19 ธ.ค. 62 - เมื่อเวลา 13.55 น. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เจ้าตัวจะขยับตำแหน่งมาเป็นแกนนำพรรคในสภา ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ หรือพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้สแต่ต้องมีการปรับโครงส้ราง  ว่า ตอนนี้ตนยังเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าพรรคก็ยังชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยุ่เหมือนเดิม ในส่วนของตน ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปคิดอะไรล่วงหน้า แต่เท่าที่พูดคุยกันกับสมาชิกพรรค การจะไปที่ไหน จะอยุ่ที่เดิม หรือจะไปในรูปแบบไหน เราจะไปแบบเป็นปึกแผ่นด้วยกัน และเราเชื่อว่า เราพร้อมจะสู้ในเชิงกฎหมายเพอื่อพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่ถูกกล่าวหา ไม่เป็นความจริง

 “ยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ได้มีการวางแผนในส่วนของตัวผู้นำพรรคคนใหม่ แบบที่นายธนาธรพูดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าตอนนี้ยังคงเป็นพรรคอนาคตใหม่ และขอย้ำอีกครั้งว่า สำหรับผม หัวหน้าก็ยังชื่อธนาธรเหมือนเดิม”นายพิธา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เรามีการวางแผนหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น เพื่อรักษาเสียงพี่น้องประชาชนที่เลือกเรามาไม่ให้หายไป แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่ามีการวางตัวผู้นำคนใหม่ แบบที่บางสื่อเสนอมา

เขากล่าวต่อว่า  การที่ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ก้ไม่ได้หมายความว่าตนจะกลายเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ เพราะเรื่องพวกนี้ พรรคอนาคตใหม่ใช่ว่า ใครจะจิ้มเลือกก้ได้ มันมีกระบวนการ มี คณะกรรมการบริหารพรรค อะไรจะเกิดตนก็พร้อม และตนเชื่อว่าพรรคเรามีคนสมาชิกพรรคที่มีศักยภาพ ที่พร้อมจะไปด้วยกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการให้กำลังใจกัน

เมื่อถามถึงกิจกรรมเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายพิธา กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว ไม่ใช่การชุมนุม เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่มีการตั้งเวที มีแกนนำ และตั้งเครื่องเสียง ของเราเสียงไม่เกินเดซิเบลที่กำหนด และใช้เวลาประมาณเพียง 1 ชั่วโมง เมื่อจบแล้วก็มีการทำความสะอาด เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน แบบนี้จะเรียกว่าการชุมนุมก็คงไม่ใช่ แต่เรียกว่าเป็นกิจกรรม ที่ประชาชนต้องการส่งข้อความไปยังผู้มีอำนาจมากกว่า

 “ถ้าถามว่า หากมีกิจกรรมครั้งต่อไปจะไปหรือไม่ ผมคงขอดูรายละเอียดก่อน ว่าทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน หรือเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นการชุมนุม ขยายเสียงกันมหาศาล ทำให้รถติด ปิดสถานที่สำคัญ ทำให้กรุงเทพชัตดาวน์ ผมคงไม่ไปร่วม แต่ถ้ามันเป็นกิจกรรมที่เราสามารถแสดงออกได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน ผมจะพิจารณาอีกครั้ง”