18 ธ.ค.62 - ที่จ.ขอนแก่น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่อ.หนองเรือ เพื่อช่วยนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 7 หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 ธันวาคม

นายสมพงษ์กล่าวว่า ดีใจที่พี่น้องชาวหนองเรือมาฟังปราศรัยอย่างคับคั่ง ตอนนี้ประชาชนในประเทศกำลังอดอยาก เงินในกระเป๋าไม่มี เพราะการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี โดยใช้รัฐธรรมนูญที่คนร่างบิดเบี้ยว อยากจะบอกกับประชาชนว่าให้ปักป้ายชื่อและเน้นนามสกุลของคนร่างรัฐธรรมนูญ ให้เห็นว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ประเทศเจริญประชาชนก็จะได้สรรเสริญ แต่หากบ้านเมืองกำลังจะตกอับประชาชนก็จะได้รู้ว่าตระกูลของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นคนที่ทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงและเสียหาย วันนี้สมควรแก่เวลาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะลาออกไปแล้วให้คนที่มีความสามารถมาบริหารประเทศ 5 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วบ้านเมืองถดถอยแค่ไหน ศึกเลือกตั้งซ่อมขอนแก่นครั้งนี้จะเป็นจุดชี้ว่ารัฐบาลควรจะไปต่อหรือไม่ 22 ธันวาคมนี้ขอให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ

นายธนิก ขึ้นเวทีปราศรัยว่า มาขอโอกาสจากพี่น้องชาวหนองเรืออีกครั้งให้ได้เข้าไปทำงานในสภาฯเป็นตัวแทนเพื่อเป็นปากเป็นเสียงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ย่ำแย่มากในขณะนี้ ทุกครั้งที่ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพี่น้องหลายคนสะท้อนสารพัดปัญหาให้ฟัง ซึ่งตนตระหนักและคิดว่าหากประเทศชาติยังย่ำแย่ ผู้นำประเทศไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและดีแต่แจก อีกไม่นานประเทศชาติจะพังพินาศ ดังนั้นวันที่22 ธันวาคมนี้โอกาสอยู่ในมือของพี่น้องทุกคนแล้วโปรดให้โอกาสนั้นกับตนเองด้วย

นายสมชายกล่าวว่า เราได้ ส.ส. จากการโหวตจากประชาชนมากที่สุด มีที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับโลก มีคนทำงาน แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพราะปัญหามันอยู่ที่รัฐธรรมนูญ วันนี้จะส่งนายธนิก ไปแก้รัฐธรรมนูญให้เราได้กลับมาเป็นรัฐบาล นายธนิกต้องไปทำงานแทนเรา ไปทวงถามว่าที่บริหารมา 5-6 ปี ประเทศชาติเจริญหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ออกไป ให้เราบริหารเอง นายธนิกไม่มีทางเป็นงูเห่า การเลือก ส.ส. ฝ่ายค้านไม่ใช่เข้าไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ ประชาชนจะได้ประโยชน์ ด้วยการแก้ปัญหา เช่น ภัยแล้ง ถ้าพี่น้องไม่ลืมเรา เราก็จะไม่ลืม ทุกวันนี้พรรคลืมตาอ้าปากทางการเมืองก็เพราะพี่น้องชาวอีสาน แม้วันนี้จะไม่ได้เป็น ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ก็จะอยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทยตลอดไป

นายสุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้วุฒิภาวะต่ำ เคยชี้หน้าด่าตนในสภา เพราะถามแทงใจดำว่า ที่ผ่านมาทำให้ประเทศชาติดีขึ้นอย่างไรบ้าง หากประชาชนเห็นว่าที่ผ่านมาดี ก็อยู่กับรัฐบาลชุดนี้ต่อไป แต่ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้ามาพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ข้าวของแพงขึ้น สินค้าเกษตรถูกลง ส่งออกติดลบ แต่เจ้าสัวกลับรวยขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ขอบคุณชาวหนองเรือที่ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง 24 มีนาคมที่ผ่านมา รู้ว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนความทุกข์แน่นเต็มอก ตอนเลือกตั้งรัฐบาลสัญญาสารพัด ตั้งแต่เพลง เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน  ก็ใช้เวลาไปแล้ว 5 ปี สินค้าเกษตรที่สัญญาไว้ก็ราคาตกต่ำไม่เป็นไปตามที่หาเสียง เงินเยียวยาภัยแล้งก็ยังไม่ได้ แต่เดี๋ยวประชาชนจะได้ เพราะแค่นายธนิกลงสมัคร รัฐบาลก็รีบประกาศจะจ่ายเงินภัยแล้ง แต่ยังไม่พอ เพราะถ้านายธนิกเข้าสภา จะไปทวงสัญญาให้หมดทุกอย่าง เช่น แก้ปัญหายาเสพติด มารดาประชารัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าแรงอาชีวะและปริญญาตรี บัตรคนจนก็ไม่ช่วยให้คนรวยขึ้น แต่ทำให้คนจนซ้ำ เจ้าสัวรวย อีกทั้งยังซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีกสองลำทั้งที่ประชาชนอดอยาก นายธนิกจะไปทวงเงินตรงนี้มาให้พี่น้องประชาชน นายธนิกเป็นลูกชาวนาแท้ๆ เข้าใจประชาชน หนึ่งเสียงของนายธนิกจะไปไล่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไปดาวอังคาร ขอสัญญาว่าถ้านายธนิกชนะการเลือกตั้ง ตนและพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งประชาชน จะตามไปอยู่เคียงข้างเพื่อแก้ปัญหา ช่วงนี้ได้ข่าวว่ามีการแจกเงินและให้ดื่มน้ำสาบาน แต่การดื่มน้ำสาบานคือเพื่อทำความดีแต่ถ้าขายเสียงคือทำบาป

“ขอประกาศว่าข้าราชการปกครองที่นี่ยังวางตัวไม่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าวางตัวไม่เป็นกลางจำคุก 10-20 ปี อย่าให้ข้าราชการที่ไม่ดีมาหลอกเรา สิทธิในการกาเลือกตั้งเป็นของเรา อย่าไปกลัว บัตรเลือกตั้งกับใบเซ็นชื่อคนละใบกัน อย่ายอมให้ข้าราชการไม่ดีมาขู่ แล้วชาวบ้านจะส่งข้าราชการที่ไม่ดีไปเข้าคุก ถ้าใครเจอให้มาบอก แล้วตนจะจัดการเอง”คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ช่วงสุดท้ายคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พบชาวบ้านสะท้อนถึงความทุกข์จากราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ สัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน อยากกลับมากินตำบักหุ่งกับประชาชนด้วยความสุขเหมือนในอดีต ถึงเวลาแล้วที่ต้อง ไล่บักวือกลับดาวอังคาร.