“ลุงตู่” กินข้าวเที่ยงกับสื่อทำเนียบฯ จูงมือ “อนุทิน-จุรินทร์” ร้องเพลงโชว์หวานย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลแน่นปึ้ก ลั่นแพไม่แตกไม่ล่มตราบใดที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ เตือนอย่าก่อหวอดเหมือนในอดีตอีก ภท.อ้าแขนรับ "ศรีนวล" โผล่ประชุมสภาย้ายนั่งฝั่ง ภท.แล้ว "จารึก-ฐนภัทร" เลื้อยไปอยู่ ชทพ. "กวินนาถ" สังกัดพปชร. ขณะที่ ส.ส.ภาคเหนือ อนค.อัด "ศรีนวล" กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ท้าลาออกลงเลือกตั้งใหม่ "เสรีพิศุทธ์" เสียดายฝ่ายค้านผลัก 4 ส.ส.ไปอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ่งแพ้ใหญ่

    ที่โถงกลางตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.30 น. วันที่ 18 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ ใน “กิจกรรมพบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล” เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2563
    โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างรับประทานอาหารว่า ยืนยันเศรษฐกิจของประเทศยังคงดีอยู่ การทำงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเราคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เคยคิดถึงอย่างอื่น อย่ามองว่าที่เรามีมาตรการในด้านภาษีนั้นเป็นเพราะรัฐบาลตูดขาด แต่รัฐบาลไม่ได้ตูดขาดอย่างที่คิด การทำงานต่างๆ ในด้านเศรษฐกิจทุกอย่างมีขั้นมีตอน ต้องขอบคุณท่านรองสมคิดและรัฐมนตรีทุกคนที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ทุกอย่างเราต้องคำนึงถึงเหตุและผล
    "ยังยืนยันถึงความเหนียวแน่นในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีคนชอบไปพูด ส่วนคนที่พูดก็เป็นบรรดานักการเมืองด้วยกันเองที่ชอบไปพูด ไม่ใช่สื่อ ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร สื่อก็เห็นกันอยู่ แต่การเมืองก็เป็นแบบนี้ ซึ่งเราเองก็ปรับเปลี่ยนไปได้มากพอสมควร และเราไม่ได้ปล่อยปละละเลย ในพรรคร่วมรัฐบาลมีอะไรก็พูดจากันตลอด ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า วิตกหรือไม่ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 4 คน นายกฯ ตอบว่า จะวิตกเรื่องอะไร ตนก็เตรียมการในการชี้แจง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ เพราะบริสุทธิ์ใจทุกอย่างในการทำงาน แต่วันนี้อยากเห็นการเมืองที่เป็นการเมืองสร้างสรรค์ ถ้าวันนี้พวกเราไม่ร่วมมือกันปฏิรูป แล้วใครจะมาปฏิรูป ทุกคนต้องช่วยกัน
     เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี 4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ถูกขับออกจากพรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เขาไม่ได้เป็นงูเห่า เพียงแต่เขาถูกให้ออกจากพรรค วันนี้ไม่มีคำว่างูเห่า การเมืองก็เป็นแบบนี้ 
    จากนั้นนายกฯ กล่าวอวยพรปีใหม่สื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลก็มากันหลากหลาย เป็นรัฐบาลแรกที่มีพรรคการเมืองร่วมถึง 18 พรรค ไม่เคยมีเท่านี้มาก่อน เวลาไปต่างประเทศเขาก็ถามตนว่ามีกี่พรรค ตนบอกไปว่า 18 พรรค เขาบอกว่าตนไม่ยุ่งตายเลยหรือ ตนก็บอกไปว่าไม่เป็นไร เราคนไทยด้วยกันคุยกันรู้เรื่อง ทำงานได้ เพราะเรามีจุดประสงค์ความมุ่งหมายอันเดียวกัน คือทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของเราเป็นหลัก เราทุกคนต่างทราบดีว่าปัญหาของเราอยู่ที่ไหนบ้าง 
      นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากให้สื่อนำเสนอข่าวในแนวทางที่ก้าวไปข้างหน้า ถ้านำเสนอแต่ในเชิงลบทั้งหมดปัญหาจะเกิดขึ้น แล้วก็จะก่อหวอดไปเรื่อยๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีตที่ผ่านมา มันถึงทำให้ตนต้องมาอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่มีตรงนั้นมันก็ไม่มีตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็อย่าทำกันอีกก็แล้วกัน อะไรก็ตามที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายก็เบาๆ สักนิดหนึ่ง เพราะวันนี้เราอยู่ในขั้นที่เรียกว่าเรากำลังเตรียมการเรื่องเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งหลายสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก
รัฐบาลไม่มีล่มไม่แพแตก
      "อยากจะยืนยันว่าผมไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยฝีมือของพวกเรา ฝีมือของรองนายกฯ ที่มาจากหลายพรรคการเมืองต้องทำให้ได้ เรื่องเศรษฐกิจสำคัญที่สุด สิ่งที่จะเกื้อหนุนคือความมั่นคง ความมีเสถียรภาพทางการเมือง เพราะฉะนั้นเรื่องที่ใครพูดกันไปกันมาแล้วจะมาตีกันอยู่อย่างนี้ ผมว่ามันไม่เกิดประโยชน์ อย่ามองว่าแพจะแตกแพจะล่มหรือเปล่า ไม่มีล่มหรอก ถ้าผมยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีล่ม จะต้องยืนอยู่ให้ได้ นั่นคือ ครม. ของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ ครม.ของพรรคใดพรรคหนึ่ง พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง" นายกฯ กล่าว
    จากนั้นนายกฯ ได้ร้องเพลง “ศรัทธา” ของศิลปิน “หิน-เหล็ก-ไฟ” ตามด้วยเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ของศิลปิน ธีร์ ไชยเดช โดยนายกฯ ได้เรียกนายอนุทินและนายจุรินทร์มาร่วมร้องเพลงด้วย ก่อนที่นายอนุทินและนายจุรินทร์จะร้องเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ของศิลปิน จรัล มโนเพ็ชร โดยนายอนุทินกล่าวว่า “ผมสองคนขอมอบเพลงนี้ให้นายกฯ” ทำให้นายกฯ หัวเราะก่อนกล่าวว่า “หวานซะไม่มี” จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมร้องพร้อมโอบหลังนายอนุทินและนายจุรินทร์ ทั้งนี้ เมื่อถึงท่อนที่ว่า “เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน” นายจุรินทร์และนายอนุทินได้ชี้ไปที่นายกฯ ซึ่งนายกฯ ยิ้มเขินเล็กน้อย
    ต่อมานายกฯ ยังได้ร่วมร้องเพลง “จับมือกันไว้” ของศิลปิน เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ โดยในท่อนที่ร้องว่า “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เหมือนมันไม่มีวันพรากไป” นายกฯ พร้อมด้วยนายจุรินทร์และนายอนุทินได้หันมาจับมือกัน โดยภายหลังจบเพลงนายกฯ กล่าวว่า “ไม่ใช่แค่เราที่จับมือ อยู่ที่พวกเราทุกคนด้วยต้องร่วมมือไปด้วยกัน เป้าหมายถึงจะสำเร็จ”
    จากนั้นทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องเพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ของศิลปินหญิงลี ศรีจุมพล พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีออกมาร่วมร้องเพลงดังกล่าวด้วย ในช่วงท้ายก่อนนายกฯ เดินทางกลับขึ้นไปปฏิบัติภารกิจ ได้จับมือนายอนุทินและนายจุรินทร์ยกชูขึ้นเพื่อโชว์ความเหนียวแน่น
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ 4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกขับออกจากพรรค จะมีการทาบทามเข้ามาสังกัดพรรค พปชร.หรือไม่ ว่าตนไม่ทราบ ต้องไปถามทั้ง 4 ส.ส.เอง พรรค พปชร.ไม่จีบ จะไปจีบเขาเพื่ออะไร
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีข้อสังเกตว่าเมื่อ 4 ส.ส.อนค.ถูกขับออกจากพรรค และไปอยู่พรรคการเมืองอื่น จะมีการคิดคำนวณคะแนนใหม่หรือไม่อย่างไร ว่าเรื่องนี้หลายคนออกมาพูดให้ความเห็นแล้ว ทั้งนายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ส่วนความเห็นจะใช่หรือไม่นั้น สุดท้ายก็ไปอยู่ที่ กกต.พิจารณา และหากใครไม่เห็นด้วยก็ไปต่อที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่เอะอะก็ไปที่ศาล เพราะตามขั้นตอนกำหนดไว้คือให้ กกต.พิจารณาแล้วไปที่ศาล
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึง 4 ส.ส.อนค. ที่เพิ่งถูกลงมติขับพ้นจากพรรคบางคนจะมาร่วมงานกับพรรค ภท.ว่า เห็นมีหลายพรรคอ้าแขนต้อนรับอยู่ คิดว่าคงมาไม่ถึงพรรคภูมิใจไทย แต่ทั้งนี้ ภท.มี ส.ส.51 เสียง ที่มีความเป็นปึกแผ่น สามารถทำงานสนับสนุนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้ เท่านี้ก็พอใจแล้ว ส่วนในอนาคตเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพรรคเท่านั้น ยังไม่มีการติดต่อหารือกับ 4 ท่าน 
ภท.อ้าแขนรับ"ศรีนวล"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น นายอนุทินกล่าวว่า ยังเป็นความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาดังที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งคนให้ข่าวล้วนเป็นคนนอกทั้งสิ้น เพราะในที่ประชุมทุกคนก็ช่วยกันทำงานขยันขันแข็งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนตัวมีความสุขกับการทำงาน เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่มีอะไรจะเรียกร้องมากไปกว่านี้ ที่มีการวิเคราะห์กันไปว่ารัฐบาลทำงานแบบต่างคนต่างทำ ขาดการบูรณาการ ขอบอกว่าไม่จริงเลย เพราะการตั้ง พล.อ.ประยุทธ์มานั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นี่คือการบูรณาการการทำงานของแต่ละพรรค เราเป็นรัฐบาลผสม จำเป็นต้องมีบุคคลที่ได้รับฉันทามติในการพูดคุยกับทุกฝ่าย ประสานการทำงานเข้าด้วยกัน รัฐบาลชุดนี้ไม่มีบู๊แหลกแน่นอน เพราะนายกฯ พร้อมห้ามทัพเสมอ
    "เสถียรภาพของรัฐบาลขึ้นอยู่กับผลงาน ถ้าทำงานดี ไม่มีเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน ต่อให้จะมีมวลชนมาชุมนุม ก็เชื่อว่าเป็นการชุมนุมบนเงื่อนไขที่ยังไม่สุกงอม แต่ถ้ามีข่าวโกง แล้วประชาชนมาชุมนุม เชื่อว่ายิ่งชุมนุมยิ่งมีแต่คนส่งเสริม เชื่อว่าถ้ารัฐบาลโกง เสียงในสภามากขนาดไหน ก็ช่วยไม่ได้" นายอนุทินกล่าว 
    นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และนายทะเบียนพรรคการเมือง แถลงว่า น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าสนใจที่จะมาอยู่กับ ภท. โดยเมื่อคืนวันที่ 17 ธ.ค. น.ส.ศรีนวลได้เข้าพบนายอนุทิน และได้แสดงความจำนงที่จะมาร่วมงานกับ ภท. ซึ่งนายอนุทินแจ้งต่อ น.ส.ศรีนวลว่าขณะนี้ ภท.ยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนการพ้นจากการเป็น ส.ส.สังกัดเดิมของ น.ส.ศรีนวลก่อน แต่ยืนยันว่า ภท.เห็น น.ส.ศรีนวลเป็นเพื่อนของเราในสภา เมื่อถูกขับออกจากพรรคก็เหมือนกับท่านหนีร้อนมาพึ่งเย็น  ภท.มีน้ำใจ และพร้อมที่จะเป็นเพื่อนกับ น.ส.ศรีนวล เมื่อมีความชัดเจนทางข้อกฎหมาย และ น.ส.ศรีนวลมาสมัคร ภท. พรรคก็จะประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของการที่พรรคจะเอาโควตารัฐมนตรีเพิ่ม พรรคเราไม่ได้สนใจเรื่องนี้ 
    ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า 4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ยังคงสมาชิกภาพอยู่ และสามารถเข้าร่วมประชุมสภาวันที่ 18 ธ.ค.ได้ แม้ อนค.จะขับออกจากพรรคแล้ว และอยู่ในสถานะไร้สังกัดพรรค 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาเริ่มในเวลา 13.00 น. ซึ่งน.ส.ศรีนวลได้เดินทางมาถึงรัฐสภาตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมีแกนนำพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย , นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้อนรับก่อนพาขึ้นไปรับประทานอาหารที่ห้องรับรองของพรรคภูมิใจไทย 
    สำหรับ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา และนายจารึก ศรีอ่อน สอง อดีต ส.ส.อนค.ที่ตอนนี้เป็น ส.ส.ไร้สังกัด มีกระแสข่าวระบุว่าทั้ง 2 คนเตรียมร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ด้าน น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ มีแนวโน้มสูงว่าจะไปร่วมงานภูมิใจไทย ขณะที่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี อยู่ระหว่างการถูกทาบทามโดยผู้มีอำนาจใน จ.ชลบุรี และมีโอกาสที่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาซึ่งมีวาระสำคัญในการพิจารณาและลงมติในญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย น.ส.ศรีนวลเข้าร่วมประชุมตามปกติ แต่ได้มีการย้ายที่นั่งจากที่นั่งฝั่งพรรคอนาคตใหม่มานั่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยแทน ในส่วนของนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ยังไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม 
ขยี้"ศรีนวล"ขี้รดหลังคา
    ขณะเดียวกัน ส.ส.ภาคเหนือพรรคอนาคตใหม่ ตอบโต้ น.ส.ศรีนวล บุญลือ กรณีอ้างได้คะแนนอันดับ 1 ของประเทศจากผลงานส่วนตัว โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์  รองโฆษกพรรคกล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจ และอยากเตือนสติของ น.ส.ศรีนวล ก่อนเลือกตั้ง เพราะหากสิ่งที่พูดเป็นจริง ทำไมไม่ชนะในครั้งแรก การที่ได้คะแนนสูงสุดของประเทศคือการชนะเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ 2 เพราะทุกสรรพกำลังของพรรคได้ถูกส่งไปช่วยเหลือ แต่ น.ส.ศรีนวลกลับมองไม่เห็น และให้ข่าวสาดเสียเทเสียกับพรรค ทำตัวเหมือนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา จึงอยากให้นึกวันก่อนที่เข้ามาในพรรคอนาคตใหม่ และสิ่งที่ทำลงไปเหมาะสมหรือไม่ เพราะมติพรรคอนาคตใหม่ออกมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง กลับพูดมีพรรคในใจ ซึ่งเชื่อว่าพรรคในใจไม่ได้เกิดหลังมีมติขับออกแน่นอน เหมือนวางแผนล่วงหน้า จึงตั้งคำถามว่าการเข้ามาเพื่อต้องการช่วยชาวบ้านจริงหรือมีเจตนาอื่น 
    น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภูมิภาค ภาคเหนือ กล่าวว่า ในฐานะเคยร่วมทำงานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ขอแย้งว่าการที่คุณศรีนวลได้เป็น ส.ส. ที่มีส่วนสำคัญเพราะสรรพกำลังต่างๆ ไม่ว่าแกนนำพรรค ผู้บริหารพรรค เพื่อน ส.ส.ของพรรค เพื่อนสมาชิกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ได้ให้ทั้งกำลังใจและเลือกตั้งมาจนได้ 7 หมื่นคะแนน อยากฝากว่าตอนนี้ประชาชนที่ไม่พอใจฝากมาถึง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เยาวลักษณ์ได้กล่าวเป็นภาษาคำเมืองว่า รู้สึกผิดหวังในตัว น.ส.ศรีนวล และประชาชนที่เชียงใหม่ก็ไม่พอใจ ทั้งนี้ หาก น.ส.ศรีนวลมั่นใจว่าคะแนนที่ได้มาจากคะแนนส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค อยากให้กลับไปฟังเสียงในพื้นที่ ด้วยการลองไปเดินตลาดที่ไหนสักแห่ง ถ้าหากไม่มีเสียงโห่จะยอมกราบขอโทษ แต่ถ้าสิ่งที่พูดเป็นจริง ให้พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจาก ส.ส.แล้วเลือกตั้งใหม่เพื่อพิสูจน์กัน 
    พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบวินัยและจริยธรรมของพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงมติพรรคที่ตัดสินใจขับ 4 ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามอุดมการณ์พรรค ว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงกดดันของสมาชิก ส.ส. และคณะทำงานประสานงานจังหวัดของพรรคทั่วประเทศ ที่แสดงความไม่พอใจ ส.ส.กลุ่มนั้น ซึ่งมติที่ออกมาก็มาจากการประชุมกก.บห.และ ส.ส.ทั้งหมด เราไม่ได้เรียกทั้งหมดมาชี้แจงเพิ่ม เพราะก่อนหน้านี้ที่โหวตสวนในครั้งแรกเราเรียกมาชี้แจงเหตุผลแล้ว ซึ่งตอนนั้นเราทำการภาคทัณฑ์ไว้ ส่วนเหตุผลที่ขับพ้นพรรคไม่ใช่เพราะการโหวตสวนในสภา แต่เป็นเพราะการออกมาแสดงความคิดเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในเชิงโจมตี ส.ส.คนอื่น 
    "เช่นการออกมาให้เหตุผลของ น.ส.ศรีนวลในการโหวตเห็นด้วยกับ พ.ร.ก.โอนย้ายกำลังพลฯ ว่าเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อพูดแบบนี้ก็หมายความว่าส.ส.ในพรรคคนอื่นเป็นคนที่ไม่จงรักภักดีหรือ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น และตัวอย่างล่าสุดคือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี แสดงความเห็นไม่เห็นด้วยที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคออกมาเคลื่อนไหวชวนประชาชนร่วมแฟลชม็อบ คิดว่าการให้ความเห็นติชมกับสวน เป็นคนละแบบ ฟังดูก็รู้ว่านี่คือความตั้งใจ ทั้งนี้ ส.ส.เหล่านี้ยังทำการเองแบบเก่า ที่ออกไปวิ่งหางบประมาณมาเดิน เพื่อทำโครงการต่างๆ ในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งเขาเป็นคนพูดเอง และยอมรับว่าทำจริงๆ"
มั่นใจไม่มีใครกล้าแหกคอกอีก
    เมื่อถามว่า จะมีการคำนวณคะแนนบัญชีรายชื่อใหม่หรือไม่ พล.ท.พงศกรกล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอความชัดเจนจาก กกต. และต้องรอการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลออกมาต้อนรับ ส.ส.กลุ่มนี้เข้าพรรคโดยไม่กังวลว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคตัวเองจะหลุดไปนั้น ก็อยากบอกว่ายินดีให้ไปเลย ทั้งนี้ จากที่ประชุมกันเราไม่ยืนยันว่าจะไม่มี ส.ส.ที่มีพฤติกรรมโหวตสวนอีก แต่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วว่าหากทำแบบนี้แล้วจะต้องพบกับอะไรบ้าง เอาความจริงมาบอกดีกว่า ใครจะเป็นงูเห่านั้นจะต้องคิดหนัก
     น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ กก.บห.อนาคตใหม่ แถลงข่าวเรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรค อนค.ในคดีที่นายธนาธร ให้พรรคกู้เงินจำนวน 191 ล้านบาท เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบ ยังไม่มีข้อเท็จจริงในคำวินิจฉัยหรือรายงานการสืบสวนสอบสวนว่าการสืบสวนสอบสวนของ กกต.ได้ทำตามขั้นตอน มีการแจ้งข้อกล่าวหาและให้สิทธิในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแก่พรรคการเมือง จึงอาจส่งผลให้คำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลให้ กกต.สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเรียกร้องให้ กกต.สรุปข้อเท็จจริงในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว และขอคัดสำเนาการสืบสวนสอบสวน รวมถึงความเห็นในชั้นกรรมการสืบสวนในส่วนความเห็นของเลขาธิการ กกต. และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยภายใน 7 วัน
     พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรค อนค.มีมติขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรคว่า เคยเสนอว่าให้ใจเย็นๆ ถ้าผลัก ส.ส.ออกไปเขาก็จะไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาล จากเสียงปริ่มน้ำก็จะไม่ปริ่มน้ำ ฝ่ายค้านเสียเต็มๆ ถ้าขับออกไป 5-6 คนฝ่ายค้านก็แพ้ ซึ่งเราต้องพยายามชั่งใจ มองภาพรวมว่าควรจะทำอย่างไร แต่ในส่วนของ อนค. ตนได้คุยกับส.ส.บางคนว่าให้เอาเขาไว้ก่อน มีสิ่งใดจำเป็นต้องใช้ก็ใช้ ถ้าผลักไปอย่างนี้เขาก็ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เราก็ยิ่งแพ้ใหญ่ ดังนั้นขอให้มองภาพรวมยุทธศาสตร์บ้าง 
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า น่าจะมี ซึ่งจะต้องมีการสอบถามกันอีกครั้ง ส่วนจะยื่นเพิ่มหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้น เพราะเรามีข้อมูล และอยู่ที่ว่าแต่ละพรรคจะมีข้อมูลหรือไม่ และภายในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน ทั้งนี้ ตนก็จะมีการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผย เอาไว้ใกล้ๆ ก่อน
    นายวิษณุ เครืองาม กล่าวถึงกรณีมีชื่อถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยว่า ทราบคร่าวๆ ว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร แต่ไม่ทราบในรายละเอียด เขาคงค่อยๆ เปิดเผยออกมา ซึ่งต้องเตรียมการชี้แจง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมการอะไร แต่ละคนก็ต้องเตรียมเรื่องของตัวเอง ถ้าเป็นไปตามที่เขาเปิดเผยออกมา ไม่ได้หนักใจอะไร แต่ต้องเตรียมชี้แจงให้ดี เขาถามมาเราก็ตอบไป เท่านั้นเอง 
    เมื่อถามว่า การถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็น่าจะใช่ แล้วที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้คาดการณ์อะไรทั้งนั้น ก็เฉยๆ อยู่ตรงนี้มันธรรมดา อยู่กลางฝนมันก็เปียก อยู่กลางแดดมันก็ร้อน ฤดูหนาวมาก็เป็นหวัดบ้าง บางคนภูมิต้านทานดีอาจไม่เป็นหวัด
    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "แล้วเราเห็นอย่างไรล่ะ" ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมอะไร         
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า เราต้องกังวลว่าจะอธิบายไม่ได้มากกว่า กระทรวงในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีพรรค ภท. มั่นใจว่าทำงานเต็มที่ ถ้าต้องช่วยชี้แจงให้เพื่อนสมาชิกในญัตติสำคัญทุกคนต้องตอบได้.