน ก็อาจถูกถีบออกจากเวียดนาม แบบเดียวกับจีน เอาเลยก็ไม่แน่...
---------------------------------------------------
ส่วนการกระทำเช่นนี้ หรือการออกมาตรการเช่นนี้...มันจะถูกหรือผิด เหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร อันนั้นคงต้องแล้วแต่จะถกจะเถียง ไปตามมุมมองของใครก็ของมัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...มันเป็นภาพสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจน ว่านับวัน...โลกโซเชียล มีเดีย หรือโลกอินเทอร์เน็ตนั้น ออกจะเป็น อันตราย มิใช่น้อย สำหรับบรรดาผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ของแต่ละประเทศ ที่จะต้องหาทางทำให้ความเป็นไปใน โลกเสมือนจริง มันไม่กลายเป็นภัยคุกคามต่อ โลกแห่งความจริง มากมายเกินไปนัก...
--------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...สำหรับบ้านเรานั้น คงต้องปล่อยให้เป็นภาระ หน้าที่ ของ รัฐมนตรีผู้มีเมียสวยที่สุดในปฐพี อย่างคุณน้อง พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แห่งกระทรวงดิจิตอลฯ ลองไปหาทางกันเอาเอง จะตามไปไล่จับ ไล่งับ ไล่ฟัด กันไปเป็นรายๆ หรือจะหามาตรการและนโยบาย ที่ครอบคลุมได้อย่างกว้างขวาง และที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของโลกและของประเทศไทย ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตเบื้องหน้า โดยเฉพาะในช่วงจังหวะที่บทบาทและอิทธิพลของ โลกเสมือนจริง นับวันมันชักจะเหนือกว่าความเหลวเป๋ว เละตุ้มเป๊ะ ของ โลกแห่งความจริง ยิ่งเข้าไปทุกที...
--------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Richard Corliss... “Nothing ages so quickly as yesterday’s vision of the future. – ไม่มีอะไรล้าสมัยเร็วเท่า วิสัยทัศน์แห่งอนาคต ที่ถูกกำหนดขึ้นมาเมื่อวาน...”
------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |