หนุนทำปฏิญญา หวังลดอุบัติเหตุ เริ่ม7วันอันตราย


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ กำชับทุกฝ่ายคุมเข้มลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตลอดทั้งปี ประเดิมช่วงปีใหม่ 2563 ขอของขวัญตัวเลขความสูญเสียลดลง หนุนทำปฏิญญาไทยแลนด์ให้รักตัวเอง-ครอบครัว-คนอื่น "บิ๊กป้อม" สั่งหน่วยมั่นคงดูแล รปภ.ทุกจุดเสี่ยง ย้ำนั่งกระบะหลังเดินทางยังแค่ขอความร่วมมือไม่ถึงห้ามเด็ดขาด

    ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 16 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ถือเป็นปัญหาที่นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้ และเป็นโศกนาฏกรรมของสังคมไปถึงระดับชาติ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เราจึงต้องช่วยแก้ปัญหา โดยรัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันความปลอดภัยบนท้องถนนแบบองค์รวม ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว 
    "ที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ได้มีมาตรการออกมาอย่างเข้มงวด แต่สิ่งสำคัญอย่างเดียวคือคน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหากบังคับใช้กฎหมายมากๆ ก็จะมีผลกระทบกับทุกคน ซึ่งภายใต้ปฏิญญามอสโกได้ตั้งเป้าลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากร 1 แสนคนภายในปี 2563 ซึ่งในระยะเวลาที่กำหนดผมอยากให้ลดให้เร็วที่สุด ให้เหลือศูนย์ให้ได้ โดยมีความกังวลหากมีคนเจ็บ คนตาย และมีความสูญเสียเกิดขึ้น ดังนั้นทุกคนไม่ว่าทำอะไรก็ตามอย่าให้เกิดผลกระทบต่อคนอื่น ขณะเดียวกันผมตั้งเป้าอยากให้รักษาความปลอดภัยให้ได้ตลอดทั้งปี ทั้งในช่วงปกติและเทศกาลสำคัญ ไม่ต้องการให้มีการเจ็บการตายทั้งสิ้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ผ่านมาพบกลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุในเส้นทางถนนท้องถิ่น ตำบลและหมู่บ้าน จึงจำเป็นต้องใช้กลไกในระดับพื้นที่ และต้องได้รับความร่วมมือจากท้องถิ่นสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งถือเป็นงานหนักทั้งสิ้น ตนอยากให้แก้ปัญหาให้เร็วสุดเพื่อขอเป็นของขวัญในปีนี้และปีต่อๆ ไปลดให้ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปี 2562 มีกว่า 7 แสนคนที่บาดเจ็บสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงสิ้นปีนี้จะดูว่าอุบัติเหตุลดลงได้เท่าไหร่ และในปี  2563 ขอให้ลดลงให้ได้มากที่สุด
    "ผมอยากให้ทำปฏิญญาไทยแลนด์ คือทุกคนต้องรักตัวเอง รักครอบครัว และรักคนอื่น ต้องรักสามอย่างนี้เท่ากันปัญหาก็จะไม่เกิด พร้อมสร้างชาติของเราให้เข้มแข็งในอนาคต ซึ่งตนมองว่าบางคนน่าจะทำประโยชน์ให้ประเทศได้อีกมากในอนาคต จึงไม่ควรมาบาดเจ็บสูญเสียไปก่อนเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน" นายกฯ กล่าว
    จากนั้นนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานสรุปผลการดำเนินโครงการประชุมวิชาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่
    นายนิพนธ์แถลงว่า การเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าร้อยละ 70 มักเกิดขึ้นบนถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากกรณีดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ และบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบัน และเป็นส่วนหนึ่งของที่มาในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเกี่ยวกับท้องถิ่นจำนวน 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2562), พระราชบัญญัติเทศบาล ฉบับที่ 14 (พ.ศ.2562) และพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2562) 
    "การพัฒนาความปลอดภัยทางถนนไปสู่ความยั่งยืนได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือและการประสานงานจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตลงได้อย่างน้อย 1 ราย อันจะมีผลทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม" รมช.มหาดไทยกล่าว
    วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม VTC กับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เนื่องจากเราต้องการไม่ให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงได้กำชับหน่วยงานให้เตรียมการดูแลความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชนในทุกๆ เรื่อง ทั้งโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ รวมทั้งให้ดูแลในทุกๆ เรื่องโดยเฉพาะให้เปรียบเทียบตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียในปี 2563 ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
    ถามถึงปัญหาการนั่งท้ายรถกระบะ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะให้ความร่วมมือหรือไม่ ซึ่งในส่วนเจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอยู่แล้ว และก็ไม่ได้มีการหยุดพัก ทหารก็เปิดค่ายในการอำนวยความสะดวกจุดพักรถให้ประชาชนเหมือนเดิม รวมถึงมาตรการเมาแล้วขับจับยึดรถก็ยังคงบังคับใช้
    ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานความพร้อมของเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ชลบุรี, นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช โดย พล.อ.ประวิตรกำชับขอให้ฝ่ายข่าวเพิ่มความเข้มด้านงานการข่าวในทุกมิติ และจับตากลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในข่ายเป็นปัญหาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เมืองใหญ่และในพื้นที่ภาคใต้ เครือข่ายนิยมความรุนแรง กลุ่มก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การแสวงประโยชน์จากการลักลอบค้ามนุษย์และสินค้าผ่านแดน การเคลื่อนย้ายยาเสพติดและอาวุธสงคราม เป็นต้น
    "ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานความมั่นคงในทุกจังหวัดตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งมาตรการป้องกันและแก้ปัญหา ตั้งแต่พื้นที่ชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นใน โดยให้ร่วมหารือและปรับแผนเผชิญเหตุให้สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาพรวม พร้อมทั้งให้สำรวจความพร้อมของกำลังคนและนำเทคโนโลยีเฝ้าตรวจมาเสริมให้เพียงพอกับการดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก พื้นที่จัดงานปีใหม่ รวมทั้งชุมทางคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งนี้ให้มีแผนรองรับปัญหาอัคคีภัยควบคู่กันไปด้วย" พล.ท.คงชีพกล่าว
    โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มบังคับใช้กฎหมายจราจรในช่วง 7 วันอันตรายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะสาเหตุหลักของอุบัติเหตุคือ  เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว และการไม่สวมหมวกกันน็อก พร้อมกำชับให้ดำรงความต่อเนื่องในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในทุกท้องที่ โดยให้ดำเนินการตามแผนกวาดล้างอาชญากรรมต่อเนื่องกันไป และขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกับจิตอาสาอย่างใกล้ชิด
    "เราต้องรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและปรับปรุงการทำงานในพื้นที่ร่วมกันไป รวมทั้งต้องสร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและดูแลกันเอง ทั้งการป้องกันอุบัติเหตุในครอบครัวและการดูแลความปลอดภัยภายในชุมชน" โฆษกประจำรองนายกฯ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"