17 ธ.ค. 62- นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาของปี 2562 คาดการณ์ว่าจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 0.13% หรือเรียกว่าแทบจะไม่มีการเติบโตเลย จากมูลค่าที่ 89,213 ล้านบาท โดยในปีหน้า 2563 เชื่อว่าสถานการณ์ยังคงถดถอยอย่างต่อเนื่อง หรือติดลบประมาณ 0.15% เนื่องจากยังไม่พบว่ามีปัจจัยบวกที่ช่วยทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้เม็ดเงินโฆษณากันมากขึ้น
สำหรับในช่วงปลายปี 2562 นี้ นับเป็นจังหวะที่เม็ดเงินโฆษณาน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วง 8 วันสุดท้ายของเดือนธันวาคม เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนมากได้อัดงบประมาณไปช่วงต้นเดือนกันอย่างหนัก ก่อนถึงเวลาเฉลิมฉลอง ทำให้สถานีโทรทัศน์บางช่องได้มีการปรับกลยุทธ์นำเสนอคอนเทนต์ โดยในส่วนของช่องโมโน 29 (MONO 29) ยอมที่จะไม่รับโฆษณาระหว่างวันที่ 23 ธ.ค. 2562 – 2 ม.ค. 2563 เพื่อเตรียมฉายซีรียส์และภาพยนตร์แบบมาราธอนไม่มีโฆษณาระหว่างการรับชม มองว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ช่องโมโน สามารถมีเรทติ้งในช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น
ขณะที่ช่อง 3 , 7 และ ONE ก็เตรียมจะนำละครหรือคอนเทนต์มารีรอนและออกอากาศแบบมาราธอนเช่นเดียวกัน แต่ยังคงมีโฆษณาอยู่
ขณะเดียวกันบริษัทยังประเมินสถานการณ์ของสื่อดั้งเดิม ทั้งในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ว่าจะยังคงมีการเติบโตลดลงต่อเนื่อง โดยทีวีนั้นจะมีเพียงแค่ 6 ช่องเท่านั้นที่เหนื่อยน้อยหน่อย แต่ที่เหลือต้องยอมรับว่าค่อนข้างลำบากทีเดยว ซึ่งในตอนนี้แม้แต่ทีวีช่องหลักยังมีการนำคอนเทนต์มาฉายซ้ำมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนต่ำและยังพอมีเรทติ้งจากฐานผู้ชมอยู่ ส่วนการมีโฮมช้อปปิ้งในช่องต่างๆ นั้น มองว่าหากช่วยให้ธุรกิจดีได้คงเห็นผลนานแล้ว เพราะทุกช่องก็เปิดรับ อาจมีผลดีอยู่บ้างในช่องหลักที่มีฐานคนดู
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ต่างๆ ในปีหน้า อาจทำให้ราคาโฆษณาถูกลง แต่ไม่ใช่ในลักษณะของการลดราคา เป็นการเจรจาหลังบ้านเพื่อต่อรองราคากันมากกว่า อย่างช่องโมโน 29 และช่องเวิร์คพอยท์อาจมีราคาถูกลงเฉลี่ยที่ 10% ขณะที่สถานีโทรทัศน์ระดับเทียร์ 2 และ 3 อาจถูกลงมากกว่านั้นหรือประมาณ 30-50%
“จากสภาพของภาพรวมตลาดและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ต้องยอมรับว่าเอเจนซี่ได้รับผลกระทบเยอะมาก เรียกว่าปี 2562 นี้ค่อนข้างเหนี่อยสุดในรอบ 20 ปีก็ว่าได้ ซึ่งที่ผ่านมาเอเจนซี่ก็มีการปรับตัวมาหลายปีแล้ว โดยใช้วิธีการออมนิชาแนล ดูอินไซต์ของผู้บริโภคเป็นหลัก ขณะที่การฉายคอนเทนต์แบบมาราธอนก็นับเป็นครั้งแรกของสถานีโทรทัศน์เช่นกัน” นายภวัต กล่าว
อย่างไรก็ดี ในปี 2563 สัดส่วนของสื่อโทรทัศน์จะปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 48% จากปี 2562 อยู่ที่ 51% ขณะที่ดิจิตอลแพลตฟอร์มและอินเตอร์เน็ตรวมกันเพิ่มเป็น 27% จากปีนี้ 23% โดยสื่อนอกบ้านและทรานสิตน่าจะรวมกันแล้วได้ 13% สื่อวิทยุในเขตกรุงเทพฯ 5% หนังสือพิมพ์ 4% โรงภาพยนตร์ 3%
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |