18 ธ.ค. 62 - นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก "จาก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี" โดยมีเนื้อหาดังนี้ “ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ได้เห็นจดหมายเปิดผนึกของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เขียนถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บังคับบัญชาของนายสุภรณ์ อย่างไม่เหมาะสม นึกถึงสำนวน จะเตะหมา ให้ดูหน้าเจ้าของ ว่าเจ้าของหมารู้สึกอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ หากหมากัดกรงออกไประรานคนอื่นไปทั่วอย่างขาดสติ เจ้าของหมา จะให้เศษอาหารเป็นรางวัลเพิ่ม หรือจะลงโทษให้หลาบจำ
ผมไม่ได้กล่าวหาหรือเปรียบเทียบกับใคร พล.อ.ประยุทธ์ รู้สึกอย่างไร ที่บริวาร แสดงการเอาใจนายใหม่ โดยการเนรคุณทำร้ายนายเก่า ทำลายบรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ท่องมาตลอดว่า อยากให้คนไทยรักสามัคคีตลอดหลายปีที่ผ่านมา การเลี้ยงและเก็บคนที่มีชุดความคิดที่เป็นมลพิษทางการเมือง ไว้ใกล้ตัว ในช่วงที่คนไทยควรจะมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชและน่ารังเกียจ
ไม่มีใครสงสัยในตัวนายสุภรณ์ เพราะนายสุภรณ์ ยอมรับเองว่า เป็นคนเนรคุณจริง และเป็นเพียงพลทหาร ตัดหญ้า ถูบ้าน ล้างรถ เลี้ยงไก่ เอาใจนาย รับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ จริง ถึงขั้นลงทุนแต่งนิยายด้วยความเท็จ ไม่มีใครรับได้ พวกผมไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ นายสุภรณ์ ได้กลายเป็นโมฆะบุรุษไปแล้ว สิ่งที่นายสุภรณ์ พูดออกมาเป็นการสำรากทางการเมือง จนคนรู้สึกสมเพช ไม่น่าเชื่อว่า คนที่เคยประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองว่ามีจุดยืนประชาธิปไตย ต่อหน้าคนนับแสนหลายเวที ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะถุยน้ำลายขึ้นฟ้ารดหน้าตัวเอง อย่างหน้าไม่อาย นี่ไม่ใช่การเก็บอุดมการณ์ใส่ลิ้นชัก แต่เป็นการจุดไฟเผาอุดมการณ์ทิ้งทั้งหมด
นายสุภรณ์ อาจหลอกคนอื่น จนตัวเองเข้าใจไปเองด้วยว่า คนเสื้อแดงไม่มีแล้ว แท้จริงแล้วจิตวิญญาณของคนรักประชาธิปไตย ไม่ได้สูญหายไปไหน อย่างน้อยผลการเลือกตั้งที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านการสืบทอดอำนาจ มีคะแนนเสียงถึง 17 ล้านเสียง ในขณะที่พรรคสืบทอดอำนาจได้รับคะแนนเสียงเพียง 8 ล้านเสียง ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ ยืนยันชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางต่อต้านการสืบทอดอำนาจและปฏิเสธการเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์ ต้องถามนายสุภรณ์ว่า สามารถสบตา สู้หน้า คนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของนายสุภรณ์ ได้จริงหรือ ถนนทุกสายเดินได้หมดหรือไม่ ความเดือดร้อนของมวลชนและคนการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย อันเกิดจากการกระทำที่ใช้ไม่ได้ของนายสุภรณ์ มีมากมาย อย่างน้อยช่วงที่ถูกควบคุมตัวตอนรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 หลายคนถูกนำตัวไปกักขัง แล้วเรียกว่าปรับทัศนคติ ถูกสอบอย่างหนักว่ารู้จักนายสุภรณ์ หรือรู้เห็นกับการตั้งกองกำลังสู้กับทหารของนายสุภรณ์หรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีใครรู้หรือเห็นด้วย นายสุภรณ์ ไปทำโดยพลการด้วยความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถ้วนหน้า
ความเจ็บปวดของนางสาวยิ่งลักษณ์ จากการใช้ ม.44 เหนือคำพิพากษา ไม่รอคำสั่งศาลปกครองให้ถึงที่สุด รีบสั่งกรมบังคับคดีกวาดทรัพย์สินขายทอดตลาดชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบไม่ได้ หรือไม่อยากตอบ ก็เป็นสิทธิ์ เพราะแม้แต่นายวิษณุ เครืองาม บิดาแห่งข้อยกเว้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ไม่ควรปล่อยบริวาร ออกมาสำรากทางการเมือง ทำลายบรรยากาศอันดีของบ้านเมือง เพราะที่สุด จะตอกย้ำข้อกล่าวหาที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบิดาแห่งความย้อนแย้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประโยชน์หรือสบายใจจริงๆ หรือ ที่มีคนแบบนายสุภรณ์ เป็นบริวาร เพราะเมื่อคนประเภทนี้สามารถสร้างความอัปยศ หักหลังทรยศนายเก่าได้ นายใหม่จะไว้วางใจได้หรือ”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |