อือมม์ม์ม์...หายหน้าไปนาน จนอดเป็นห่วง เป็นใย สุขภาพขึ้นมามิได้ แต่วัน-สองวันนี้ ก็กลับมาแล้ว คุณน้า เหลิม ดาวเทียม เหลิม บางบอน เหลิม นินจา ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรที่มีผู้ให้ชื่อ ฉายา เอาไว้เยอะแยะมากมาย กลับมาในฐานะ ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ของแกนนำพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคเผาไทย โดยจะเริ่มต้นลงมือเผาอะไร หรือไม่? แบบไหน??? บรรดาแฟนานุแฟน คงหนีไม่พ้นต้องติดตามโดยพลัน...
-----------------------------------------------
คือโดยตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ของพรรคเผาไทยเขานั้น จะมีสถานะ หน้าที่ มีอำนาจ ขอบเขต ไปในลักษณะไหน คงต้องไปสืบหารายละเอียดกันเอาเอง แต่โดยลักษณะอาการ โดยอากัปกิริยา ไม่ว่าของตัวประธาน หรือของตัวคณะกรรมการ ค่อนข้างที่จะก่อให้เกิดความรู้สึกลึกๆ ขึ้นมามิได้ว่า อย่างน้อย...ก็น่าจะ ใหญ่ไม่น้อย หรือเผลอๆ อาจ ใหญ่กว่า สถานะ ตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ หรืออาจต้องนำเอารายละเอียดบทสนทนา ระหว่าง ส.ส.อีสานพรรคเผาไทย ที่บินไปพบ นายใหญ่ ที่ดูไบเมื่อเร็วๆ นี้ มาเป็นองค์ประกอบในการใคร่ครวญ พิจารณา ควบคู่ไปด้วย อย่างมิอาจปฏิเสธได้...
-----------------------------------------------
รวมทั้งอาจต้องเอา ปฏิกิริยา ของประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค อย่างคุณเจ๊ สุดาหน่อย โดยเฉพาะเรื่อง ร้องไห้-ไม่ร้องไห้ ระหว่างการตามไปแก้คดี แก้ข้อกล่าวหา ของบรรดา ส.ส.ถึงดูไบ มาแยกแยะรายละเอียดว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง กันให้ชัดๆ ถึงอาจพอสรุปได้ว่า...การกลับมาเที่ยวนี้ ของคุณน้า เหลิม ดาวเทียม จะมีเบื้องลึก เบื้องหลัง และเบื้องหน้า เป็นไปในลักษณะไหนอีกต่อไป แต่ถึงกระนั้น...โดยภารกิจเฉพาะหน้า ของประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษรายนี้ นั่นก็คือการตระเตรียมเนื้อหา รายละเอียด เป้าหมายในทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี ในการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ บรรดารัฐมนตรีในคณะรัฐบาลท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ก็ออกจะเป็นอะไรที่อาจส่งผลให้ต้องหันไปรื้อเสื้อหนาว เสื้อสเวตเตอร์ ออกมาสวมใส่ในช่วงหน้าหนาวเอาไว้มั่ง..
---------------------------------------------
เพราะโดยคุณสมบัติ โดยคุณลักษณะของเหล่า ของคุณน้า เหลิม ดาวเทียม นั้น...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่าสามารถสร้างความ หนาวว์ว์ว์ ให้กับใครต่อใครได้ไม่น้อย ไม่งั้น...คงไม่เกิดมอตโต สโลแกน ประเภทที่ว่า ไปทะเลต้องเจอฉลาม-มาสภาฯ ต้องเจอเฉลิม อะไรประมาณนั้น ยิ่งถ้าหากได้ไวน์แดง ไวน์ขาว ก่อนหน้าการอภิปรายซักขวด-สองขวด หรือตุ่ม-สองตุ่ม ก็แล้วแต่ ยิ่งเป็นอะไรที่สุดแสนจะ อันตราย เอามากๆ แต่โดยจังหวะนี้...คงพออาจผ่อนคลายลงไปได้เล็กๆ น้อยๆ เพราะคุณน้า เหลิม ท่านคงไม่ได้เป็นผู้ลุกขึ้นมาอภิปรายด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่ได้มีตำแหน่ง แห่งที่ ใดๆ ในสภาฯ โดยอาจหนักไปทางเป็นผู้เขียนบท เขียนสคริปต์ หรือเป็นผู้จัดหาข้อมูล รายละเอียด กำหนดกรอบ กำหนดสไตล์ ให้บรรดา ส.ส.แต่ละรายซะมากกว่า...
-----------------------------------------------
และโดยเป้าหมายคร่าวๆ ที่ท่านได้ดรออิง หรือได้ร่างโครงร่างเอาไว้ก่อนล่วงหน้า...ในฐานะเป้าหมายในการบดขยี้ การไล่งับ ไล่ฟัด ตามสไตล์ แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง เห็นว่า...เริ่มไล่เป็นลูกระนาดมาตั้งแต่ตัวนายกรัฐมนตรี บิ๊กตู่ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ อย่าง ป๋าดัน-สมคิด ไปจนถึงรองนายกฯ ฝ่ายเนติบริกร อย่างรอง วิษณุ เครือกล้วย หรือ วิษณุ ลิงคืนกล้วย ที่คงต้องตระเตรียมหาเสื้อหนาว ไม่ก็โอเวอร์โคต มาสวมใส่กันซะแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณน้า เหลิม ท่านคิดจะนำเอา หลักฐานทางโบราณคดี หรือตำนานปรัมปราว่าด้วยเรื่องการช่วยเหลือบริษัทบุหรี่ต่างชาติ มาใช้เป็นตัว นำร่อง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่อาจเริ่มต้นในปีหน้า...
------------------------------------------------
ก็เอาเถอะ...หนาวว์ว์ว์-ไม่หนาวว์ว์ว์ มันซ์ซ์ซ์-ไม่มันซ์ซ์ซ์ คงต้องรอดูไปตามเนื้อผ้า หรือต้องรอไปจนกว่าสังเวียนจะเปิด และคงต้องรอดูกันต่อไปอีกด้วยว่า การโดดมารับบทเป็น ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ของคุณน้า เหลิม ในเที่ยวนี้ จะก่อให้เกิดรัศมี บารมี แผ่ซ่านไปจนถึงระดับส่งผลให้ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ของพรรคเผาไทย ต้องหมองคล้ำ หม่นหมอง ลงไปด้วยหรือไม่ เพราะถ้าหากบรรดาสิ่งเหล่านี้ มันมี ปฏิสัมพันธ์ ต่อกันและกัน เผลอๆ...ก่อนหน้าที่จะเกิดรายการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ว่าเป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะ บรรดาแฟนเพลงทั้งหลาย ก็อาจมีโอกาสได้ดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวบุคคล ภายในพรรคเผาไทย เป็น น้ำจิ้ม ก่อนล่วงหน้าเอาเลยก็ไม่แน่...
-------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...โดยสรุปรวมความแล้ว การอาศัย วิถีทางรัฐสภา เป็นหนทาง แนวทาง หรือเป็นเครื่องมือในการระบายความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตและริษยานั้น ยังไงๆ...ย่อมดีกว่า สบายใจกว่า การหันไปอาศัย วิถีทางลงถนน อยู่แล้วแน่ๆ คืออย่างน้อย...ก็ไม่ถึงกับทำให้ชาวบ้าน ชาวช่อง ผู้ไม่รู้อีโหน่ อีเหน่ ต้องพลอย ซวย หรือพลอย ลำบาก ไปด้วย โดยเฉพาะถ้าหากมันไม่ถึงกับเหลือเข็ญ เหลือกำลังลาก เอาจริงๆ การหันมาใช้ เวทีรัฐสภา เป็นทางออก ย่อมน่าจะเข้าท่ากว่า หรือสอดคล้องกับผลประโยชน์ส่วนรวมได้มากกว่า ดังนั้น...ใครที่คิดจะเอา ผลประโยชน์ส่วนตัว มาชักลากให้ใครต่อใครต้องลงถนน ด้วยการปลุกโน่น ปลุกนี่ ด้วยการยุแยง ตะแคงรั่ว กันในลักษณะใดๆ ก็แล้วแต่ ก็น่าจะคิดใหม่-ทำใหม่ได้แล้ว ยิ่งถ้าหากเป็น คนรุ่นใหม่ ด้วยแล้วล่ะก็ สู้หันมาเอานักการเมืองรุ่นเก่า อย่างคุณน้า เหลิม ดาวเทียม เป็นแบบอย่าง แนวทาง น่าจะเก๋กว่ากันเป็นไหนๆ...
--------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Chinese proverb (อีกครั้ง)...“The silkworm weaves its cocoon and stays inside, therefore it is imprisoned; the spider weaves its web and stays outside, therefore it is free. - ตัวไหมชักใยอยู่ในรังไข่ จึงถูกจองจำ แมงมุมชักใยอยู่ภายนอก จึงเป็นอิสระ...”
---------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |