ผลพวงจากม็อบสกายวอล์ก ย่านปทุมวัน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อังกูร จรัสเมธาวิทย์ รอง สว.สอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะ ใน 3 ข้อหา คือ 1.ชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้ง และชุมนุมใกล้วังสระปทุม ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ชุมนุมห่าง 150 เมตร และจัดชุมนุมขวางทางเข้าออกสถานที่ 2.มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ทำให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง และไม่เคารพกฎหมาย 3.ทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์
และจากปรากฏการณ์ดังกล่าว เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้นำม็อบมือใหม่ กับชาวคณะที่กำลังได้ใจ จึงโวตามสไตล์ว่าม็อบจุดติดแล้ว พร้อมกางตารางงานอีเวนต์ให้ดู 12 ม.ค.63 จะไปร่วมกับกลุ่มต่อต้าน รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะจัดงานวิ่งไล่ลุง ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเจ้าตัวบอกว่าเดือนมกราคมลงถนนของจริง
ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคจากปมเงินกู้ 191 ล้านบาท แกนนำพรรคอนาคตใหม่คนสำคัญได้ไปร่วมแลกเปลี่ยนความคิดกับนักการเมืองด้วยกัน ก่อนออกมายอมรับ "รอดยาก" รวมไปถึงปรากฏการณ์เหิมเกริม คณะ ส.ส.โดดขวาง พ.ร.ก.การโอนอัตรากำลังพลฯ ก็เป็นไปตามนัยที่แกนนำคนสำคัญบอกขอ ทิ้งทวน เอาไว้
หันมามองพรรคเพื่อนบ้าน พันธมิตรสำคัญอย่าง พรรคเพื่อไทย ก็ออกมาเคลื่อนไหวในอีกรูปแบบ ล่าสุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กโวยวายกระบวนการยุติธรรม การใช้อำนาจมาตรา 44 เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของตัวเองถูกริบไปขายทอดตลาด
"...ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึด และขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้ เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่ ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉัน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะจริงๆ แล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อน จึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาล นอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย..."
พูดถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เพื่อรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ให้ได้ พรรคนี้จึงงัดกลยุทธ์ บอกชาวบ้าน "หยิบปากกาไปกาพรรคเพื่อไทย ไล่ลุง เลือกพรรคเพื่อไทยไปทวงสัญญา ทวงนโยบายที่รัฐบาลสัญญาแล้วไม่ทำ"
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ในฐานะพี่เลี้ยงใหญ่ของบรรดา ส.ส.ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ได้ออกมาเปิดโผรัฐมนตรีที่จะถูกฝ่ายค้านซักฟอก ประกอบไปด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม 2.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 4.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ไม่เท่านั้นยังกระทุ้ง แย้มไต๋ไปถึงเจ้าสัวเจริญ-เจริญ สิริวัฒนภักดี กับสายสัมพันธ์อันแนบแน่นที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้สนับสนุนลักษณะต่างตอบแทน
ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่เพื่อไทยช่วยรุมขย่มผ่านกระบวนการช่องทางสภา แม้จะไม่สามารถเผด็จศึกโค่นล้มได้ เนื่องจากจำนวนเสียงไม่พอ แต่อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะตอกลิ่ม ขยายแผลให้เห็นถึงขบวนการ ทุน ทหาร และการสืบทอดอำนาจ
ชะตากรรมพรรคอนาคตใหม่ ถึงนาทีนี้คนในพรรคฟันธงไม่รอดแน่ จึงงัดทุกกลยุทธ์ ทุกกระบวนท่า เปิดหน้า ขยายแนวรบด้านนอกสภาเต็มรูปแบบ ส่วนเพื่อไทยที่พลังเสื้อแดงอ่อนโรยแรง แกนนำโดนคดี หลบลี้หนีหน้า จึงหันกลับมาเล่นบทในสภา คอยบั่นทอนความน่าเชื่อถือผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
อนาคตใหม่ เพื่อไทย นอกในประสาน แต่เป้าหมายเดียวกัน "ขับไล่รัฐบาลประยุทธ์".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |