สมคิด เดอะ ริปเปอร์ จนมุมแล้วด้วยฝีมือของนักศึกษาพลเมืองดี เห็นนั่งหลบมุมในรถไฟจากบุรีรัมย์มุ่งหน้าอยุธยา สวมหมวก คาดหน้ากากปิดบังใบหน้า แต่จำได้รอยบากที่คิ้ว โทร.แจ้งตำรวจพร้อมส่งรูปให้ดูจนถูกล็อกที่โคราช อ้างทะเลาะกับเหยื่อรายที่ 6 บันดาลโทสะบีบคอดับ ก่อนชิง จยย.หลบหนีไปมหาสารคาม ร้อยเอ็ด แล้วย้อนกลับมาบุรีรัมย์
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.42 น. วันที่ 18 ธันวาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลคล้ายนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องฆ่า 6 ศพ นั่งโดยสารอยู่บนรถไฟปะปนกับผู้โดยสารทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่องจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟสถานีปากช่องวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา โดยกระจายกำลังกันบุกขึ้นตรวจค้นขบวนรถไฟขณะเข้าจอดที่สถานีปากช่อง เป็นขบวนรถไฟที่ ข.234 สายกรุงเทพฯ-สุรินทร์ พบนายสมคิดนั่งอยู่ในตู้โดยสารรถไฟที่ 2 สภาพแต่งกายปิดบังอำพรางตัวมิดชิด สวมหมวกและหน้ากากอนามัย พร้อมใส่เสื้อคลุมปิดบังทั้งใบหน้าและลำตัว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมคิดได้ซื้อตั๋วโดยสารรถไฟและขึ้นขบวนรถไฟดังกล่าวมาจากต้นทาง จ.บุรีรัมย์ เวลา 06.00 น. มุ่งหน้าสู่ปลายทาง จ.พระนครศรีอยุธยา กำหนดถึงปลายทางเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน
หลังควบคุมตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่านางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี แม่บ้านโรงแรม ในบ้านเลขที่ 293 หมู่ 19 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ให้นายสมคิดได้รับทราบ โดยเหยื่อรายนี้เป็นรายที่ 6 ที่นายสมคิดก่อเหตุ จากนั้นได้นำนายสมคิดไปยัง กก.สส.ตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ข่าวแจ้งว่า การจับกุมนายสมคิด มาจากการที่ตำรวจเร่งแกะรอยจนพบเบาะแสว่า นายสมคิดพยายามหลบหนีโดยใช้รถไฟเป็นพาหนะ พบการซื้อตั๋วรถไฟขบวน 234 ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซึ่งมีปลายทางที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น จึงได้ประสาน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 และ พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.รฟ. ว่านายสมคิดหลบหนีอยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าว ประกอบกับมีพลเมืองดีชื่อ เรย์ ที่โดยสารรถไฟขบวนดังกล่าว แจ้งเบาะแสว่าพบบุคคลที่เชื่อว่าเป็นนายสมคิดอยู่ในขบวนรถไฟ ในสภาพสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า อำพรางตัว ท่าทีมีพิรุธ โดยมีคลิปวิดีโอที่พลเมืองดีรายนี้ถ่ายไว้เป็นเบาะแสสำคัญ
จากข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบต่อไป พบว่าขบวนรถไฟดังกล่าวเกิดความล่าช้า 32 นาที ช่วงบริเวณสถานีรถไฟซับม่วง-ปากช่อง และจะถึงที่สถานีรถไฟปากช่องเวลา 10.35 น. ตำรวจจึงบูรณาการกำลัง นำโดย พ.ต.อ.เชน ศรีกรุงไกร ผกก.5 บก.รฟ., พ.ต.ท.ศักดิ์สะท้าน เปรื่องชะนะ รอง ผกก.5 บก.รฟ., พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง สว.ส.รฟ.นครราชสีมา ตำรวจสืบสวนภาค 3 สืบสวนภาค 4 และตำรวจกองปราบปราม จู่โจมจับกุมนายสมคิดไว้ได้ โดยระหว่างจับกุม นายสมคิดมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ขัดขืน
สำหรับนายเรย์ นักศึกษาหนุ่มพลเมืองดี เปิดเผยว่า ได้ขึ้นรถไฟมากับแฟนสาวที่ช่วงสถานีโคกกรวด จ.นครราชสีมา และนั่งเบาะฝั่งตรงข้ามกับนายสมคิด ซึ่งแฟนสาวพบเห็นพิรุธว่าน่าจะใช่คนที่ทางการประกาศติดตามจับกุม โดยเห็นรอยบากที่คิ้ว จึงกระซิบให้ตนดู ตนจึงจ้องหน้า จากนั้นก็ลุกเดินแล้วย้อนกลับมาเพื่อดูชัดๆ ซึ่งนายสมคิดจับหมวกและดึงลงตลอดเวลา ขณะที่ตนแอบถ่ายรูปไว้ช่วงที่นายสมคิดนั่งกินข้าว กระทั่งแน่ใจว่าเป็นนายสมคิดจึงโทรศัพท์หาตำรวจและส่งรูปไปให้
"ได้สบตากันก็เหมือนในรูปเลย ตาโตๆ มองนิ่งๆ ไม่พูดจา ตอนที่ผมแจ้ง ไม่ได้กลัวเขาจะมาทำอะไรผม แต่สิ่งที่กลัวคือถ้าใช่สมคิดจริงๆ กลัวว่าเขาจะไปฆ่าคนอื่นได้อีก” นายเรย์กล่าว
ในการตรวจภาพกล้องวงจรปิดย้อนหลังที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ พบนายสมคิดเดินทางมาซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ช่วงเวลา 05.21 น. เป็นรถเร็ว ต้นทางสถานีสุรินทร์ ปลายทางกรุงเทพฯ แต่ได้ซื้อตั๋วลงที่สถานีรถไฟอยุธยา โดยขณะที่ซื้อตั๋ว นายสมคิดแต่งกายอำพรางตัวอย่างมิดชิด ทั้งสวมเสื้อคลุมแขนยาว ใส่หมวกแก๊ป และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ประกอบกับขบวนดังกล่าวเป็นขบวนรถไฟธรรมดา จึงไม่มีการขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้พนักงานที่ขายตั๋วไม่ทราบว่าเป็นนายสมคิด
ขณะที่ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำกำลังตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาว-แดง ของนางรัศมี ผู้ถูกนายสมคิดฆ่า โดยนายสมคิดได้ถอดป้ายทะเบียนแล้วขี่ไปจอดทิ้งไว้ภายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีรถไฟบุรีรัมย์อยู่ห่างจากปิยะแมนชั่น ที่นายสมคิดก่อเหตุฆ่านางสมปอง พิมพ์พรภิรมย์ อายุ 36 ปี เมื่อปี 2548 ไม่ถึง 500 เมตร
ในช่วงบ่าย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยชุดคอมมานโดขึ้นเฮลิคอปเตอร์จาก บช.ภ.4 ขอนแก่น ไปที่ บช.ภ.3 นครราชสีมา เพื่อรับตัวนายสมคิดไปดำเนินคดี พล.ต.ท.เจริญวิทย์กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวส่งศาลขอนแก่นเพื่อขออำนาจศาลฝากขัง
เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม, พล.ต.ต.สุจินต์ นิลพานิชย์ ผบก.ภ.นครราชสีมา และนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสมคิด ว่าหลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดี เจ้าหน้าที่ก็ติดตามจับกุมนายสมคิดไว้ได้ นำตัวไปสอบสวนนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจร่องรอยการต่อสู้ตามร่างกาย โดยมีแพทย์ทำการตรวจสภาพร่างกาย เนื่องจากนายสมคิดมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นกระเป๋าเป้คล้ายเป้ทหาร มีเพียงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เสื่อ ลอตเตอรี่ และเต็นท์
พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวว่า การจับกุมนายสมคิด ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะสุภาพสตรีคลายความกังวลไปในระดับหนึ่ง ว่าไม่ปล่อยให้บุคคลซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนอยู่ในพื้นที่สังคมเรา ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าทะเลาะกันก่อน
ส่วน พล.ต.ท.เจริญวิทย์กล่าวว่า หลังนายสมคิดก่อเหตุฆาตกรรมนางรัศมีโดยการบีบคอแล้วได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่หลบหนี โดยไปยัง จ.มหาสารคาม นอนค้าง 1 คืน ต่อไป จ.ร้อยเอ็ด และคืนที่ 2 นอนค้างที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อป้องกันถูกจับกุม โดยจอดจักรยานยนต์ทิ้งไว้แล้วขึ้นรถไฟหลบหนี หลังจากนี้จะได้นำตัวนายสมคิดไปสอบสวนดำเนินคดีที่ จ.ขอนแก่น ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.จิรภพกล่าวว่า ผู้ต้องหาออกจากเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2562 และใช้ชีวิตปรกติ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ได้จีบผู้หญิงรายแรกทางเฟซบุ๊ก เป็นแฟนกัน จากนั้นมีการทะเลาะเบาะแว้งจนเกิดความโมโหก็เลยฆ่าตาย ไม่ได้เตรียมการมาก่อน เป็นการบันดาลโทสะ และทั้งหมด 6 ครั้งที่ลงมือฆ่า มีวิธีฆ่า 3 วิธี คือการเอาหัวกดน้ำ, ใช้มือบีบคอ และผ้ารัดคอ นายสมคิดรู้จักกับผู้ตายประมาณ 1 เดือน สายชาร์จแบตที่รัดคอก็เป็นอุปกรณ์ที่หาในบ้าน และหลังจากฆ่าแล้วเอาศพไว้ใต้เตียงเป็นการอำพรางศพ ส่วนการเสพยาเบื้องต้นยังตรวจไม่พบ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนายสมคิดตั้งแต่เกิดเหตุได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าชุดจับกุมสามารถควบคุมตัวนายสมคิดได้แล้ว จะเห็นว่าแม้นายสมคิดจะเป็นคนฉลาด แต่ไม่เกินความสามารถของตำรวจ
สำหรับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ยังเป็นหนึ่งในชุดคลี่คลายคดีนายสมคิดเมื่อปี 2548 ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายที่ 5 ด้วย
ภายหลังเดินทางกลับจังหวัดขอนแก่น ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า ในส่วนของพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสจนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสมคิดได้ ขณะนี้ได้พบตัวแล้ว และนัดให้มาพบที่ บช.ภ.4 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้เรียบร้อย ซึ่งนอกจากจะมอบเงินรางวัลตามที่ได้ประกาศไปแล้ว 5 หมื่นบาท ก็จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับพลเมืองดีด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |