“ประยุทธ์” ย้ำทำอะไรต้องยึดกฎหมาย ไม่ใช่แค่รัฐธรรมนูญ “กำนัน” รับจับตาม็อบธนาธร ชี้หากปลุกชาวบ้านเพื่อคดียุบพรรคถือว่าไม่ยุติธรรม “ดร.เหลิม” โผล่ร่ายยาว ชี้สมพงษ์แต่งตั้งเป็นบอสใหญ่คุมอภิปราย จองกฐิน 4 รัฐมนตรี เน้นที่ “วิษณุ” พร้อมกำหนดการบ้าน 6 ข้อให้ลุงตู่ตอบ โวจบศึกรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ขณะที่ "ครม." ไฟเขียว "พีระพันธุ์" นั่งที่ปรึกษายกฯ พร้อมส่งร่วม กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ รธน. จับตาถึงขั้นนั่งประธาน
เมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลว่า ต้องไปดูว่ากฎหมายมันอยู่ตรงไหน เพราะถ้าไปมองในแง่ของรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวก็ชุมนุมได้ แต่การชุมนุมต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมายลูกหรือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุม และ พ.ร.บ.อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง พ.ร.บ.การจราจร ซึ่งก็มีกฎหมายอีกมากมาย
“ถ้ารัฐบาลทำงานโดยยึดหลักรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว มันก็ไม่รู้จะเอาหลักเกณฑ์อะไรมาทำ เพราะฉะนั้นขอให้สนใจกฎหมายลูกกันด้วย จะทำอะไรก็ตาม ถ้าไม่ขัดกับกฎหมายลูกก็ไม่มีใครขัดข้องอยู่แล้ว ดังนั้นขอให้ระมัดระวังกันหน่อย ไม่อยากให้มีการเผชิญหน้า เดี๋ยวถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาอีกแล้วจะไปโทษใคร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามถึงการจัดงานวิ่งไล่ลุง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เรื่องวิ่งไม่ตอบ ขี้เกียจตอบ ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า “เรื่องความขัดแย้งอื่นๆ ในเรื่องของการเมืองก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ก็เป็นแบบนี้ ซึ่งทำใจได้แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่จำเป็นก็อย่ามาถาม เพราะเหมือนกับตีปิงปองที่สู้กัน ก็เด้งไปเด้งมาทั้งสองฝ่าย ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผมทั้งสิ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผมลดแรงไปเยอะ”
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินพื้นที่ กทม. ว่าไม่มี ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะไปประกาศที่ไหน และไม่ได้เตรียมรับมือม็อบ ส่วนกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ซึ่งได้เชิญไปร่วมด้วยนั้น ถามว่าจะวิ่งไหวหรือไม่ ขนาดเดินยังไม่ไหวเลย จะให้ไปวิ่ง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า บ้านเมืองเรายังมีปัญหาอีกมาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาเกษตรกร สถานภาพการเมืองของไทยตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็น เรามีหนทางเดินไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปเดินบนถนนหรือก่อม็อบ เราลำบากยุ่งยากมาเยอะแล้ว และมีบทเรียนมากมาย ไม่ใช่ทางออกและยังส่งผลกระทบ
“ผมเห็นว่าควรไปใช้ช่องทางอื่นในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และไม่เห็นด้วยปลุกคนไปลงถนน”
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวถึงกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า เป็นสิทธิ์ในการคิดของแต่ละคน แต่คนที่จัดกิจกรรมควรใช้วิจารณญาณว่าอะไรที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ก็ต้องพิจารณาให้ดี ต้องดูว่าจะเกิดการบานปลายและควบคุมสถานการณ์ได้มากน้อยแค่ไหน อย่าทำเอามัน ใครอยากจะไปเดินหรือไปวิ่ง ขอให้คิดถึงข้อกฎหมายให้ดี และความสงบสุขของประเทศชาติ เพราะเวลานี้รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นัดลงถนน ว่าได้ติดตามการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดประสงค์อะไรแน่ ทำเพื่อหวังผลอะไร ซึ่งประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเคลื่อนไหว ถ้าการใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และไม่สร้างปัญหา ซึ่งสิ่งที่ติดตามอยู่ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าเป้าหมายที่อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
“ถ้าคุณธนาธรและชาว อนค.เกิดกลัวว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยแล้วเกิดผลเสียหายกับพรรค อนค.กับคุณธนาธร แล้วก็จะมาชวนประชาชนให้ลงถนนไปช่วย อย่างนี้ไม่ค่อยยุติธรรมกับประเทศ ไม่ยุติธรรมกับประชาชนเท่าไหร่" นายสุเทพกล่าว
เหลิมคุมกฐินไม่ไว้วางใจ
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค แถลงข่าวว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยจะทำงานที่พรรคมอบหมายเป็นเรื่องๆ ซึ่งครั้งนี้พรรคมอบหมายให้มาดูเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามฤกษ์ที่รัฐบาลหายนะ อยู่ระหว่างวันที่ 6-10 ม.ค. ซึ่งสาเหตุประกอบด้วย 1.เป็นรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด ช่วยเหลือบริษัทพ่อค้าต่างประเทศทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้านบาทในคดีฟิลลิป มอร์ริส 2.แก้ปัญหาเศรษฐกิจล้มเหลว ทำให้มีคนจนมากขึ้น 3.เป็นรัฐบาลที่คนเห็นต่างทางการเมืองถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า 4.การแก้ปัญหายาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ยาบ้าถูกลง ต่างจากสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 5.ปล่อยให้คนในรัฐบาลทำผิดกฎหมาย
“ขอฝากถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เอากฎหมายที่ไหนมาพูด นายวิษณุบิดเบือน และซื้อเวลาให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ รัฐบาลนี้ชั่วดีถี่ห่างทำเป็นมองไม่เห็น พล.อ.ประยุทธ์เอาสมองส่วนไหนมาคิด เอาคนมีคดีสมัย กปปส. มานั่งเป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ 2.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ 3.นายวิษณุ และ 4.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.กต. เรื่องฟิลลิป มอร์ริส โดยนายวิษณุจะเป็นเป้าสำคัญในการอภิปราย ซึ่งคนที่จะอภิปรายนั้นมีแล้ว เสียดายที่ไม่ได้พูดเอง ถ้าได้พูดรัฐบาลนี้เจ๊งแน่นอน
ร.ต.อ.เฉลิมยังตั้งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ 6 ข้อ คือ 1.ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนทำอสังหาฯ แล้วปรับภาษีสรรพสามิต ทำให้บุหรี่ไทยมีราคาแพงเท่าบุหรี่นอก 2.ให้กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เช่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยไม่เปิดประมูล 3.ให้ต่างชาติเช่าที่ดินรัฐ 99 ปี ประชาชนไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนให้เช่า 50 ปี แล้วต่อสัญญาได้อีก 49 ปี แบบนี้ก็เท่ากับเช่าได้ 99 ปีอยู่ดี 4.ดึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์-บางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ทำให้นายทุนได้รับประโยชน์ 5.ข้าวดีก็มาทำเป็นข้าวเสื่อม แล้วนำมาขายในราคาถูก และ 6.ที่ดินที่เกี่ยวพันกับบริษัท กฤษดามหานคร เส้นบางนา-ตราด หลายพันไร่ ก่อนหน้าประเมินราคาเอาไว้ตารางวาละ 12,000 บาท หลังการบังคับคดีมีคนไปซื้อ ประเมินราคาได้ตารางวาละ 4,000 บาทเท่านั้น
“ในการซื้อขายที่ดินย่านบางบอนของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่ามีการซื้อขายราคาแพงกว่าปกติ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการตั้งบริษัทที่จะมาซื้อเพียง 7 วัน จากนั้นก็มาซื้อที่ดินตกไร่ละกว่า 10 ล้าน รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่โทษ พล.อ.ประยุทธ์ บริษัทที่มาซื้อสืบไปสืบมาเป็นลูกน้องนายเจริญ แล้วอย่างนี้จะปล่อยไว้ได้อย่างไร ทำให้คนรวยอยู่กลุ่มเดียว เรื่องศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็ไปรื้อสัญญาใหม่ เราก็สงสัยจากเรื่องนี้จะมีอานิสงส์จากการซื้อที่ดินก่อนหน้าหรือไม่ ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตอบในสภา ซึ่งการอภิปรายทำให้รัฐบาลล้มยาก แต่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ และคิดว่าจะขยายผลไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับรัฐมนตรีบางคนได้ ส่วนที่ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร เพราะ ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบชี้มูลแล้วว่าไม่มีความผิด เล่นการเมืองต้องมีกติกา
ส่วน พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่ไม่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยังไม่ทราบ พร้อมปฏิเสธเรื่องดีลกับฝ่ายค้าน จะดีลกับใคร ดีลเรื่องอะไร เพราะไม่ได้คุมกระทรวงอะไร โดยทำงานด้านความมั่นคง ไม่ได้ทำอะไรผิด
ยัน พปชร.ไม่ปรับหัวหน้า
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังถามถึงกระแสข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค พปชร. ว่ายังไม่มี ยังไม่รู้เลย ส่วนกรณีหัวหน้าพรรคนั้นก็ไม่เปลี่ยนเช่นกัน ซึ่งการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อให้มันเข้มแข็งขึ้น ไม่มีอะไรหรอก และทำให้กลุ่มต่างๆ มีบทบาทมากขึ้น รวมกัน ทำงานด้วยกัน
ต่อมาได้มีการประชุมพรรค พปชร.ประจำสัปดาห์ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ได้แจ้งที่ประชุมถึงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดขอนแก่น ว่ามั่นใจว่าผู้สมัครของ พปชร.จะได้รับชัยชนะ เพราะครั้งที่ผ่านมาแพ้ไปเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 3,000 คะแนน
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้แจ้งในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมาทุกกระทรวงทำงานมาอย่างหนัก แต่เมื่อพูดแล้วประชาชนเข้าใจยาก ดังนั้นจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร
ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีมีชื่อไปเป็นกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่ ไม่ได้ต้องการอะไรแล้วในเรื่องของการเป็น กก.บห. เพราะเคยถูกยุบพรรคและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมาแล้ว ส่วนที่มีชื่อนั้นอาจเป็นข้อมูลที่พรรคกำลังคุยกันอยู่ ใครจะมาเป็นผู้บริหาร เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนตัวไปพูดแทนใครไม่ได้
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวเช่นกันว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของ กก.บห.พิจารณา และไม่ทราบว่ามีชื่อไปนั่งเป็น กก.บห.ชุดใหม่ด้วย เนื่องจากเพิ่งกลับจากปฏิบัติภารกิจที่ จ.ขอนแก่น ส่วนพร้อมจะรับตำแหน่งหรือไม่นั้น ขอดูอีกที โดยในวันที่ 21 ธ.ค.นี้จะมีการประชุม กก.บห. ซึ่งทิศทางขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะตัดสินใจอย่างไร และไม่ใช่การปรับโครงสร้างใหม่ เป็นเรื่องของการเสริมทัพเท่านั้น ไม่ใช่การปรับ
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า? หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ? พรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแล้ว นายพีระพันธุ์ยังได้รับเสนอเป็นกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัดส่วนของรัฐบาล และถูกจับตาว่าจะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานกรรมาธิการชุดดังกล่าวด้วย ?เพราะมีความเหมาะสม?ทั้งคุณสมบัติ? ประสบการณ์? และภาพลักษณ์? เป็นอดีตผู้พิพากษา? อดีต? รมว.ยุติธรรม? ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์? เวชชาชีวะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |