ระอุ เข้มข้น ตามคาดกับช่วงนับถอยหลังโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ โดยเป็นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เพื่อมาแทน นวัธ  เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย

          โดยช่วงสามวันสุดท้าย นับจากวันพฤหัสบดีที่ 19 ธ.ค. ก่อนถึงวันรู้ผลใครแพ้ชนะ ระหว่างฝ่ายรัฐบาล พลังประชารัฐ ที่ส่งสมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส.ขอนแก่น นักการเมืองรุ่นใหญ่ ลงสู้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย แกนนำฝ่ายค้าน ที่ส่งธนิก มาสีพิทักษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตแกนนำเสื้อแดงขอนแก่น พบว่าช่วงโค้งสุดท้าย พลังประชารัฐและเพื่อไทยต่างสู้กันเต็มเหนี่ยว บนเดิมพันศักดิ์ศรี พรรครัฐบาลและพรรคแกนนำฝ่ายค้าน โดยแกนนำทั้งสองพรรคต่างคาดหวังกับผลการเลือกตั้งไว้สูงยิ่ง  มีเท่าไหร่ใส่กันเต็มพิกัด จึงทำให้การเลือกตั้งรอบนี้สนุกเข้มข้น คาดเดาผลได้ยากยิ่ง

          ฟากเพื่อไทยที่แม้จะมีสถานะเป็นแชมป์เก่า แต่การต่อสู้กับพรรคแกนนำรัฐบาลก็เหนื่อยไม่ใช่น้อย  เพราะต้องทำทุกอย่างเพื่อยึดกุมสภาพพื้นที่ ไม่ให้พลังประชารัฐขยายฐานเสียงในภาคอีสานได้ เพราะหากพลังประชารัฐชนะเพื่อไทยได้ แน่นอนว่าต้องถูกนำผลเลือกตั้งไปเคลม ว่ากระแสนิยมรัฐบาลประยุทธ์และพลังประชารัฐในภาคอีสานอย่างจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร กำลังดีวันดีคืนจนสามารถเจาะได้อีกหนึ่งเก้าอี้ การป้องกันพื้นที่ครั้งนี้จึงต้องทุ่มเต็มสรรพกำลัง

หนึ่งในประเด็นที่เพื่อไทยหยิบยกมาต่อสู้ในศึกเลือกตั้งรอบนี้ก็คือ การพยายามชี้เป้าว่าพลังประชารัฐ ในฐานะพรรครัฐบาลที่กุมอำนาจรัฐ พยายามใช้วิธีการที่ไม่ชอบเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งให้ได้

เห็นได้จากการแถลงข่าวอย่างดุดันของแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ  รัฐสภา ของสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน อันเป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่าโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันออกเสียง ศึกนี้การแข่งขันในพื้นที่ร้อนระอุ และไม่แน่ว่าแม้ผลเลือกตั้งจะจบในวันอาทิตย์นี้ แต่ผลต่อเนื่องอาจตามมาอีกหลายระลอกหากเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง คงไม่ยอมง่ายๆ

ดูได้จากท่าทีของแกนนำเพื่อไทยอย่าง สุทิน ที่ออกตัวว่าพบพฤติการณ์ที่ผิดปกติในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม เช่นมีการจ่ายเงินแล้วอย่างน้อยสองรอบ และกำลังจะมีการยิงกระสุนดินดำรอบใหญ่ช่วงโค้งสุดท้าย หรือมีการเก็บบัตรประชาชนในพื้นที่เลือกตั้ง โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะเลือก "ธนิก"  จากเพื่อไทย โดยมีข้าราชการฝ่ายปกครองในพื้นที่ร่วมประสานกับผู้นำในพื้นที่ หรือการอ้างว่าพบบัญชีผี คือมีชื่อคนที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง

"มีการใช้ข้าราชการทั้งบังคับและต่อรองตำแหน่งให้ว่า ถ้าบรรลุผล เป็นไปตามเป้าจะได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น ดีขึ้น มีการจ่ายเงินแบบไม่อาย เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและความมั่นคงได้สนธิกำลังกัน" สุทินระบุไว้ตอนหนึ่ง

ขณะที่ก็พบว่าฝ่ายพลังประชารัฐ ในการขยับแต่ละครั้งของแกนนำพรรคโดยเฉพาะระดับรัฐมนตรี ที่จะลงไปช่วยหาเสียงได้เฉพาะวันหยุดราชการ ไม่เหมือนกับเพื่อไทย ที่แกนนำพรรคลงไปตรึงพื้นที่แทบทุกวัน แต่การไปแต่ละรอบของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ ฝ่ายเพื่อไทยต่างจับตามองตลอดแทบทุกฝีก้าวโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งคนที่เพื่อไทยโฟกัสมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่แม้เป็นแกนนำพรรคภาคเหนือ แต่กลับลงมาเป็นกำลังหลักในการหาเสียงภาคอีสาน เพื่อคอยแบ็กอัพให้ เอกราช ช่างเหลา เพื่อนสนิท-ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และ ผอ.เลือกตั้งขอนแก่นของพลังประชารัฐ ซึ่งการลงมาช่วยหาเสียงของธรรมนัสน่าจะทำให้แกนนำเพื่อไทยหลายคนหนักใจไม่ใช่น้อย จนต้องรีบออกมาตีกัน เรียกร้องให้ กกต.จับตามองสถานการณ์การเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด

พบว่าแกนนำพลังประชารัฐก็มั่นใจไม่น้อยกับผลการเลือกตั้งที่จะออกมา เพราะประเมินว่าการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม สมศักดิ์ที่แม้จะแพ้การเลือกตั้งให้แก่นวัธ แต่ก็แพ้แบบมีลุ้นคือ นวัธได้ 29,710  คะแนน ส่วนสมศักดิ์ได้ 26,553 ห่างกันเพียงสามพันคะแนนเท่านั้น ผนวกกับรอบที่แล้วมีบัตรเสียจำนวนมาก อีกทั้งเชื่อว่าโดยหลักแล้วประชาชนจะเลือก ส.ส.ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน เพราะจะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ทำได้อย่างรวดเร็วกว่า จึงทำให้พลังประชารัฐเชื่อว่าวันอาทิตย์นี้มีเฮ  พลังประชารัฐและรัฐบาลจะได้เสียง ส.ส.เพิ่มขึ้น จน ธรรมนัส ประกาศกลางที่ประชุม ส.ส.พลังประชารัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคจะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะแน่นอน

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นวันอาทิตย์นี้ ที่คาดว่าจะรู้ผลได้ในช่วงหัวค่ำคืนวันเดียวกัน ไม่ว่าฝ่ายไหนแพ้หรือชนะ ดูแล้วมีผลทางการเมืองตามมาไม่ใช่น้อย

แน่นอนว่าหากเพื่อไทยแพ้ คงไม่พ้นถูกมองว่ามนต์ขลัง-กระแสของ ทักษิณ-เพื่อไทย ในอีสาน เริ่มมีปัญหา ขนาดขอนแก่นยังถูกเจาะ หลังเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อไทยไม่สามารถชนะยกจังหวัด ต้องเสียสองที่นั่งให้ ฐิตินันท์ แสงนาค จากอนาคตใหม่ ในเขต 1 ที่เอาชนะ จักริน พัฒน์ดำรงจิตร จากเพื่อไทย และเขต 2 ที่ วัฒนา ช่างเหลา ลูกชาย เอกราช ช่างเหลา ที่เอาชนะ นางอรอนงค์ สาระผล จากเพื่อไทยได้

หากเลือกตั้งซ่อมรอบนี้เพื่อไทยตกเป็นฝ่ายปราชัย ภายใต้การหาเสียงของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ดุดัน ด้วยการขอให้คนขอนแก่นกาเลือกเพื่อไทย เพื่อแสดงออกว่าต้องการไล่ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ นั่นย่อมหมายถึงถูกคนขอนแก่นปฏิเสธ แล้วหันไปเลือกสมศักดิ์จากพลังประชารัฐ ถ้าออกมาแบบนี้รับรองฝ่ายรัฐบาลและแกนนำพรรคพลังประชารัฐได้ตีปีก เพราะสามารถนำมาเคลมทางการเมืองได้ว่า ประชาชนชื่นชอบผลงานรัฐบาล สนับสนุนพลังประชารัฐ และยังนิยมลุงตู่

ด้วยเหตุนี้ เลือกตั้งซ่อมขอนแก่นวันอาทิตย์นี้ ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะหรือแพ้ เราได้เห็นแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองตามมาแน่นอน.