รัสเซียจัดการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผลการเลือกตั้งคงไม่มีพลิกโผ "วลาดิมีร์ ปูติน" จ่อครองเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 4 ท่ามกลางเสียงก่นประณามของฝ่ายค้านว่าเป็นเพียงเลือกตั้งตบตา

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกจากคูหาลงคะแนนที่กรุงมอสโก / AFP

มอสโก / เอเอฟพีรายงานว่า ด้วยความที่รัสเซียมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมเวลาที่ต่างกันถึง 11 ชั่วโมง การเลือกตั้งในฝั่งตะวันออกสุดของรัสเซียเปิดหีบก่อนในเวลา 03.00 น.วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 ตามเวลาไทย ส่วนฝั่งตะวันตกจะปิดหีบช้าสุดที่คาลินินกราดที่อยู่ติดพรมแดนสหภาพยุโรปเวลา 01.00 น.วันจันทร์ของไทย
    อเล็กเซย์ นาวัลนี แกนนำฝ่ายค้านที่น่าจะเป็นคู่ต่อกรของประธานาธิบดีปูตินได้ ถูกตัดสิทธิ์ห้ามลงสมัคร ผลการเลือกตั้งจึงไม่น่าจะสร้างความประหลาดใจ
    มีชาวรัสเซีย 107 ล้านคนที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้นำรัสเซียมานาน 18 ปี ทั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี ชาวรัสเซียคงเหนื่อยหน่ายต่อตัวปูติน และคาดว่าจำนวนมากจะไม่มาใช้สิทธิ
    ทำเนียบเครมลินต้องการให้มีคนใช้สิทธิให้มากเพื่อเพิ่มความชอบธรรมแก่ปูติน ซึ่งเป็นผู้นำรัสเซียที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดแล้วนับแต่โจเซฟ สตาลิน
    เอลลา ปามฟิโลวา ประธานคณะกรรมการกลางการเลือกตั้ง กล่าวว่า ถึงเวลา 14.00 น. มีคนใช้สิทธิแล้ว 16.55% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของครั้งที่แล้วในปี 2555 ที่มีคนใช้สิทธิแค่ 6.53%
    เอเอฟพีกล่าวว่า ผู้ใช้สิทธิจำนวนมากลงคะแนนให้ปูติน โดยสรรเสริญที่เขาดึงรัสเซียขึ้นจากหล่มในยุคหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายได้ โอลกา มัตยุนีนา ผู้ใช้สิทธิรายหนึ่งซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์เกษียณวัย 65 กล่าวว่า เขาเลือกปูติน หลังจากผนวกแคว้นไครเมีย ปูตินคือวีรบุรุษ แม้ครั้งที่แล้วเขาจะไม่ได้เลือก และจำไม่ได้ด้วยว่าเลือกใครไป
    ตัวปูตินไปหย่อนบัตรที่มอสโก โดยกล่าวว่าเขาจะพึงพอใจกับผลคะแนนไม่ว่าเท่าใดก็ตาม ที่ให้สิทธิเขาได้เป็นประธานาธิบดีต่อไป
    ด้านนาวัลนี วัย 41 ปี ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เป็นการหลอกลวง และเรียกร้องชาวรัสเซียคว่ำบาตร เขายังได้ส่งผู้สังเกตการณ์มากกว่า 30,000 คนเฝ้าตรวจการลงคะแนน และในวันจริง คณะทำงานของเขาก็ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกระบวนการจัดฉากเพื่อให้ปูตินได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 4 พร้อมกันสาธยายถึงการกระทำความผิดตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ
    ก่อนหน้าการเลือกตั้ง รัสเซียเผชิญวิกฤติครั้งใหม่กับโลกตะวันตก เมื่ออังกฤษกล่าวหาปูตินว่าอยู่เบื้องหลังการสั่งการวางยาพิษโนวีชอก ที่เป็นสารทำลายประสาทคิดค้นในยุคโซเวียต ทำร้ายเซอร์เกย์ สครีปัล อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย ที่อังกฤษเมื่อต้นเดือนนี้
    อังกฤษตอบโต้ที่รัสเซียไม่ยอมทำตามเส้นตายที่ต้องการให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการสารพิษโนวีชอกนี้ ด้วยการเนรเทศนักการทูตรัสเซีย 23 ค้น และในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ฐานพยายามแทรกแซงโน้มน้าวการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อปี 2559
    อดีตสายลับเคจีบีวัย 65 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2543 และได้ใช้อำนาจที่มีกดขี่ปราบปรามฝ่ายค้าน, ดึงสื่อโทรทัศน์อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และย้ำสถานะของรัสเซียในเวทีโลก ในการปราศรัยหาเสียงก่อนวันเลือกตั้ง ปูตินได้ตอกย้ำสถานะของมหาอำนาจชาติสำคัญของโลกด้วยการอวดโอ่ถึงอาวุธนิวเคลียร์ชนิดใหม่ที่ "ไร้เทียมทาน"
    ชัยชนะในการเลือกตั้งจะทำให้ปูตินได้ครองอำนาจต่อไปจนถึงปี 2567 นักจัดทำโพลของรัฐทำนายว่า ปูตินจะได้คะแนนสนับสนุนหย่อนจาก 70% นิดหน่อย.